"จักรภพ เพ็ญแข" จากอดีต รมต.สำนักนายกฯ สู่ ผู้ลี้ภัยทางการเมือง

28 มี.ค. 2567 | 08:55 น.

เปิดเส้นทางชีวิต "จักรภพ เพ็ญแข" จากอดีตพิธีกรชื่อดัง อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯในรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช สู่ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองใช้ชีวิตในต่างแดนยาวนานกว่า 15 ปี ฐานข้อหาเป็นอั้งยี่

เป็นข่าวฮือฮาที่คอการเมืองกำลังพูดถึงหลังจากที่ นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประกาศผ่านเฟซบุ๊ก จักรภพ เพ็ญแข – Jakrapob Penkair ว่า จะเดินทางกลับประเทศไทยในวันนี้ (28 มี.ค.67) หลังจากที่ลี้ภัยใช้ชีวิตอยู่ในประเทศกัมพูชามากว่า 10 ปี

โดยล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ตำรวจ บก.ป.ได้เข้าคุมตัวนายจักรภพพาไปขึ้นรถเพื่อเดินทางไปกองปราบปรามดำเนินคดีตามหมายจับในข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และข้อหาเป็น อั้งยี่

ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายจักรภพ เพ็ญแข มีหมายจับในคดีอาญารวม 9 หมาย ผ่านกระบวนการยุติธรรมหลายขั้นตอน ปัจจุบันเหลือหมายจับอยู่อีก 1 คดี คือ ความผิดฐานอั้งยี่ซ่องโจรซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2560 มีอายุความ 20 ปี 

"จักรภพ เพ็ญแข" จากอดีต รมต.สำนักนายกฯ สู่ ผู้ลี้ภัยทางการเมือง

ประวัติ "จักรภพ เพ็ญแข"  

นายจักรภพ เพ็ญแข เกิดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2510 ปัจจุบันอายุ 56 ปี 

การศึกษา

  • ประถมและมัธยมศึกษา โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 
  • ปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 
  • ปริญญาโท และปริญญาเอก วิทยาลัยระหว่างประเทศศึกษาชั้นสูง พอล เอช.นิทซ์ (SAIS) มหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ สหรัฐอเมริกา

"จักรภพ เพ็ญแข" จากอดีต รมต.สำนักนายกฯ สู่ ผู้ลี้ภัยทางการเมือง

นายจักรภพ เป็นที่รู้จักและคุ้นหน้าคุ้นตาจากการเป็นผู้ดำเนินรายการโทศทัศน์หลายช่อง ก่อนผันตัวเองเข้าสู่ถนนการเมือง นายจักรภพได้รับการแต่งตั้งเป็น โฆษกประจำสำนักนายกฯ ในรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร ต่อมาได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคไทยรักไทยรวม 2 ครั้งแต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง

ครั้งแรกในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2548 จักรภพ ลงเลือกตั้งที่ กทม. เขต 30 แทน จักรพันธุ์ ยมจินดา โดยแพ้ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์

ครั้งที่สองในการเลือกตั้งทั่วไป วันที่  2 เมษายน 2549 นายจักรภพ เป็นผู้สมัครเพียงคนเดียวใน กทม.เขต 5 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้งเนื่องจากได้คะแนนไม่ถึง 20% โดยที่มีผู้ไม่ลงคะแนนสูงถึง 55,141 คะแนน

อย่างไรก็ดี ในรัฐบาลทักษิณ 2 นายจักรภพก็ได้รับแต่งตั้งเป็น "รองเลขาธิการนายกฯ"  

หลังจากคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ.2549 นายจักรภพ เป็นแกนนำคนสำคัญจัดเวทีปราศรัยต่อต้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่ท้องสนามหลวงโดยใช้ชื่อว่า "แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ" (นปก.) ก่อนจะมาเป็นกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. 

ต่อมาในปี 2550 เมื่อพรรคพลังประชาชน ชนะการเลือกตั้ง โดยนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี และในวันที่ 6 ก.พ.2551 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ นายจักรภพ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่กำกับดูแลสื่อมวลชนภาครัฐ และในปีเดียวกันนั้น นายจักรภพ ได้เป็นประธานในการเปลี่ยนแปลงสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 เป็น สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT)

กระทั่งในวันที่ 22 พ.ค.2557 เกิดรัฐประหารในประเทศไทย คณะรักษาความสงบแห่งชาติออกคำสั่งที่ 49/2557 เรียกให้ "นายจักรภพ" มารายงานตัว แต่นายจักรภพไม่ได้ไปตามคำสั่งดังกล่าว

ศาลทหารจึงออกหมายจับข้อหาฝ่าฝืนการไปรายงานตัวและข้อหามีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง และเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2560 ศาลอาญาได้ออกหมายจับในข้อหาร่วมกันมีอาวุธเครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและเป็น "อั้งยี่"

"จักรภพ เพ็ญแข" จากอดีต รมต.สำนักนายกฯ สู่ ผู้ลี้ภัยทางการเมือง

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติบางฉบับที่หมดความจำเป็นและไม่เหมาะสมกับกาลปัจจุบัน พ.ศ.... ซึ่งกำลังเปิดรับฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านทางเว็บไซต์ ระบบกลางทางกฎหมาย อยู่ในขณะนี้ 

พบว่า บัญชีท้าย พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศ คสช.และคำสั่ง หัวหน้า คสช. ฯ จำนวน 20 ฉบับนั้น มีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 49/2557 เรื่อง ความผิดสำหรับการสนับสนุนการชุมนุมทางการเมือง ลงวันที่ 30 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 รวมอยู่ด้วย