รายงานพิเศษ : “เศรษฐา”สั่งลุยล้างบางมรดก คสช.ขจัดอุปสรรคธุรกิจ

รัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน เดินหน้าบริหารประเทศเต็มตัว ด้วยการคลอดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อย่างเป็นทางการนัดแรก เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2566 ที่ผ่านมา

ทั้งการลดราคาน้ำมันดีเซลให้ต่ำกว่า 30 บาท ภายในวันที่ 20 ก.ย.นี้ ลดค่าไฟฟ้าจาก 4.45 บาท เหลือ 4.10 บาท เริ่ม ก.ย.นี้ พักหนี้เกษตรกรและธุรกิจขนาดเล็ก 3 ปี รวมถึงเปิดวีซ่าฟรีสำหรับนักท่องเที่ยวจีน และคาซัคสถาน ระหว่างวันที่ 25 ก.ย.-29 ก.พ.2567 ทั้งยังเตรียมปรับจ่ายเงินเดือนข้าราชการเป็น 2 ครั้งต่อเดือน จากเดิมจ่ายเดือนละครั้ง

ล้างบางมรดก คสช.

นอกจากนี้ น.สพ.ชัย วัชรงค์ โฆษกรัฐบาล ยังเปิดเผยหลังการประชุม ครม. ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ได้สั่งการให้แต่ละกระทรวงไปดูว่า ที่ผ่านมามีมติครม.อะไรบ้างที่ประกาศตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลต่างๆ โดยทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ระบุมี 178 ชุด นายกฯ จึงให้ไปดูภายในวันที่ 25 ก.ย.นี้ มีคณะกรรมการชุดใดที่ยังคุ้มค่าอยู่ควรจะมีต่อไป ให้เสนอมา พร้อมเหตุผล ถ้าไม่มีเหตุที่ดียกเลิกทั้งหมด 

นอกจากนั้น ให้กระทรวง ทบวง กรม ที่รับคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือ อำนาจ คสช. และยังต้องปฏิบัติตามนั้น ให้ไปทบทวนทั้งหมดว่า บรรดาคำสั่ง คสช. หรือ หัวหน้า คสช. ทั้งหลาย มีอะไรจำเป็นต้องคงไว้หรือไม่ โดยต้องเสนอกลับมาภายในวันที่ 9 ต.ค.นี้ ถ้าไม่เสนอมาถือเป็นอันยกเลิกทั้งหมด 

“ถามว่าทำไมต้องมีคำสั่ง 2 ข้อนี้ ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ (ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย) ระบุว่า ประเทศไทยถ้าไม่มีกฎระเบียบที่ไปกดทับ การทำมาหากิน ทำธุรกิจจะสะดวกกว่านี้ จีดีพีจะเด้งทันทีไม่น้อยกว่า10-15% ขอเพียงอย่ามีกฎระเบียบหยุมหยิมมากเกินไป รัฐบาลตระหนักเรื่องซึ่งแทบไม่ต้องลงทุนอะไร เพียงแค่อย่าไปทำร้ายตัวเอง สร้างกฎระเบียบที่เกินความจำเป็น อันนี้จะเป็นคุณูปการมาก เป็นมาตรการเชิงรุกทางเศรษฐกิจ” 

โฆษกรัฐบาล กล่าวด้วยว่า "นายกฯ ใช้คำพูดว่า ต่อไปนี้นะครับ ประชาชนคิดจะทำอะไร มีความคิดสร้างสรรค์จะทำอะไร ถ้าไม่มีกฎหมายเขียนไว้ว่า ห้าม ทำให้ถือว่าทำได้ทุกอย่าง เราเปลี่ยนยุคแล้ว" 

ส่วนการยกเลิกคำสั่ง คสช. ใช้อำนาจอะไรยกเลิก หรือ ต้องออกเป็นพระราชบัญญัติ น.สพ.ชัย กล่าวว่า "มติ ครม. ก็ยกเลิกคำสั่ง คสช. ได้ ตอนนี้รัฐบาลนี้เป็นรัฏฐาธิปัตย์ ยกเลิกได้อยู่แล้ว"

“เศรษฐา”ปรึกษากฤษฎีกา

ทัดมาวันรุ่งขึ้น นายเศรษฐา ทวีสิน ออกมากล่าวถึงแนวทางยกเลิกคำสั่ง คสช.ว่า เรื่องนี้ต้องปรึกษาคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า กฎหมายบางข้อที่ไม่ได้ใช้และเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน และการปฏิบัติหน้าที่ของราชการก็ยกเลิกไป ถ้ายกเลิกไม่ได้ก็นำกลับเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ใหม่ 

“เป็นเพียงการพูดคร่าวๆ เราพยายามทำให้เป็นรัฐสนับสนุน ถ้ากฎหมายอะไรที่บอกทำไม่ได้ ก็อยากให้รีบทำ แต่ต้องไม่ขัดหลักนิติธรรมของการบริหารจัดการของประเทศ และการดำเนินธุรกิจ”

เมื่อถามว่าการสื่อสารเรื่องกฎหมายต้องมีรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย หรือผู้ที่สามารถมาสื่อสารเรื่องกฎหมายได้หรือไม่  นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ขอรับไปปรับปรุง แล้วจะแจ้งมาอีกครั้งจะดำเนินการอย่างไร เพราะหากยังไม่ครบทั้งหมดก็อาจจะยังไม่รีบแถลง  เข้าใจว่าประชาชนอยากทราบเรื่องที่เราคิดอยู่ทำอยู่ต่อไปอะไรที่ยังไม่ครบ 100%  ก็อาจจะยังไม่แถลง

456 คำสั่ง-ประกาศ คสช.

