"วันนอร์"เชื่อส.ว.มีวุฒิภาวะมากพอในการตัดสินใจโหวตนายกฯ

07 ก.ค. 2566 | 04:36 น.

"วันนอร์"พร้อมน้อมนำพระราชดำรัสในหลวงไปปฏิบัติ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศชาติ ชี้รัฐสภามีหน้าที่เลือกนายกฯ ไปบริหารประเทศ เชื่อ ส.ว. มีวุฒิภาวะพอโหวตนายกฯ

วันที่ 7 กรกฎาคม 2566 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา พร้อมด้วย นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ร่วมกันแถลงภายหลังรับพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ประธานสภา และรองประธานสภา 

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า พวกเราจะน้อมนำพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานให้สมาชิก เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ในรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภานัดแรก นำไปปฏิบัติ เพื่อประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติต่อไป

ส่วนการโหวตนายกรัฐมนตรีนั้น ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุมรัฐสภา หากพูดก่อนล่วงหน้าอาจจะไม่ตรงกับสถานการณ์จริง หน้าที่ของรัฐสภา คือ ทำตามรัฐธรรมนูญ เป็นองค์กรในการเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อไปบริหารประเทศต่อไป จึงต้องทำหน้าที่นี้เพื่อให้ได้นายกรัฐมนตรี

"ประเทศไม่มีนายกรัฐมนตรีไม่ได้ ปัญหาประเทศ และประชาชน กำลังรอคอยรัฐบาลใหม่ ดังนั้น หน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ต้องสนับสนุนให้การบริหารประเทศบริหารต่อไปได้ตามความเหมาะสม" 

ส่วนที่ ส.ว. ยังกังวลเรื่องการเสนอชื่อคนเดิมซ้ำนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ส.ว.ถือเป็นผู้แทนปวงชนเช่นเดียวกับ ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ การปฏิบัติหน้าที่ก็เป็นอิสระที่จะใช้ดุลพินิจ 

“ส่วนตัวไม่สามารถคาดได้ว่า สมาชิกแต่ละคนจะโหวตอย่างไร แต่ทุกคนมีคุณวุฒิ วัยวุฒิ และ มีหัวใจตรงกัน คือ บ้านเมือง ประเทศชาติ ประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ และในฐานะที่เป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ต้องขอความสนับสนุนจากทุกฝ่าย ทั้งพรรคการเมือง ประชาชน สื่อมวลชน เพราะประเทศต้องการความสมัครสมานสามัคคี เชื่อว่าทุกคนมาทำงานให้กับประเทศ เพื่อให้ได้นายกรัฐมนตรีอย่างที่ประชาชนรอคอย”

ด้านนายปดิพัทธ์ กล่าวว่า กรณีที่หลายฝ่ายกังวลเรื่องการชุมชนนั้น โดยในวันที่ 10 ก.ค.นี้ ประธานสภา จะแบ่งหน้าที่ให้รองประธานสภา ทั้ง 2 คน ส่วนการชุมนุม หรือการรักษาความปลอดภัยนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ แต่มองว่าประชาชนมีสิทธิที่จะชุมชนภายใต้ขอบเขต และอำนาจหน้าที่ของรัฐธรรมนูญ