“ชวน-นิพนธ์” ลงพื้นที่ขอบคุณชาว 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่เลือก ปชป.

28 พ.ค. 2566 | 11:50 น.

“ชวน-นิพนธ์” ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่เลือกประชาธิปัตย์ ยัน ปชป. จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด คงไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตย และสถาบันหลักของชาติ

วันที่ 28 พฤษภาคม 2566 นายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายนิพนธ์ บุญญามณี รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งเมื่อครั้งที่ผ่านมา

“ชวน-นิพนธ์” ลงพื้นที่ขอบคุณชาว 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่เลือก ปชป.

โดยช่วงสายได้เดินทางไปยังพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี มี ดร.ยูนัยดี วาบา ว่าที่ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้ไปทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร ในพื้นที่นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการผลักดันเรื่องการศึกษาเอกชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในสมัยที่นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี

จากนั้น นายชวน และคณะได้เดินทางต่อไปยังพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้กับผู้สมัคร และ พรรคประชาธิปัตย์

 

“ชวน-นิพนธ์” ลงพื้นที่ขอบคุณชาว 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่เลือก ปชป.

 

พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชนว่า พรรคประชาธิปัตย์ ถือกำเนิดจากประชาชน และมีความเข้าใจลึกซึ้งถึงสภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนาในพื้นที่เป็นอย่างดี ซึ่งหลังจากนี้ไม่ว่าจะบทบาทใดพรรคประชาธิปัตย์พร้อมจะเคียงข้างประชาชนเสมอ

ต่อมาในช่วงเย็น ได้เดินทางไปยังพื้นที่ อ.เมืองยะลา จ.ยะลา เพื่อพบปะขอบคุณกลุ่มแฟนคลับประชาธิปัตย์ในเขตเทศบาลนครยะลา ที่มารอต้อนรับส่งกำลังใจ

 

“ชวน-นิพนธ์” ลงพื้นที่ขอบคุณชาว 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่เลือก ปชป.

 

นายนิพนธ์ กล่าวว่า แม้การเลือกตั้งจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่พรรคประชาธิปัตย์จะยังอยู่ตรงนี้เพื่อทำหน้าที่เคียงข้างประชาชน เพื่อประสานการช่วยเหลือต่างๆ

“การทำหน้าที่ของพรรคการเมืองนั้น เน้นย้ำว่า จะต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด การเดินทางมาในวันนี้หลักๆ ก็เพื่อขอบคุณและอยากให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นว่าพรรคประชาธิปัตย์จะยังอยู่เสมอ ทุกบทบาททุกหน้าที่ที่พี่น้องประชาชนมอบให้เราจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และคงไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ”