รู้จัก"อรรถพล เจริญชันษา" อธิบดีกรมอุทยานฯ คนใหม่

29 ก.ย. 2566 | 03:16 น.

เปิดประวัติ“อรรถพล เจริญชันษา” อธิบดีกรมอุทยานฯ คนใหม่ อดีตคู่กรณี "ปารีณา" คดีรุกพื้นที่ สปก.จังหวัดราชบุรี

หลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี  เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 เห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง 7 ตำแหน่งในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

โดยมีชื่อ "อรรถพล เจริญชันษา" อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ แทน "นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา" ที่อยู่ระหว่างตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง

"ฐานเศรษฐกิจ" พาไปรู้จัก "อรรถพล เจริญชันษา"อีกครั้ง
    
"อรรถพล" เกิดเมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2509 อายุ 57 ปี จบจากโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย จบปริญญาตรีที่ คณะวนศาสตร์ รุ่น 49 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปริญญาโท สาขาวิชาส่งเสริมการเกษตร และสหกรณ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช รวมถึงผ่านหลักสูตรนักบริหารระดับสูง (นบส.1) สำนักงาน ก.พ. 

รู้จัก\"อรรถพล เจริญชันษา\" อธิบดีกรมอุทยานฯ คนใหม่

"อรรถพล" เคยเป็นนักวิชาการป่าไม้ชำนาญพิเศษ สำนักงานป้องกันปราบปราม และควบคุมไฟป่า ต่อมาเป็นผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่า และควบคุมไฟป่า

จากนั้นเป็นผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม จังหวัดสมุทรสงคราม  ต่อมาได้ขยับเป็นรองอธิบดีกรมป่าไม้

ช่วงที่ดำรงตำแหน่ง รองอธิบดีกรมป่าไม้ ประกาศภารกิจเน้นป้องกันปราบปรามการบุกรุกป่าไม้ และยังเป็นหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) รวมถึงได้รับเครื่องหมายพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้ 

และได้รับคัดเลือกเป็นข้าราชการพลเรือนดีเด่น และเป็น อธิบดีกรมป่าไม้ ในปี 2561-2563 


    

ปี 2564 "อรรถพล"ถูกโยกข้ามหน่วยไปเป็นอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ หลังจากดำรงตำแหน่งประมาณ 1 ปี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งเป็นอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในปี 2565  

ช่วงเกิดกรณีเรียกรับสินบนกรมอุทยานแห่งชาติฯ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขณะนั้น มีคำสั่งให้ “อรรถพล” รักษาการอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ

และล่าสุดเมื่อ วันที่ 26 กันยายน2566 ครม.มีมติแต่งตั้งให้เป็นอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯคนใหม่

ผลงานโดดเด่นของ "อรรถพล" ช่วงปี 2562 ขณะนั้นเป็นอธิบดีกรมป่าไม้ มีบทบาทสำคัญในการปราบปรามขบวนการบุกรุกพื้นที่ป่า รวมทั้งคดีบุกรุกพื้นที่ สปก.ที่จังหวัดราชบุรี โดยน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในขณะนั้น กระทั่งศาลฎีกามีคำสั่ง ให้ น.ส.ปารีณา ต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ สส. และโดนตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต