“สุวัจน์” แนะรัฐเร่งแก้สินค้าแพง เหตุรากหญ้าเดือดร้อนกันหนักมาก

07 ส.ค. 2565 | 12:24 น.

“สุวัจน์” แนะรัฐเร่งแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพง รากหญ้าเดือดร้อนหนักมาก ย้ำอยากได้ส.ส.โคราชเยอะๆ เพื่อจะได้คัมแบ็คมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ นำยุคทองกลับมา

วันที่ 7 ส.ค. 2565 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ จ.นครราชสีมา ภายหลังเป็นประธานเปิดงานด๊ะด๊าดดนตรีโคราช เทศบาลนครนครราชสีมา ประจำสัปดาห์ถึงสถานการณ์สินค้าอุปโภคบริโภคที่มีราคาแพง ทุกชนิดปรับขึ้นราคา ไข่ไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป(มาม่า) ค่าไฟฟ้า น้ำมัน ก๊าซ ว่า ขณะนี้เรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องใหญ่เอาที่ใกล้ตัวที่สุดคือ สินค้าราคาแพงเป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอันนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก โดยเฉพาะประชาชนคนรากหญ้า

 

ฉะนั้น ตนคิดว่าต้องใช้หลายๆ มาตรการในการเข้าไปดูแลแก้ไข อันแรกที่ทำได้ตนคิดว่า การขอความร่วมมือจากผู้ผลิต จากโรงงานผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่อันนี้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องน่าที่จะเชิญพ่อค้าผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นขั้นพื้นฐานมาขอความร่วมมือว่าช่วงนี้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนกันมาก พี่น้องประชาชนคือคนสุดท้ายไม่สามารถจะไปโยนภาระให้กับใครได้ 

ฉะนั้น ถ้าเกิดทุกคนโรงงานผลิตสินค้าใหญ่ๆ จะให้ความร่วมมือในการที่จะลดต้นทุน ลดกำไร เพื่อประคับประคองราคาสินค้าไม่ให้ขึ้นไปสูงในช่วงนี้ตนว่าก็จะได้ใจคนไทย ได้ใจพี่น้องประชาชน หรือมีประเด็นไหนที่มีกฎหมายควบคุม อันนี้ก็ต้องนำมาใช้อย่างเคร่งครัด เพื่อที่จะดูแลแก้ไขปัญหาเรื่องสินค้าราคาแพง อันนี้เป็นเรื่องที่น่าที่จะดำเนินการกัน หรือส่วนราชการไหนที่มีหน้าที่โดยตรงกับการขึ้นราคาและสามารถที่จะลดหย่อนผ่อนปรนหรือขยับออกไปได้บ้าง

 

ยกตัวอย่าง เรื่องค่าไฟฟ้าที่เดิมที่มีข่าวว่าจะขึ้นไปเกือบ 5 บาทหมายความว่าจะขึ้นค่า FT อีกประมาณ 70 สต.แล้วจะทำให้ค้าไฟฟ้าขึ้นไปจนเกือบ 5 บาท อันนี้ถือว่าเป็นภาระกับพี่น้องประชาชนมาก

 

แต่เห็นทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานที่มีหน้าที่ประกาศค่า FT ที่จะใช้ในช่วงปลายปีตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป เห็นว่าก็จะยังไม่ประกาศใช้ โดยได้เลื่อนการบังคับใช้ในเรื่องของประกาศอันใหม่ที่ว่าจะขึ้นประมาณ 68-70 สต.ประมาณนี้ ซึ่งยังไม่ประกาศมีการเลื่อนออกไปก่อน 

อันนี้ถือเป็นเรื่องที่ต้องขอบคุณที่หน่วยงานองค์กรอิสระที่ดูแลเรื่องสินค้าราคาแพงต่างๆ หรือราคาค่าไฟฟ้าต่างๆ ได้นำข้อกังวล ข้อวิตก ห่วงยใยความเดือดร้อนของพี่น้องปะชาชนมาพิจารณาแล้วยังไม่ประกาศใช้ อันนี้ตนต้องขอบคุณทางคณะกรรมการกิจการพลังงานที่ได้เห็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน

 

