"จุรินทร์"สวนฝ่ายค้าน! ราคาพืชเกษตรดีทุกตัว ลั่น!FTA ไทย ไล่แซงเวียดนาม

16 ก.พ. 2566 | 04:38 น.

"จุรินทร์"สวนฝ่ายค้าน!! ราคาพืชเกษตรดีทุกตัว ขณะที่เงินเฟ้อลดลง ส่งออกยังบวก ลั่น!" FTA ไทย" กำลังไล่แซงเวียดนาม


วันที่ 16 ก.พ. 2566 ที่ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ขึ้นชี้แจงฝ่านค้านประเด็นต่างๆในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เมื่อช่วงค่ำวานนี้(15 ก.พ.66 ) 

โดยนายจุรินทร์ได้กล่าวว่า  ประเด็นที่พาดพิงประเด็นแรกที่พูดถึงเงินเฟ้อ และของแพงทั้งแผ่นดิน เป็นประเด็นเดิมที่อภิปรายแล้ว ไทยเงินเฟ้ออยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นเป็นลำดับ เงินเฟ้อลดลง ม.ค.เหลือ 5% อัตราเฉลี่ยของโลก IMF

คาดว่าปี 66 เงินเฟ้อโลก 6.5% แต่ไทยจะเฟ้อแค่ 2.8% ดีกว่าหลายประเทศเพราะรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์และเอกชน กำกับราคาต้นทุนการผลิตบางอย่าง ราคาสินค้าดีตามสมควรแม้ราคาน้ำมัน แก๊ส ค่าไฟยังไม่ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ
 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

นายจุรินทร์ กล่าวว่า การที่ฝ่ายค้านบอกแพงทั้งแผ่นดิน พืชเกษตรตกต่ำทุกตัว ตกต่ำมาตลอดนั้นไม่จริง ราคาพืชเกษตรเฉลี่ยดีเกือบทุกตัว โดยที่ประกันรายได้ ข้าวเปลือก เกือบ 10,000 บาท/ตัน  ข้าวหอมมะลิ 1,4000-15,000 บาท/ตัน ข้าวเปลือกเหนียว 11,000-12,000 บาท/ตัน มันสำปะหลัง ก่อนรัฐบาลนี้ กิโลกรัมละบาทกว่า วันนี้ 3 บาทกว่า/กก.

ล่าสุด ตนพาฟิลิปปินส์มาเซ็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 2,000,000 ตันที่นครราชสีมา ปากช่อง ยิ่งช่วยดีมากราคามีแนวโน้มดีขึ้น  ปาล์มน้ำมันก่อนนี้ 10-12 บาท/กก. ตอนนี้ 5 บาทกว่า/กก. ก่อนรัฐบาลนี้เพียง 2 บาทกว่า/กก. ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สมัยก่อน 6-7 บาท/กก. เดี๋ยวนี้ 12-13 บาท/กก.  ผลไม้ยิ่งดี ราคาปีที่แล้ว ทุเรียนหมอนทองเฉลี่ย 145 บาท/กก. มังคุดเกรดส่งออก  60 บาท/กก. ลำไยช่อส่งออก เกรดเอเอ 42.50 บาท/กก. 

และกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์และรัฐบาล ประสานงานเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ดูแลชดเชยไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 25 ไร่ ตนลงนามเข้า ครม.แล้ว  รอพิจารณา เงาะโรงเรียน  20.50 บาท/กก. ลองกอง 12.50 บาท/กก. ลิ้นจี่ 75 บาท/กก. มะม่วงน้ำดอกไม้ 45 บาท/กก. ส้มเขียวหวาน 25 บาท/กก. หอมหัวใหญ่ปีนี้ 16 บาท/กก. จาก 8 บาทกว่า/กก. หอมแดง13 บาท/กก. กระเทียม 20 บาท/กก. หอมแดงแห้ง 48 บาท/กก. จาก 26 บาท/กก. กระเทียม 78 บาท/กก.

