เปิดเซฟ 31 ล้าน! “พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ” หลังนั่ง ผบ.ทสส.ครบ 3 ปี

20 ม.ค. 2566 | 06:17 น.

ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน 31.6 ล้านบาท “พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์” ผบ.ทสส. หลังนั่งเก้าอี้ครบ 3 ปี พบไม่มีหนี้สิน สะสมปืน 6 กระบอก ขณะที่ นางบุษกร ภริยา รับมรดกที่ดิน มูลค่า 3.6 ล้านบาท

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) กรณีทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ 

โดย พล.อ.เฉลิมพล พร้อมด้วยนางบุษกร ศรีสวัสดิ์ คู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 31,622,003 บาท ไม่มีหนี้สิน
 

 

 

พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด

 

ทรัพย์สินจำนวน 31,622,003 บาท แบ่งเป็นทรัพย์สินของ พล.อ.เฉลิมพล 14,400,847 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 4 บัญชีรวม 2,179,306 บาท เงินลงทุน 2,452,685บาท ที่ดิน 53,750 บาท ในพื้นที่ อ.หนองแค จ.สระบุรี สิทธิและสัมปทาน 9,324,605 บาท โดยเป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตรวม 12 รายการ ทรัพย์สินอื่น 390,500 บาท 

พล.อ.เฉลิมพล แจ้งมีรายได้ต่อปีโดยประมาณ จากเงินเดือนข้าราชการทหารรวม 1,580,553 บาท รายจ่ายต่อปี 970,000 บาท โดยเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่ากรมธรรม์ประกันชีวิต เงินบริจาค ท่องเทียว และซื้อกองทุน ส่วนคู่สมรสไม่ได้แจ้งรายได้ โดยมีรายจ่ายต่อปี 142,000 บาท
 

ส่วนทรัพย์สินนางบุษกร คู่สมรส 17,221,155 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 4 บัญชีรวม 2,969,100 บาท ที่ดิน 9,333,055 บาท 7 รายการ ซึ่งระบุว่าได้รับมรดกมาทั้งหมด โดยเป็นที่ดินในพื้นที่ ดอนเมือง กรุงเทพ, อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

และ ที่ได้รับมาล่าสุดเมื่อเดือน ส.ค. 2565 เป็นที่ดิน 2 ไร่เศษ ในพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ทุมธานี มูลค่า 3,360,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2,000,000 บาท โดยเป็นบ้าน 2 ชั้นในพื้นที่ดอนเมือง กรุงเทพฯ ยานพาหนะ รถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับบิว 1 คัน มูลค่า 1,500,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 1,419,000 บาท 

ทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจ ของพล.อ.เฉลิมพล และคู่สมรส อาทิ อาวุธปืนขนาด .45 อาวุธปืนขนาด .357 และอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. รวม 6 กระบอก ของพล.อ.เฉลิมพล นอกนั้นเป็นทรัพย์สินของคู่สมรส สร้อยคอทองคำประดับเพชร สร้อยคอทองคำขาวจี้เพชร นาฬิกาข้อมือ 2 เรือน  แหวนทองประดับเพชร  สร้อยคอทับทิมสยาม ชุดสร้อยคอทองคำพร้อมต่างหู เป็นต้น

ประวัติพล.อ.เฉลิมพล เคยดำรงตำแหน่งเจ้ากรมยุทธการทหารบก ระหว่างปี 2560-61 ดำรงตำแหน่งรองเสนาธิการทหารบก ระหว่างปี 2561-62 ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ในปี 2562 ก่อนจะดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารบก ระหว่างปี 2562-63 และดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน