จับตา หลัง 10 ม.ค. 2566 “บิ๊กตู่“ ยุบสภา?

01 ม.ค. 2566 | 03:10 น.

คาดนายกฯ “ยุบสภา” หลัง 10 ม.ค.2566 เปิดทางให้มีการเลือกตั้งใหม่ เมื่อคณะรัฐมนตรีอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณปี 2567 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

ภายหลัง บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ออกมาประกาศชัดเจนว่า จะ “ไปต่อ” บนถนนการเมือง ด้วยการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ขณะที่บรรดาส.ส.ก็ย้ายพรรคกันจ้าละหวั่น ส่วนการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก็ “ล่ม” แล้วล่มอีก ทำให้คาดการณ์กันว่าการ “ยุบสภา” น่าจะเกิดขึ้นก่อนที่รัฐบาลจะอยู่ครบเทอม วันที่ 23 มี.ค.2566


สำหรับช่วงเวลาที่ “นายกฯ” จะตัดสินใจยุบสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่นั้น แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยกับ  “ฐานเศรษฐกิจ  ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะประกาศยุบสภาเพื่อเตรียมเข้าสู่การเลือกตั้ง หลังจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 หรือ งบประมาณปี 2567 ผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว

 

10 ม.ค.ชง“งบ67”เข้าครม.

 

แหล่งข่าวขยายความว่า การที่นายกฯ เลือก “ยุบสภา” หลังงบประมาณปี 2567 ผ่านการอนุมัติจาก ครม. ก็เพื่อให้การจัดทำงบประมาณไม่สะดุด รัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาสามารถเสนอร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ให้สภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่พิจารณา และประกาศใช้ได้ทันวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นปีงบประมาณ 2567 เพื่อให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้


“ขณะนี้รัฐบาลกำลังให้ความสำคัญกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 โดยตามปฏิทินงบประมาณ ได้กำหนดขั้นตอนการจัดทำงบประมาณเอาไว้ชัดเจน ซึ่งเบื้องต้นกรอบวงเงิน และโครงสร้างงบประมาณนั้น จะได้ข้อสรุป และเสนอให้ที่ประชุมครม.พิจารณาได้ภายในวันที่ 10 ม.ค.2566 นี้ 


หาเวลาเหมาะยุบสภา 


 ส่วนขั้นตอนการจัดทำงบประมาณ หลังจากกรอบวงเงิน และ โครงสร้างงบประมาณผ่านการเห็นชอบจากครม.แล้ว นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้มอบนโยบาย ก่อนให้หน่วยงานต่าง ๆ กลับไปจัดทำคำของบประมาณ และส่งมาให้สำนักงบประมาณผ่านระบบ e-Budgeting ภายในวันที่ 27 ม.ค. 2566 


จากนั้นสำนักงบประมาณ จะพิจารณาและจัดทำรายละเอียดงบประมาณ ระหว่างวันที่ 30 ม.ค.- 7 มี.ค.2566 เพื่อนำเสนอครม.เห็นชอบรายละเอียดงบประมาณ พร้อมแนวทางการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณ ในวันที่ 14 มีนาคม 2566 
ส่วนขั้นตอนต่อไป สำนักงบประมาณจะพิจารณาปรับปรุงรายละเอียด และเสนอให้ครม.เห็นชอบการปรับปรุงอีกครั้ง ในวันที่ 28 มี.ค.2566


ถัดจากนั้น สำนักงบประมาณจะเปิดรับฟังความคิดเห็น ระหว่างวันที่ 29 มี.ค.- 12 เม.ย.2566 ก่อนสรุปเสนอครม.รับทราบ และเห็นชอบให้จัดพิมพ์ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2567 และเอกสารประกอบ เพื่อเสนอครม.เห็นชอบในวันที่ 16 พ.ค. 2566 ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎร ตามขั้นตอนต่อไป


“ขณะนี้กำลังพิจารณาอยู่ว่า การยุบสภาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่นั้น จะอยู่ในช่วงไหนของการจัดทำงบประมาณ เพื่อไม่ให้การจัดทำงบประมาณสะดุด"แหล่งข่าวระบุ

                                  

                          จับตา หลัง 10 ม.ค. 2566 “บิ๊กตู่“ ยุบสภา?