สำหรับ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ที่ยึดครองอำนาจยาวนานถึง 5 ปี 55 วัน นับจากก่อการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 และพ้นจากตำแหน่งไปเมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2562
ภายหลังการรัฐประหาร ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้าคณะ ได้อ้างอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ และอำนาจพิเศษจาก มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 ออกประกาศ และคำสั่งฉบับต่าง ๆ หลายร้อยฉบับ 

แม้ปัจจุบัน คสช. จะพ้นสภาพไปแล้ว แต่ประกาศ และ คำสั่งหลายฉบับยังได้รับการรับรอง โดย มาตรา 279 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ให้มีผลบังคับใช้ต่อไป จนกว่าจะมี พ.ร.บ. ยกเลิกหรือแก้ไข

นายวิษณุ เครืองาม สมัยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เคยระบุไว้เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2562 ว่า คำสั่ง คสช. คำสั่งหัวหน้า คสช. หรือ การใช้อำนาจตามมาตรา 44 ตลอด 5 ปีมีทั้งหมด 456 ฉบับ แบ่งเป็นประกาศ คสช. 134 ฉบับ คำสั่ง คสช. 166 ฉบับ คำสั่งหัวหน้า คสช. 158 ฉบับ ซึ่งที่ผ่านมาได้ยกเลิกไปแล้ว 74 ฉบับ สิ้นสุดผลเนื่องจากเสร็จภารกิจ 133 ฉบับ เช่น การแต่งตั้งปลัดกระทรวง โยกย้ายอธิบดี  

ขณะที่ยังมีอีก 39 ฉบับ ที่จะสิ้นผลอัตโนมัติในอนาคต เมื่อ คสช. พ้นสภาพไป จึงทำให้มีคำสั่งที่มีผลบังคับใช้อยู่ 210 ฉบับ แต่ทั้งนี้ ใน 210 ฉบับซึ่งมีผลบังคับใช้ เห็นควรยกเลิกโดยใช้คำสั่งหัวหน้า คสช. หรือ ม.44 จำนวน 68 ฉบับที่ไม่มีความจำเป็นแล้ว และหากยังมีความจำเป็นอยู่ก็ถือว่าไม่เหมาะสม ที่จะยังคงมีอยู่ต่อไปในระบอบประชาธิปไตย 

นอกจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ในระหว่างการพิจารณาจัดทำกฎหมาย โดยเมื่อประกาศใช้กฎหมายที่ได้จัดทำแล้ว คำสั่ง คสช. ก็จะสิ้นสภาพไปเหมือนถูกยกเลิกอีก 77 ฉบับ 

และยังเหลืออีก 65 ฉบับที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้คงไว้ เพราะเห็นว่ามีความจำเป็น เช่น เรื่องเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าว และประมงผิดกฎหมาย เรื่องการบินพลเรือน แต่รัฐบาลหน้ามีสิทธิที่จะเสนอยกเลิกหรือแก้ไขเมื่อใดก็ได้

เลิกคำสั่งคสช.บ้างแล้ว

อย่างไรก็ตาม ก่อนการเลือกตั้งปี 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 22/2561 ลงวันที่ 11 ธ.ค. 2562 ให้ยกเลิกประกาศ และ คำสั่ง คสช. จำนวน 9 ฉบับ เพื่อปลดล็อกให้พรรคการเมืองและประชาชนทำกิจกรรมการเมืองได้

ต่อมาได้ยกเลิก ประกาศ คำสั่ง คสช. จำนวน 78 ฉบับ และภายหลังการเลือกตั้ง ได้ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 9/2562 ลงวันที่ 9 ก.ค. 2562 ยกเลิกประกาศ คสช. 32 ฉบับ คำสั่ง คสช. 29 ฉบับ และ คำสั่งหัวหน้า คสช. 17 ฉบับ ที่หมดความจำเป็น 

ในจำนวนนี้เป็นการยกเลิก ประกาศ คสช. 4 ฉบับ และคำสั่งหัวหน้า คสช. 1 ฉบับ ที่เกี่ยวกับการกำหนดให้คดีอยู่ในอำนาจของศาลทหาร โดยให้โอนคดีของพลเรือนที่ค้างการพิจารณาของศาลทหาร ไปให้อยู่ในการพิจารณาของศาลยุติธรรม แต่ไม่กระทบกระเทือนถึงกระบวนพิจารณาที่ทำไปในศาลทหารก่อนวันที่คำสั่งนี้

...มารอดูกันว่า รัฐบาลเศรษฐา จะดำเนินการยกเลิกประกาศ คำสั่ง ซึ่ง เป็นมรดกมาจากยุค คสช. ได้กี่ฉบับ และเป็นเรื่องอะไรบ้าง...