"สุทิน"ยันพร้อมอพยพคนไทย รอแค่"อิสราเอล"อนุญาต

09 ต.ค. 2566 | 08:22 น.

"สุทิน"ยันกองทัพอากาศ พร้อมรับคนไทยในอิสราเอลกลับประเทศ รอเพียงขั้นตอนการอนุญาต ชี้กรณีเกิดเหตุรุนแรง การอพยพคนไทย 3 หมื่นคน ต้องใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำของการบินไทยช่วยอีกแรง

วันที่ 9 ต.ค.2566 นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  เปิดเผยถึงการให้ความช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอลว่า  กองทัพอากาศ (ทอ.)เป็นหน่วยงานหลักในการช่วยรัฐบาลรับคนไทยกลับประเทศ โดยได้เตรียมเครื่องบินไว้ทั้ง C-130 และA 430 รวมไปถึงนักบิน และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานก็พร้อมในการดูแลคนไทยระหว่างเดินทาง

รวมทั้งการช่วยเหลือทางการแพทย์หรือการประสานงานด้านอื่นๆ ที่พร้อมจะให้การรักษาคนไทยระหว่างเดินทางได้โดยไม่ต้องวิตกกังวล ขณะนี้เหลือเพียงขั้นตอนการประสานอพยพคนไทย โดยทางปฏิบัติต้องได้รับอนุญาตจากประเทศอิสราเอล และดูแลอำนวยความสะดวก จึงจะไปรับคนไทยได้
 

มว.กลาโหม กล่าวว่า จากการที่มาดูการเตรียมพร้อมของกองทัพอากาศ ในวันนี้ถือว่า สบายใจและมั่นใจว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่จะเป็นห่วงเพียงว่า สถานการณ์ในพื้นที่ ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมว่า จะรุนแรงขึ้นหรือจะลดลง ถ้ารุนแรงขึ้นสิ่งที่กลัวคือการอพยพคนไทย 30,000 คน อาจจะไม่ทัน จึงต้องขอความร่วมมือจากการบินไทยอีกทางหนึ่งในแบบเครื่องบินเช่าเหมาลำ

นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

สำหรับเส้นทางการบินไปรับคนไทยก็ได้วางแผนไว้แล้ว แต่เท่าที่ทราบน่านฟ้าประเทศอิสราเอลยังไม่ปิด แต่ถ้าปิดก็มีประเทศรอบๆที่จะใช้เป็นทางผ่าน เช่น จอร์แดน ซาอุดีอาระเบีย และไซปรัส พร้อมย้ำความปลอดภัย 100% ในการดูแลคนไทยบนเครื่อง แต่ถ้าเป็นเรื่องสถานการณ์ หรือการโจมตี การสู้รบต่างๆ เป็นเรื่องที่ต้องประเมินร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ และทางอิสราเอล แต่ถ้าทางการอพยพทางอากาศยานมีปัญหา ก็คงใช้วิธีอื่นในการช่วยเหลือ
 

สำหรับกรณีคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันเบื้องต้นมีข้อมูลคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน 12 คน ส่วนผู้เสียชีวิตยังต้องติดตามและประเมินวันต่อวัน และการติดตามช่วยเหลือต้องประสานกับทางอิสราเอลดำเนินการ จุดยืนของกองทัพต่อสถานการณ์สู้รบในตะวันออกกลางว่า แต่ละเหล่าทัพมีจุดยืนเหมือนกัน คือต้องเตรียมพร้อมสูงสุดเพื่อช่วยเหลือคนไทย โดยกองทัพไทยเป็นเจ้าภาพ 

ส่วนผลกระทบต่อ สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ต้องมีการประเมินสถานการณ์ รวมไปถึงจะต้องดูแลไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ และนักธุรกิจที่เป็นประเทศคู่ขัดแย้ง และเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นอิสราเอลหรือปาเลสไตน์

กรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าการช่วยเหลืออพยพคนไทย มีความล่าช้านั้น นายสุทินย้ำว่า แม้วันนี้เราพร้อมบินไปรับคนไทย แต่ก็ต้องรอขั้นตอนจากทางอิสราเอล เท่าที่ตรวจสอบตอนนี้ยังไม่มีประเทศไหนที่อพยพพลเมืองออกมา มีเพียงบางประเทศที่เดินทางเข้าไปถึงแล้ว แต่ยังบินกลับไม่ได้ เพราะฉะนั้นยืนยันว่าประเทศไทยไม่ล่าช้า และเตรียมพร้อมที่สุด

นายสุทิน กล่าวอีกว่า จากการประเมิน กรณีคนไทยโดนจับตัวไป ไม่ได้จับไปเรียกค่าไถ่และไม่ได้เจาะจงว่าเป็นประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นการจับแบบกวาดต้อนทุกๆประเทศ ส่วนถ้าหากในอนาคตจะมีการเรียกค่าไถ่นั้นทางกระทรวงต่างประเทศกำลังวางแผนรองรับอยู่

เมื่อถามว่าเป้าหมายการจับตัวเพื่อไปเป็นโล่มนุษย์ใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ก็ทำนองนั้น