ร้องป.ป.ช.สอบ 4 ปมทุจริต นอมินีศักดิ์สยาม ที่ดินเขากระโดง สปก.สระบุรี

13 มี.ค. 2566 | 06:20 น.

“ชูวิทย์” ร้อง ป.ป.ช. สอบ 4 ปมทุจริต ทั้ง “นอมินีศักดิ์สยาม-ที่ดินเขากระโดง-สปก.สระบุรี” พ่วงสอบ “สุชาติ” กก.ป.ป.ช.ขาดคุณสมบัติ ครหาปล่อยหน้าห้องวิ่งเต้นคดี จับผิด “เศรษฐา”หากเป็นนักการเมืองไร้อุดมการณ์

วันนี้ (13 มี.ค.66) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบกรณีการทุจริตใน 4 ประเด็น ประกอบด้วย 

1. กรณีนายศักดิ์สยาม ให้นอมินีถือหุ้นใน หจก.บุรีเจริญฯ เพื่อไปรับงานในกระทรวงคมนาคม รวม 40 โครงการ ในช่วงปี 2563-65 แล้วนำเงินที่ได้ไปบริจาคให้กับพรรคภูมิใจไทย  

2.กรณีนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่า รฟท. ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ดำเนินการเพิกถอนที่ดินเขากระโดง ของผู้บุกรุกที่ดิน รฟท. ทั้งที่ ป.ป.ช.เคยมีหนังสือเมื่อปี 2554 ให้เพิกถอนที่ดินของตระกูลชิดชอบที่บุกรุกที่ของ รฟท. แต่ปัจจุบันผ่านมา 13 ปี ยังไม่มีการดำเนินการ โดยรฟท.อ้างว่า เป็นที่ดินที่มีโฉนดไม่สามารถดำเนินการได้ แต่พบว่า ชาวบ้านที่มีที่ดินอยู่ติดกับที่ดินตระกูลชิดชอบ กลับถูก รฟท.ยื่นฟ้องเพิกถอนที่ดินหมดแล้ว 

                    ร้องป.ป.ช.สอบ 4 ปมทุจริต นอมินีศักดิ์สยาม ที่ดินเขากระโดง สปก.สระบุรี

3. ตรวจสอบนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข กรรมการ ป.ป.ช. กรณีขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่ง เนื่องจากคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ได้มีการประชุมครั้งที่ 7 / 2565 ลงวันที่ 21 มี.ค.65 กําหนดว่า ตําแหน่งผู้พิพากษา หัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษ ไม่ใช่ตําแหน่งเทียบเท่าอธิบดีผู้พิพากษา 

ดังนั้น การที่นายสุชาติ  นําหลักเกณฑ์ตําแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษ เทียบเท่าอธิบดี และการดํารงตําแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งมีนบุรีที่ตนได้ดํารงตําแหน่งเพียงแค่ 6 เดือน นํามาเป็นคุณสมบัติในการสมัครคัดเลือกเป็นป.ป.ช. จึงถือว่าขาดคุณสมบัติในการดํารงตําแหน่ง ขัดต่อกฎหมาย 

ทั้งยังพบว่า นายสุชาติ มีการใช้อำนาจครอบงำ สั่งการ ช่วยเหลือผู้กระทำผิด ในการเป็นคณะอนุกรรมการไต่สวน คดี GT200 และ Alpha6 กรณีไม่ชี้มูลความผิด นายกฤษฎา บุญราช อดีตรมว.เกษตรและสหกรณ์ ในการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องตรวจพัสดุรุ่น GT200 และ Alpha6  สมัยเป็นรองผู้ว่าฯ ยะลา 

รวมทั้งข้อครหาปล่อยให้มีการวิ่งเต้นรับเคลียร์คดีต่างๆ โดยที่ปรึกษาหน้าห้องชื่อย่อ ธ. คอยรับวิ่งเคลียร์คดี ทำตัวเป็นคัทเอาท์ ถ้า ป.ป.ช.เคลียร์ได้ก็ไม่ต้องทำอะไรแล้วเรื่องการปราบทุจริต 
และ 4.ตรวจสอบเลขาธิการ ส.ป.ก. กรณีปล่อยปะละเลยให้พนักงาน บริษัท ช.การช่าง ถือครองที่ดิน สปก. อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี จำนวน 68 ไร่ โดยไม่ใช่ผู้ยากไร้ 

                     ร้องป.ป.ช.สอบ 4 ปมทุจริต นอมินีศักดิ์สยาม ที่ดินเขากระโดง สปก.สระบุรี

นายชูวิทย์ ยืนยันว่า การยื่นตรวจสอบในครั้งนี้ ไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ต้องการให้ทรัพย์สมบัติ กลับมาเป็นของประชาชน พร้อมสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าสำนักงาน ป.ป.ช. รวมทั้งนำธนบัตรกงเต็ก กระดาษเงินกระดาษทอง และสำเนาโฉนดที่ดินเขากระโดง โดยระบุว่านายศักดิ์สยามชอบเงิน หาเงินทอนจากโครงการต่างๆ จึงเผาไปให้ เพื่อให้นำไปใช้ในปรโลก 
 

นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า จะตามทำลายพรรคภูมิใจไทย โดยจะไปจังหวัดบุรีรัมย์ จะไปเคาะประตูบ้าน นายเนวิน และ นายศักดิ์สยาม เพราะไม่ใช่บ้านของ นายเนวิน และ นายศักดิ์สยาม แต่เป็นที่สาธารณะ ที่ รฟท.  

และหลังจากยุบสภา ในวันที่ 20 มี.ค. จะยื่นให้กกต.ตรวจสอบเพื่อยุบพรรคภูมิใจไทย กรณีนอมินีที่ถือหุ้นใน หจก.บุรีเจริญ แทน นายศักดิ์สยาม นำเงินที่ได้จากโครงการของกระทรวงคมนาคม ไปบริจาคให้กับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งถือเป็นเงินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อพรรคนำไปใช้ในกิจกรรมการเมืองก็ต้องถูกยุบพรรค

โดยจะบอกให้ กกต.พิจารณาเป็นเรื่องเร่งด่วน และทำให้เสร็จก่อนการเลือกตั้งในเดือน พ.ค. 2566 เพราะถ้าไปยุบหลังการเลือกตั้ง บุคคลเหล่านี้ได้เป็น ส.ส.ก็จะเปล่าประโยชน์ เพราะสามารถย้ายพรรคได้ 

นายชูวิทย์ ยังระบุด้วยว่า กำลังจับจ้อง นายเศรษฐา ทวีสิน ที่มีเบื้องหลังเรื่องสำคัญ และตนมีหลักฐานไว้หมดแล้ว แต่ยังไม่ขอนำมาเปิดเผย ขอดูพฤติกรรม นายเศรษฐา ก่อน ซึ่งจะเรียกว่าตนแบล็กเมลก็ว่าได้  ว่าจะมีความตั้งใจจริงในความเป็นนักการเมืองแค่ไหน 

“ถ้าดูแล้วไม่เข้าท่า เป็นนักการเมืองที่ไม่มีอุดมการณ์ ก็จะเปิดเผยเรื่องเหล่านี้ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับที่ดิน  นอกจากนั้น เห็นว่าผู้ที่เคยเป็นนายหน้าที่ดินอย่าง นายเศรษฐา นายศักดิ์สยาม นายอนุทิน ไม่ควรจะมาดูแลกระทรวงคมนาคม หรือกระทรวงที่เกี่ยวข้อง แต่ควรอยู่กระทรวงวัฒนธรรมเพื่อปรับปรุงตัว” นายชูวิทย์ ระบุ