ราคาพืชผลการเกษตรดีเกือบทุกตัวยกเว้นยางพารา ตอนนี้ 45-49 บาท/กก. เพราะ 1. เศรษฐกิจโลกชะลอตัว รถยนต์ขายยากขึ้น ขายล้อรถน้อยลง 2. สถานการณ์โควิดดีขึ้น ใช้ถุงมือยางลดลง แต่รัฐบาลนี้มีประกันรายได้ จ่ายเงินส่วนต่างให้เกษตรกรชาวสวนยาง 3 ปีที่ผ่านมา ชดเชยเงินส่วนต่างให้  แต่ปีนี้ช้าหน่อย ครม.กำลังจะพิจารณาในอีกไม่กี่สัปดาห์ จะชดเชยใช้ส่วนต่างให้ได้ต่อไปเหมือนที่ผ่านมา

และที่สมาชิกวิจารณ์ส่งออกไทยเริ่มถดถอย เรียนว่าไม่ได้ถดถอยตรงข้ามปีที่แล้วทั้งปีตัวเลขส่งออกบวกถึง 5.5% ขณะที่หลายประเทศในโลกไม่เท่าเรา ทำเงินให้ประเทศถึง 9.94 ล้านล้านบาท เกือบ 10 ล้านล้านบาท สูงสุดในประวัติศาสตร์ คือการสร้างเงินให้ประเทศ

และปี 66 แม้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ตนทำงานกับเอกชนจะเดินหน้า ให้บวก 1-2% แม้ตลาดสำคัญถดถอย แต่บางตลาดมีศักยภาพ 1.ตะวันออกกลาง 2.เอเชียใต้ 3.CLMV ตนจึงเดินทางไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เซ็นสัญญาตั้งสภาธุรกิจไทย-ยูเออี ที่ดูไบ และขายของได้ทันที 1,300 ล้านบาท

และพาสมาคมผู้ส่งสินค้าทางเรือและสมาคมโลจิสติกส์ไทยเซ็น MOU กับบริษัทใหญ่ที่สุดบริษัทหนึ่งของโลกด้านขนส่งของดูไบ คือ  DP world เครือข่ายท่าเรือ 78 ท่า 240 สนามบิน ได้สิทธิพิเศษในการขนส่ง สร้างเงินให้ประเทศเติมตัวเลขการส่งออกให้เอกชนและรัฐบาลนำเงินเข้าประเทศคล่องตัวขึ้น ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ 

สุดท้ายเรื่อง FTA ที่บอกว่าเราตามหลังเวียดนามไม่เห็นฝุ่น ขณะนี้ตามหลังจริง ไม่ได้เป็นตอนรัฐบาลชุดนี้แต่ตามหลังก่อนหน้านี้แล้ว รัฐบาลนี้กำลังไล่กวดให้ทันเวียดนามและอนาคตมีโอกาสแซงหน้าเวียดนาม

ปัจจุบันไทยมี FTA 14 ฉบับ 18 ประเทศ เวียดนามมี 16 ฉบับ 54 ประเทศ  ตนนำคณะไปบรัสเซลส์ เบลเยียม เจรจา FTA ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป ที่ค้างคากว่า 10 ปี สหภาพยุโรปมีสมาชิก 27 ประเทศ ถ้าสำเร็จ FTA ที่ทำจะเพิ่มเป็น 45 ประเทศ   จะเร่งจัดทำกระบวนการแต่ละฝ่ายให้เร็วที่สุด ตนพบรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าของสหภาพยุโรปตัวแทน 27 ประเทศ จะทำให้เสร็จในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ เพื่อนับหนึ่งการเจรจา FTA ได้ผ่าน ครม.เห็นชอบแล้ว รอทางสหภาพยุโรปให้คำรับรองอีก 27 ประเทศ

ยืนยันว่าอีกไม่นานจะมาประกาศร่วมนับหนึ่งเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป ให้ไทยมีประเทศทำ FTA เพิ่มเป็น 45 ประเทศไล่กวดเวียดนามและภายในปีกว่า เราจะมี FTA ไทย-ตุรกี ไทย-ศรีลังกา ไทย-ปากีสถา