รัฐบาลเชิญชวนผู้ไม่มีฟัน ใส่ฟันเทียม รากฟันเทียม ได้ทุกสิทธิ เริ่ม 1 ต.ค.

10 ต.ค. 2565 | 03:47 น.

รัฐบาลเชิญชวนผู้ไม่มีฟันหรือสูญเสียฟันเกือบทั้งปาก ต้องการใส่ฟันเทียม รากฟันเทียม เข้ารับบริการฟรีได้ทุกสิทธิ รักษาได้ทุกสถานพยาบาลของรัฐ และคลินิกทันตกรรมเอกชนในระบบประกันสังคม ตั้งแต่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป

วันที่ 10 ตุลาคม 2565 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้ความร่วมมือของกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานประกันสุขภาพถ้วนหน้า กรมอนามัย กรมการแพทย์ หน่วยทันตกรรมพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สำนักงานประกันสังคม และกรมบัญชีกลาง

 

ได้ร่วมดำเนินการ “โครงการฟันเทียม รากฟันเทียม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567”  เพื่อเป็นการสืบสานโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการแก้ปัญหาให้ผู้ที่สูญเสียฟันทั้งปากให้ได้รับฟันเทียม ทำให้สามารถรับประทานอาหารได้ดีขึ้น ส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจที่แข็งแรง มีคุณภาพชีวิตที่ดี

 

 

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

น.ส.รัชดา กล่าวว่า การเข้ารับบริการใส่ฟันเทียมภายใต้โครงการฟันเทียม รากฟันเทียม เฉลิมพระเกียรติฯ ครอบคลุมคนไทยทุกอายุ โดยการใส่ฟันเทียมทั้งปากหรือเกือบทั้งปาก รับบริการได้ทุกสิทธิการรักษา ทั้งสิทธิบัตรทอง ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ โดยมีเป้าหมายบริการปี 2566 - 2567 จำนวน 72,000 ราย โดยผู้มีสิทธิบัตรทองเข้ารับการใส่ฟันเทียมที่โรงพยาบาลรัฐ ไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่จำเป็นต้องเป็นหน่วยบริการประจำตามสิทธิการรักษาของแต่ละคน แต่ขอให้เป็นหน่วยบริการใกล้บ้านเพื่อความสะดวกรักษาต่อเนื่อง

 

โดยรับบริการได้ทั้งที่โรงพยาบาลจังหวัด และโรงพยาบาลชุมชน จำนวน 800 แห่ง สำหรับผู้ประกันตนรับบริการได้ที่โรงพยาบาลเอกชนและคลินิกทันตกรรมเอกชนในระบบประกันสังคม โดยเบิกจ่ายจากสำนักงานประกันสังคมตามจริงไม่เกินวงเงิน 4,400 บาท ส่วนผู้มีสิทธิข้าราชการเข้ารับบริการได้ที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่ง
 

ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ใครที่ไม่มีฟันหรือสูญเสียฟันเกือบทั้งปาก และต้องการใส่ฟัน สามารถทยอยไปเข้ารับบริการที่หน่วยบริการ ซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะทำรากฟันเทียมได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะกระดูกขากรรไกร ความพรุน ความหนา บาง รวมถึงภาวะเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบผู้ป่วยได้ โดยทันตแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยอีกครั้ง ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

 

1.สายด่วน สปสช. 1330

2.ช่องทางออนไลน์

• ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6

• Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  https://www.facebook.com/NHSO.Thailand