ตำรวจ-พฐ.ลุยค้นโรงแรม“ชูวิทย์”หลัง“สันธนะ”แฉเปิดเกินเวลา-มั่วสุม

05 พ.ย. 2565 | 11:15 น.

ตร.ทองหล่อ-พฐ.นำกำลังเข้าตรวจสอบผับโรงแรมย่านสุขุมวิท หลัง“สันธนะ”แจ้งความเปิดเกินเวลา-มั่วสุมเสพยา “ชูวิทย์”แจงเปิดให้ลูกชายบริหาร มีใบอนุญาตถูกต้อง รับหากผิดจริงพร้อมให้ลงโทษ ด้าน“สันธนะ”โผล่ยันมีหลักฐานคลิปวิดิโอ

เมื่อเวลา 15.00น. วันที่ 5 พ.ย. ตำรวจ สน.ทองหล่อ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) นำกำลังเข้าตรวจสอบสถานบริการชื่อ The Lobby X Chuweed ภายในโรงแรม Davis Hotel Corner Wing บนถนนสุขุมวิท ย่านคลองเตย หลังนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เมื่อช่วงตีสี่ที่ผ่านมาว่า สถานบริการดังกล่าว เปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และมีกลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมเสพยาเสพติด

 

ภายหลังการตรวจค้น พ.ต.อ. ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดปกติหรือสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บหลักฐานทุกจุดตามที่ปรากฏในคำร้องของนายสันธนะ ซึ่งหากนายสันธนะมีหลักฐานเพิ่มเติมก็สามารถนำมามอบให้กับพนักงานสอบสวนได้

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ในฐานะเจ้าของโรงแรม นำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พร้อมเปิดเผยว่า สิ่งที่นายสันธนะ กล่าวหานั้นก็ถือว่าเป็นประโยชน์ เพื่อให้ตำรวจได้มาพิสูจน์ โดยผับแห่งนี้ หลักๆ ลูกชายตนเปิดไว้สำหรับการจัดงานสังสรรค์ งานวันเกิด งานเลี้ยงรุ่นต่างๆ ซึ่งนายสันธนะเอง จะมาขอจัดแถลงข่าวที่นี่ก็ได้


“วนกรณีที่นายสันธนะ อ้างว่าสายลับที่ตัวเองส่งเข้ามาร่วมงานได้เสียเงิน 400 บาท และได้รับสายรัดข้อมือมานั้นก็เป็นเรื่องปกติของผู้มาร่วมงาน ยืนยันว่าไม่มีการจำหน่ายยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายเหมือนผับจิ้นหลิงของชาวจีนแน่นอน”

นายชูวิทย์ ชี้แจงอีกว่า โรงแรมแห่งนี้มีใบอนุญาตถูกต้อง มีล็อบบี้เปิดให้เช่าเฉพาะวันศุกร์และเสาร์ รับจัดงานปาร์ตี้วันเกิด งานสังสรรค์ทั่วไป รวมถึงบาร์แห่งนี้ไม่เคยถูกตำรวจมาตรวจจับยาเสพติดแม้แต่ครั้งเดียว ตนเลิกทำธุรกิจสีเทาทั้งหมด แล้วยกโรงแรมนี้ให้ลูกบริหาร ซึ่งโรงแรมนี้เป็นสถานที่เปิด มีทั้งร้านกาแฟและล็อบบี้ใกล้กัน คนเข้าออกตลอด หากมีความผิดจริงให้ลงโทษตนได้ ไม่ขอแก้ตัว


ส่วนหลักฐานของนายสันธนะที่ว่า มีชายหญิงไปเข้าห้องน้ำหลายคนก็เป็นเรื่องปกติ หากห้องผู้หญิงเต็ม ก็ไปเข้าห้องผู้ชายถือเป็นเรื่องปกติเพราะมีห้องน้ำเพียง 3 ห้อง โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นเพียง 2-3 วันหลังตนจัดหนักเรื่องผับชาวจีน ทุกคนคงมีวิจารณญาณ ตำรวจก็มีหลักฐานการจับกุมและยึดทรัพย์สิน 


“ยืนยันว่าเรื่องนี้มีผู้พยายามจะมีเคลียร์กับตัวเอง แต่ผมไม่รับเคลียร์ เพราะก็เคยพบเหตุการณ์แบบนี้ จึงเป็นหน้าที่ของ ผบ.ตร.และ รอง ผบ.ตร. ผมไม่โกรธนายสันธนะ แม้แต่น้อย”