เปิดขั้นตอนจัดทำงบ 67  


ด้านนายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยถึงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ว่า ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมการจัดทำงบประมาณ โดยในวันที่ 4 ม.ค.2566 จะประชุม 4 หน่วยงาน คือ สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อพิจารณารายละเอียดของงบประมาณรายจ่ายทั้งหมด 


หลังจากคณะรัฐมนตรี ได้รับทราบการรายงานแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2566 - 2569) ซึ่งจะกำหนดกรอบวงเงินงบประมาณเบื้องต้นเอาไว้ ทั้งประมาณการงบประมาณรายจ่าย การขาดดุลงบประมาณ ยอดหนี้สาธารณะ และประมาณการรายได้สุทธิ


อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบแผนการคลังระยะปานกลาง ซึ่งเป็นรายงานฉบับเดิมที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ได้เห็นชอบไปก่อนหน้านี้ ได้กำหนดรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ดังนี้ ประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิ วงเงิน 2.56 ล้านล้านบาท, ประมาณการงบประมาณรายจ่าย วงเงิน 3.27 ล้านล้านบาท, การจัดทำงบประมาณแบบขาดดุล จำนวน 7.1 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 3.8% ต่อ GDP , ยอดหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ 65.59% ,ประมาณการ GDP ขยายตัวในช่วง 2.9-3.9%


“ยุบสภา”งบไม่สะดุด


นายเฉลิมพล กล่าวว่า หลังจากประชุม 4 หน่วยงานเสร็จสิ้น ในวันที่ 12 ม.ค. 2566 นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้มอบนโยบายการจัดทำงบประมาณกับทุกหน่วยงานราชการ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี 


“ขณะนี้กรอบวงเงินการประมาณการรายได้ และกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายได้ข้อสรุปเบื้องต้นแล้ว หลังจากนี้ 4 หน่วยงานจะประชุมและเคาะตัวเลขต่าง ๆ ที่ชัดเจนอีกครั้ง” นายเฉลิมพล กล่าว


เมื่อถามว่ากรณีที่รัฐบาลมีการยุบสภาขึ้น จะส่งผลต่อการจัดทำงบประมาณหรือไม่ ผอ.สำนักงบประมาณ ตอบว่า การจัดทำงบประมาณจะไม่มีการสะดุด เพราะขั้นตอนต่าง ๆ จะเป็นไปตามปฏิทินงบประมาณ 


“อำนาจของนายกรัฐมนตรี หากยุบสภาแล้วเป็นนายกฯ รักษาการ จะไม่สามารถทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับนโยบาย หรือ การใช้เงินงบกลางได้แล้ว เพราะหากจะทำอะไรก็ต้องส่งให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาก่อน” นายเฉลิมพล ระบุ

                                  จับตา หลัง 10 ม.ค. 2566 “บิ๊กตู่“ ยุบสภา?


ยุบสภาหลัง 10 ม.ค.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อที่ประชุม ครม.เห็นชอบกรอบวงเงิน และโครงสร้างงบประมาณ 2567 ภายในวันที่ 10 ม.ค. 2566 แล้ว หลังจากนั้นก็เข้าสู่ช่วงเวลาที่เปิดโอกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกฯ ตัดสินใจ “ยุบสภา” ได้


ทั้งนี้ หากมีการยุบสภาเกิดขึ้น ก็จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45-60 วัน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 103 กำหนด โดยภายใน 5 วัน นับแต่วันมีพระราชกฤษฎีกายุบสภา คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องประกาศกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป และวันสมัครรับเลือกตั้งในราชกิจจานุเบกษา


4 ไทม์ไลน์เลือกตั้ง ส.ส.  


สำหรับช่วงเวลาการยุบสภา และการเลือกตั้งส.ส.ใหม่ มี 4 แนวทางดังนี้ 


-กรณีการยุบสภาเกิดขึ้นช่วงกลางเดือน ม.ค.2566 การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นช่วงต้นเดือน มี.ค. ถึงกลาง มี.ค. 


-กรณีการยุบสภาเกิดขึ้นช่วงกลางเดือน ก.พ.2566 การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน เม.ย. ถึง กลาง เม.ย.


-กรณีการยุบสภาเกิดขึ้นช่วงสิ้นเดือน ก.พ.2566 การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นช่วงกลางเดือน เม.ย. ถึง สิ้นเดือน เม.ย.


และ กรณีรัฐบาลอยู่ครบเทอม คณะกรรมการการเลือกตั้งจะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน ซึ่ง กกต.ได้กำหนดแผนงานเลือกตั้ง ให้มีการหย่อนบัติเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 7 พ.ค.2566 


การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเร็ว หรือ ช้า ขึ้นอยู่กับ “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์“ คนเดียวเท่านั้น ที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ...