องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International หรือ TI) ได้เผยแพร่ผลการสำรวจดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index หรือ CPI) หรือ ดัชนีคอร์รัปชัน ประจำปี 2566 โดยจากจำนวนประเทศ 180 ประเทศทั่วโลกนั้น
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า ประเทศที่ได้คะแนนสูงที่สุดคือ 90 คะแนน จัดเป็นอันดับ 1 ของโลก คือ ประเทศเดนมาร์ก, อันดับ 2 ของโลกได้ 87 คะแนน คือ ประเทศฟินแลนด์ อันดับ 3 ของโลกได้ 85 คะแนน คือ ประเทศนิวซีแลนด์
สำหรับประเทศไทย ได้ 35 คะแนน จัดอยู่ในอันดับที่ 108 ของโลก ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 2565 ไทยได้คะแนนลดลง และมีอันดับที่ต่ำลงจากปี 2565 ซึ่งในปี 2565 ไทยได้คะแนน 36 คะแนน จัดอยู่ในอันดับที่ 101 ของโลก
นอกจากนั้นในระดับอาเซียน ไทยยังอยู่ในอันดับที่ 4 ของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนซึ่งประเทศที่ได้คะแนนสูงสุด คือ ประเทศสิงคโปร์ ได้ 83 คะแนน จัดอยู่ในอันดับที่ 5 ของโลก รองลงมา คือ มาเลเซีย ได้ 50 คะแนน และเวียดนาม ได้ 41 คะแนน
ทั้งนี้ ผลการสำรวจดัชนีการรับรู้การทุจริตของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2566 นั้น เป็นการประเมินจากแหล่งข้อมูล 9 แหล่ง โดยประเทศไทยได้คะแนนเพิ่มขึ้น 1 แหล่ง คือ แหล่งข้อมูล The Political and Economic Risk Consultancy (PERC) เพิ่มขึ้นจาก 35 คะแนนในปี 2565 เป็น 37 คะแนน
และมีแหล่งข้อมูลที่คะแนนคงที่ จำนวน 5 แหล่ง ได้แก่ แหล่งข้อมูล Economist Intelligence Unit Country Risk Ratings (EIU) 37 คะแนน แหล่งข้อมูล Global Insight Country Risk Ratings (GI) 35 คะแนน แหล่งข้อมูล IMD World Competitiveness Yearbook (IMD) 43 คะแนน แหล่งข้อมูล PRS International Country Risk Guide (PRS) 32 คะแนน และแหล่งข้อมูล Varieties of Democracy Institute (V-DEM) 26 คะแนน
ขณะที่มีแหล่งข้อมูลที่ประเทศไทยได้คะแนนลดลง 3 แหล่ง คือ แหล่งข้อมูล Bertelsmann Stiftung Transformation Index (BF (TI)) ลดลงจาก 37 คะแนนในปี 2565 เป็น 33 คะแนน, แหล่งข้อมูล World Economic Forum (WEF) ลดลงจาก 45 คะแนนในปี 2565 เป็น 36 คะแนน และแหล่งข้อมูล World Justice Project (WJP) ลดลงจาก 34 คะแนนในปี 2565 เป็น 33 คะแนน
ทั้งนี้ ป.ป.ช. ได้วิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ 3 แหล่งข้อมูลที่ประเทศไทยได้คะแนนนั้น คาดว่า อาจมีสาเหตุมาจากมุมมองของผู้ตอบแบบสอบถาม และผู้เชี่ยวชาญในแหล่งข้อมูลดังกล่าวที่รับรู้ว่า ยังคงมีปัญหาการจ่ายเงินสินบนให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อแลกกับการได้รับการอนุมัติ/อนุญาต การอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ หรือเพื่อเพิ่มโอกาสและความได้เปรียบในการแข่งขัน
ประกอบกับยังคงปรากฏกรณีที่เป็นข่าวเกี่ยวกับการทุจริตใช้ตำแหน่งหน้าที่เพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว การเรียกรับสินบนของเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมทั้งการใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อประโยชน์ส่วนตัวอยู่เป็นระยะ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