ต่อมาเวลา 15.30 น. นายสันธนะ เดินทางมาที่โรงแรม โดยนายชูวิทย์ ออกมาไหว้ทักทายให้การต้อนรับ พร้อมเผยว่า ตามที่สายลับตนได้เข้ามาในงาน พบว่ามีกลุ่มคนเข้าไปใช้ห้องน้ำชายและหญิงพร้อมๆ กันนับสิบคน ซึ่งเป็นเหล่าลูกท่านหลานเธอ มีการ์ดมาคอยคุ้มกันนับสิบ เมื่อคืนวานตนก็มาที่นี่ คนของตนก็เข้ามา


“ยืนยันไม่ได้รับจ้างมาจากใคร ซึ่งตำรวจเผยว่าตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่ผมเชื่อว่ายังคงต้องมีสารเสพติดตกค้างอยู่ ย้ำว่าไม่ได้มาดิสเครดิต และไม่ได้โกรธอะไรกับนายชูวิทย์ ยังคงนับถือเป็นพี่ที่สนิทกัน และเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผับจินหลิง หากถามว่าเป็นการเอาคืนนายชูวิทย์ ก็จะเรียกคุยเป็นการส่วนตัว”


ทั้งนี้ในระหว่างที่มีการพูดคุยกันระหว่าง นายสันธนะ และ นายชูวิทย์ ได้มีการเปิดคลิปที่เจ้าตัวระบุว่ามีการเสพยาเสพติด แต่ไม่อนุญาตให้สื่อได้บันทึกภาพ  โดย 2 คลิปแรกเป็นคลิปบรรยากาศปาร์ตี้ที่บริเวณลอบบี้ของโรงแรม 
ส่วนคลิปสุดท้าย เป็นคลิปภายในห้องน้ำชาย ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด3ห้อง ซึ่งห้องด้านในสุดมีผู้ชายและผู้หญิง เดินออกมาจากห้องน้ำห้องเดียวกัน


 ส่วนห้องน้ำห้องที่ 2 พบมีชายหนุ่มเดินออกมา พร้อมหญิงสาวอีก 3 คน โดยหญิงคนแรกที่เดินออกมามีการขยี้จมูกจริง ตามที่ นายสันธนะ กล่าวอ้าง แต่ก็ไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่ามีการเสพยาเสพติดอยู่ภายในห้องน้ำห้องดังกล่าว


สำหรับการตรวจค้นของตำรวจในวันนี้ และการโต้ตอบของ นายชูวิทย์นั้น เป็นผลมาจากก่อนหน้านี้้ช่วงเช้ามืดของวันนี้ นายสันธนะ ได้เข้าแจ้งความกับทางพ.ต.ท. ชัยวัฒน์ เกตุเอม สว.(สอบสวน)สน.ทองหล่อ ว่ารับแจ้งจากประชาชนว่าภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านสุขุมวิท 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. มีกลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมเสพยาเสพติดและเปิดสถานบริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด


นายสันธนะ ระบุว่า ได้ส่งสายลับเข้าไปใช้บริการภายในสถานที่แห่งนี้ เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2565 เวลาประมาณ 00.50 น. โดยชำระเงินค่าผ่านประตูคนละ 400 บาท ไม่รวมเครื่องดื่มปรากฎว่าพบเห็นกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงจำนวนประมาณ 100 คน เต้นรำ เปิดเพลง โดยมี ดีเจ


พร้อมมีการสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสังเกตุเห็นว่ามีกลุ่มวัยรุ่นทั้งชายหญิงต่างเดินสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าไปภายในห้องน้ำผู้ชาย อย่างผิดสังเกตุ

 

สายลับจึงพยายามหาจังหวะโอกาสเพื่อใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน กระทั่งเวลาประมาณ 02.30 น. จึงสบโอกาสสามารถถ่ายภาพวิดีโอได้จำนวน 2 คลิป คลิปแรกความยาว 3.57 นาที เมื่อเวลา 02.31 น. และคลิปที่สองความยาว 1.55 นาที เมื่อเวลา 03.02 น. แสดงว่ามีการมั่วสุมเสพยาเสพติดภายในสถานบริการแห่งนี้ และการเปิดสถานบริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด 


โดยสายลับมีหลักฐานเป็นสายรัดข้อมือสีชมพู จำนวน 3 เส้น เพื่อไว้แสดงการเข้า-ออกสถานบริการแห่งนี้ ส่วนภาพและคลิปวิดีโอ ที่เกี่ยวข้องทั้งภายใน-ภายนอก ของสถานที่เกิดเหตุจะนำมามอบให้แก่พนักงานสอบสวนภายหลัง


“ผมอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุดังกล่าวพร้อมกับสำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลางเข้าเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อหาผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้อง และผู้แจ้งขอให้ทำการสืบสวนสอบสวนว่าผู้ใดเป็นเจ้าของโรงแรมและสถานบริการแห่งนี้ด้วย”