"ไตรรงค์ "ลั่น! ผมไม่เกลียดคนอเมริกัน แต่ผมเกลียดสงคราม กับพวกจองหอง!!

01 ต.ค. 2565 | 04:03 น.

"ไตรรงค์"โพสต์เฟซบุ๊ก "ผมไม่เกลียดคนอเมริกัน แต่ผมเกลียดสงคราม กับพวกจองหอง" หลัง 9 วุฒิสมาชิกสหรัฐฯขู่จะจัดการกับประเทศไทย ถ้า"ทหาร"ยึดอำนาจ

นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี  อดีตรองนายกรัฐมนตรี  โพสต์เฟซบุ๊ก สะท้อนความเห็น  กรณี 8-9 วุฒิสภาชิกสหรัฐฯแถลงท่าทีจะจัดการกับประเทศไทยถ้าทหารยึดอำนาจ โดยมีข้อความว่า 

 

ผมไม่เกลียดคนอเมริกัน 
แต่ผมเกลียดสงคราม
กับพวกจองหอง!!

 

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้มีวุฒิสมาชิกของสหรัฐอเมริกาประมาณ 8-9 คน ได้ประชุมกันแล้ว ออกมาแถลงข่าว แสดงจุดยืนของกลุ่มว่า จะจัดการกับประเทศไทย ถ้ามีการยึดอำนาจโดยคณะทหารอีกในอนาคต พวกเขาอ้างว่า เพื่อพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของคนไทยในทางการเมือง (บางคนในกลุ่มนี้ผมเคยรู้จักกันมาตั้งแต่พ.ศ.ท2537)

 

วันนี้ ผมขอถามว่า พวกคุณวุฒิสมาชิกกลุ่มนี้ หมายรวมถึงการใช้สิทธิเสรีภาพของเหล่านักการเมือง และลูกสมุนในการสนับสนุนให้ฝูงเหลือบ ที่กำลังกินบ้านกินเมือง และแอบลักหลับในการออกกฎหมายที่ขัดกับหลัก “นิติธรรม” โดยอ้างเพียงว่า พวกเขาทำได้ เพราะพวกเขาเป็นรัฐบาลที่มีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯ ใช่ไหมครับ? 

"ไตรรงค์ "ลั่น! ผมไม่เกลียดคนอเมริกัน แต่ผมเกลียดสงคราม กับพวกจองหอง!!

 

ถ้าเช่นนั้น คุณวุฒิสมาชิกทั้ง 8-9 คนนี้  ขอความกรุณาฟังเสียงสะท้อนจากอดีตวุฒิสมาชิก ของประเทศไทยที่ชื่อ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี หน่อยก็แล้วกัน (แต่ผมเป็น ส.ส.จากการเลือกตั้งถึง 9 ครั้ง คิดว่า  มากกว่าท่านวุฒิสมาชิกทั้ง 8-9 คนค่อนข้างจะแน่นอน)

 

ตอนปี ค.ศ.1989 (พ.ศ.2532) เป็นยุคของ เติ้ง เสี่ยว ผิง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน คนจากตะวันตกอย่างพวกวุฒิสมาชิกเหล่านี้แหละ  ที่ไปจ้างวานและปลุกระดมให้ประชาชนจำนวนหนึ่งในจีน  ก่อม็อบโดยอ้างว่า  พวกตนขอใช้สิทธิเสรีภาพ เพื่อเรียกร้องให้ประเทศจีนเปลี่ยนแปลงการปกครองให้เป็นประชาธิปไตย แบบสหรัฐอเมริกา โดยสร้างรูปเทพีเสรีภาพชูไว้ตรงกลางม็อบ ที่จตุรัสเทียนอันเหมิน กลางกรุงปักกิ่ง  รัฐบาลจีนจะขอร้อง อ้อนวอน อย่างไรก็ไม่ยอมหยุด  รัฐบาลจีนเลยตัดสินใจยิงทิ้งไป คาดกันว่า ตายไปประมาณไม่ต่ำกว่า 3,000 คน 

 

แต่ผมก็ไม่เห็นวุฒิสมาชิกกลุ่มไหน ของสหรัฐ  ที่กล้าออกมาขู่ประเทศจีนในเรื่องสิทธิเสรีภาพ เหมือนอย่างที่กำลังข่มขู่ประเทศไทยในขณะนี้ ทำไมล่ะ? 

 

ก็เพราะพวกเขากลัวระเบิดปรมาณูของจีน จนหัวหดกันทั้งรัฐสภาฯของพวกเขาแหละ ใช่ไหมล่ะ? แม้แต่เกาหลีเหนือ  ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าประเทศไทยมาก ทั้งพื้นที่และประชากร  แต่พวกนักการเมืองทั้งสองพรรคใหญ่ในสหรัฐ  ก็ไม่กล้าพูดจาข่มขู่ เหมือนที่ทำกับประเทศไทย 
 

นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี  อดีตรองนายกรัฐมนตรี

ก็เพราะล้วนกลัวระเบิดปรมาณูของเกาหลีเหนือ ใช่ไหมล่ะ? 
ผมพูดจริงไหมล่ะ? ก็ดีแต่พูดข่มขู่ประเทศเล็ก ที่ไร้ระเบิดปรมาณู อย่างประเทศไทยนี้แหละ  ใครไม่เชื่อฟังก็ยกทัพทั้งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ ไปโจมตี  ไปทำลายบ้านทำลายเมือง ทำลายชีวิตทั้งผู้หญิง เด็ก และคนชรา ทั้งทรัพย์สิน เสียหาย ก็โดยใช้อาวุธที่ทันสมัยกว่า  บุกไปทำลายเขา 
แต่จับผิดไม่ได้

 

แต่หัวใจความเป็นนักรบ ก็ไม่เคยเทียบเคียงกับคนอื่นได้เลย  อย่าลืมว่า  อเมริกาเคยรบแพ้เวียตกง ที่เวียตนาม  ขึ้นเครื่องบินหนีตายกันแทบไม่ทัน ไปรบที่อัฟกานิสถาน ก็พ่ายแพ้พวกตาลีบันอย่างไม่เป็นท่ามา  ใช่ไหมล่ะ?

 

คุณวุฒิสมาชิก 8-9 คน  เชื่อผมไหม ถ้าประเทศจีนเปลี่ยนการปกครองเป็นเสมือนระบอบของสหรัฐฯ ป่านนี้  คงจะไม่สามารถก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นผู้นำระดับต้นๆของโลกได้ และป่านนี้คงจะเละไปทั้งประเทศ  

 

ซึ่งก็เหมือนที่สหรัฐฯเองกำลังเละ อยู่ในขณะนี้ และในอนาคตเพราะสหรัฐฯ กำลังกลายเป็นประเทศอกแตก (เป็นประเทศที่ขาดจุดเชื่อม ที่เป็นกลาง เป็นชาติที่มีรากแก้วสั้นที่สุด) ที่แม้แต่คนขาว ยังเป็นศัตรูกับคนขาวด้วยกันเอง  เพราะอยู่คนละพรรค  เรียกว่าคนขาวก็จ้องจะฆ่าคนขาว คนขาวกำลังจ้องจะฆ่าคนดำ ทั้งคนขาวและคนดำ จ้องจะฆ่าคนผิวเหลือง นักการเมือง ที่ได้รับเลือกตั้งก็ดี  แต่นำภาษีอากรที่ขูดรีดไปจากประชาชน เอาไปทำสงคราม ก็เพื่อสร้างหน้าตาและอำนาจ ให้กับพวกนักการเมืองเหล่านั้น (อยากใหญ่กว่าเพื่อนว่างั้นเถอะ) และเป็นทางง่ายๆที่จะช่วยสร้างความร่ำรวย ให้กับเจ้าของอุตสาหกรรมสร้างอาวุธเพื่อสงคราม  เพราะพวกนักธุรกิจกลุ่มนี้แหละ  ที่เป็นผู้สนับสนุนทางการเงินแก่ทั้งสองพรรคใหญ่ของพวกเขา

 

การใช้เงินเพื่อก่อสงคราม  นอกจากจะทำให้เศรษฐกิจของโลก ตกต่ำลง เศรษฐกิจของสหรัฐเอง  ก็ย่อยยับเช่นเดียวกัน  เมื่อสงครามทำให้การค้าระหว่างประเทศหดตัวลง ประเทศที่ใช้ระบบการค้าเสรีในอัตราที่สูง  อย่างสหรัฐอเมริกาและ ประเทศร่ำรวยในยุโรป  ก็จะถูกกระทบกระเทือนหนักกว่าเพื่อน  เกิดภาวะเงินเฟ้อไปทั่วโลก เศรษฐกิจตกต่ำ ขาดแคลนอาหารไปทั่วโลก 

 

ในสหรัฐเอง  สินค้าทุกชนิด  ไม่เฉพาะแต่น้ำมันกับก๊าซ  ก็แพงขึ้น คนไม่มีเงินพอจะประทังชีวิต ไม่มีเงินผ่อนบ้าน ต้องปล่อยให้ธนาคารยึดบ้านไป แล้วก็เพิ่มจำนวนคนไร้บ้าน (Homeless) ทั่วประเทศ  ดังจะเห็นสภาพตามท้องถนน แม้แต่ในเมืองใหญ่ เช่น ลอสเเองเจลิส มีสภาพคนเร่ร่อนกางเต๊นนอนเกลื่อนริมถนน คนเหล่านี้ออกมากางเต็นท์ยึดริมถนนในเมืองใหญ่ๆ  เป็นบ้านถาวร เกิดการปล้นสดมภ์ร้านค้ากันไม่เว้น ปล่อยให้ประชาชนมีอิสระเสรีในการพกปืน ยิงฆ่าคนบริสุทธิ์ตายฟรีบ่อยๆ

 

ผมเองนั้น เป็นหนี้บุญคุณ มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ ของสหรัฐ ที่ให้ทุนเรียนหนังสือจบทั้งปริญญาโท และปริญญาเอก  ผมจึงไม่ใช่คนเกลียดคนอเมริกัน 

 

แต่ตัวผมกลับรัก และสงสารคนอเมริกันที่ตกอยู่ภายใต้  ระบอบการปกครองที่สกปรกจอมปลอม เพราะพวกเขาถูกบังคับ ให้ไปออกเสียงเลือกตั้ง ไม่ว่าพวกเขาจะเลือกพรรคไหนขึ้นเป็นรัฐบาล  ก็ล้วนแล้วแต่ได้กลุ่มนักการเมือง  ที่จะนำความฉิบหาย ความทุกข์ยาก ความพิการทั้งกายใจและความตาย มาให้แก่พวกเขาทั้งสิ้น 
และที่ร้ายที่สุด สำหรับโลกมนุษย์  ก็คือประเทศสหรัฐฯ  ยังมีนักการเมืองที่จองหอง หยาบคาย และ อวดดีว่า  ตัวกู และประเทศของกูยิ่งใหญ่กว่าใครๆ  มองคนอื่นไม่เป็นคน  มองดูจีนบ้างหรือยังเป็นคอมมิวนิสต์ แต่ไม่เคยลุกลามชาติใด มีแต่ผู้นำที่รักชาติซื่อสัตย์ สร้างชาติจีนจนปัจจุบันผมนับว่า จีนเป็นมหาอำนาจโลกไปแล้ว

 

พฤติกรรมของนักการเมืองอเมริกันบางคนเหล่านี้  ล้วนทำให้ประชากรของโลก  เพิ่มความเกลียดชังประเทศสหรัฐฯมากยิ่งขึ้น  เป็นการผลักดันชาวโลก ในหลายๆประเทศ  ให้ไปยืนอยู่ฟากตรงกันข้ามกับ  สหรัฐอเมริกา (ทั้งในตะวันออกกลาง แอฟริกา ละตินอเมริกา และเอเชีย) 

 

ผมเสียดายมาก  เพราะเคยหวังมาตลอดว่า  สหรัฐอเมริกา น่าจะเป็นตัวถ่วงดุลให้เกิดสันติภาพ ขึ้นมาได้  สำหรับโลกมนุษย์ของเรา  แต่นักการเมืองของพวกเขาเอง  ทำให้ชาวโลกอย่างผม  มีแต่เพิ่มความผิดหวังขึ้นทุกๆวัน เพราะความเป็นตัวสร้างความไม่สันติภาพ  แต่เป็นตัวก่อสร้าง ยุยง สนับสนุนให้เกิดสงครามเสียเอง   

 

รักและห่วงใยโลก
ผมจึงกล้าออกมาด่า

Cr.: ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี