"เศรษฐา" ส่ง "หมอมิ้ง" ถก "รทสช." เรื่องพลังงาน ก่อนสรุปนโยบายรัฐ

01 ก.ย. 2566 | 03:29 น.

"เศรษฐา ทวีสิน" เตรียมส่ง "หมอมิ้ง" หารือ "พรรครวมไทยสร้างชาติ" สรุปนโยบายด้านพลังงาน ก่อนแถลงต่อสภาฯ คาดเว้น "วีซ่า" ช่วงไฮซีซั่น เริ่มให้ทันภายใน 1 ต.ค. 66

(1 ก.ย. 66) ที่ทำการพรรคเพื่อไทย "นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษต่อสื่อมวลชนถึงความคืบหน้านโยบายด้านพลังงาน ว่า ล่าสุดได้โทรไปพูดคุยกับ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานโดยวันนี้จะมีการหารือกันอีกทีเวลา 10.30 น. ซึ่ง "นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช" (หมอมิ้ง) ว่าที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้ ขณะที่ขั้นตอนต่างๆ และงบประมาณคงต้องดูในองค์รวม 

ส่วนกรณีที่ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) แสดงความกังวลต่อการลดค่าไฟ ค่าพลังงาน นายเศรษฐาย้ำว่าเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญสูงสุดอยู่แล้ว 

โดยนโยบายที่เตรียมจะแถลงต่อรัฐสภา ขณะนี้เหลืออีกไม่มาก และวันนี้จะมีการหารือกับ "พรรครวมไทยสร้างชาติ" เพิ่มเติมซึ่งน่าจะเป็นไปได้ด้วยดี และไม่น่าจะมีอะไรต้องเป็นห่วง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่ สมาคมด้านธุรกิจท่องเที่ยวตั้งคำถามถึงนโยบาย "ฟรีวีซ่า" ว่าเป็นการลดค่าธรรมเนียม หรือเป็นวีซ่าฟรี ซึ่งฝ่ายความมั่นคงก็เป็นห่วงว่าหากมีการฟรีวีซ่าจริง จะมีคนบางประเภทเข้ามานั้น ในเรื่องนี้ต้องขออภัยที่สื่อสารไม่ชัดเจน โดยไม่ใช่การฟรีวีซ่า ฟรีวีซ่า คือไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม 

แต่ที่ตนหมายถึงคือ "วีซ่าฟรี คือไม่ต้องขอวีซ่า" เพราะฉะนั้นหากไม่ต้องขอวีซ่าในการเข้าประเทศก็ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการขอวีซ่า และเราเข้าใจว่าทุกภาคส่วนเข้าใจว่าเรายกเว้นการขอวีซ่า น่าจะเป็นชั่วคราวก่อนในช่วงไฮซีซั่น ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่แค่กระทรวงต่างประเทศดูที่ดูแล

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

ซึ่งที่ผ่านมาได้พูดคุยกับ ฝ่ายความมั่นคงและนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน รวมถึงการท่าอากาศยานด้วย ดูทั้งหมดทั้งการเข้ามาในประเทศ ,การขนสินสัมภาระเข้ามาในสนามบิน เรื่องรถโดยสารสาธารณะที่จะเข้ามาในสนามบินด้วยซึ่งได้มีการพูดคุยและเห็นชอบกันในหลักการ 

รวมทั้งยังได้พูดคุยกับว่าที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งทางว่าที่รัฐมนตรีก็เห็นด้วย และพร้อมที่จะผลักดันนโยบายนี้ โดยความสำคัญอย่างยิ่งคือต้นไตรมาส 4 ที่เป็นช่วงไฮซีซั่น ซึ่งหวังว่าจะเริ่มต้นได้ภายใน 1 ตุลาคม 2566

นอกจากนี้นายเศรษฐา ยังได้ระบุถึงการพัฒนาการกีฬาในประเทศว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อยู่ในความดูแลของ "พรรคเพื่อไทย" โดยเมื่อวานที่ผ่านมาได้ เชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาหลายคนพบปะพูดคุยกัน

ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย ยังมีเรื่องของกองทุนพัฒนากีฬาด้วย เข้าใจว่าอีกไม่ถึงเดือน จะมีการจัดเอเชียนเกมส์แล้ว ซึ่งหลายสมาคมยังไม่ได้รับเงินอุดหนุน และค้างกันหลายล้าน 

จึงได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการที่ดูแลทางด้านฝ่ายกองทุนพัฒนากีฬาด้วยว่า ถ้าจ่ายเงินออกมาได้ก็จะเป็นขวัญ และกำลังใจให้กับนักกีฬาไทยที่จะเข้าไปช่วงชิงเหรียญทอง 

เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ประเทศชาติ ถ้าติดขัดตรงไหนก็พยายามเร่งผลักเงินออกมา หลายสมาคมเดือดร้อน อย่างเช่นสมาคมเทควันโดที่มีการติดค้างอยู่เป็น 10 ล้านบาท ตรงนี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วง

ส่วนการกีฬาแห่งประเทศไทยจะตัดงบประมาณ 150 บาทนั้น จะกระทบกับการจัดงาน "Moto gp" ที่จังหวัดบุรีรัมย์ หรือไม่ เรื่องนี้ยังน่าเป็นห่วง เพราะต้องดูว่า 150 ล้านบาท ที่ตัดไปทำอะไร หรือมีทางไหน ที่จะคงไว้ซึ่งกิจกรรมต่างๆโดยที่ลดจำนวนเงินลง