ฉะนั้น คิดว่าวันนี้ต้องช่วยกันคนละนิดคนละหน่อย ขอความร่วมมือ ใช้กฎหมาย หรือชะลอการบังคับใช้ออกไปมันก็จะเป็นการลดภาระให้กับพี่น้องประชาชนได้

 

ส่วนที่ขณะนี้หลายพรรคการเมืองลงพื้นที่กันประกาศจะได้ ส.ส.ทั้งจังหวัด ในส่วนของพรรคชาติพัฒนามีความพร้อมอย่างไรนั้น

 

นายสุวัจน์ ตอบว่า คิดว่าเราก็จะทำให้ดีที่สุดเที่ยวนี้ ต้องคัมแบ็คกลับมาด้วยเสียง ส.ส.ที่มากเพียงพอที่จะมาแก้ไขปัญหาบ้านเมือง

 

“เที่ยวนี้พรรคฯมีความมุ่งมั่นที่จะต้องเข้ามาช่วยในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เพราะเป็นสิ่งที่เราถนัดและเราคิดว่าเรามีประสบการณ์และคิดว่าเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ ฉะนั้น ถ้าเกิดเราได้เสียงน้อยการทำงานมันก็ผลักดันอะไรเพื่อพี่น้องประชาชนได้ยาก แต่ถ้าเรามีเสียงมาก ได้รับความไว้วางใจมาก นโยบายมาตรการต่างๆ”

 

นายสุวัจน์ กล่าวว่า ด้านเศรษฐกิจเรามั่นใจ ฉะนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้เราอยากที่จะให้ได้รับผลการเลือกตั้งที่เสียง มีเสถียรภาพเพียงพอที่เราจะได้เข้าไปช่วยกันแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ส่วนจะได้เท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน

 

ส่วนกระแสตอบรับการเปิดสาขาพรรคฯ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครของพรรคนั้น ตอนนี้เราก็เริ่มทยอย อย่างการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อ.แถลง จ.ระยอง เราก็พยายามผสมผสานระหว่างการเมืองใหม่กับการเมืองเก่า

 

“วันนี้ผมว่าเราต้องช่วยกันออกแบบส่วนผสมทางการเมืองที่เหมาะสมกับบรรยากาศของประเทศ ทำอย่างไรที่เราก็มีคนรุ่นใหม่ มีเลือดใหม่ มีนักการเมืองรุ่นใหม่เข้ามา จุดแข็งของนักการเมืองรุ่นใหม่ เขามีไฟ เขามีความฟิตซ้อม มีสุขภาพที่แข็งแรง มีมันสมอง มีวิชาการ มีเทคโนโลยี นี่เป็นจุดแข็ง”

 

แต่ขณะเดียวกันการเมืองก็ยังต้องการคนรุ่นเก่าที่สั่งสมประสบการณ์ทางการเมือง ประสบการณ์การบริหาร หรือเรียนรู้ประวัติศาสตร์ทางการเมืองว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ วัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันทางการเมืองที่ทำให้การเมืองมีความปรองดองรักใคร่สามัคคี

 

ฉะนั้น ถ้าเรามีส่วนผสมของการเมืองรุ่นเก่าบวกกับการเมืองรุ่นใหม่แล้วให้ลงตัวแล้วก็มีการถ่ายทอด คนรุ่นเก่าก็ถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับคนรุ่นใหม่ คนรุ่นใหม่ก็ส่งผ่านเทคโนโลยีความรู้ใหม่ๆไปยังคนรุ่นเก่าแล้วเกิดการตกผลึกของความคิดที่เป็นส่วนผสมที่เป็นกลางและเป็นประโยชน์ให้ประเทศชาติ

 

นายสุวัจน์ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคชาติพัฒนาก็มองประเด็นทางการเมืองอย่างนี้ว่า เราเองก็ถือว่าเป็นพรรคที่เดินสายกลาง ประนีประนอมเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการทำงานให้กับประเทศ ฉะนั้นโครงสร้างของการจัดสรรผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเราก็จะมีสัดส่วนของสุภาพบุรุษ สุภาพสตรีก็คือ ผู้ชาย กับผู้หญิงที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดความเสมอภาคแล้วก็สัดส่วนของคนรุ่นใหม่กับสัดส่วนของนักการเมืองรุ่นเก่าที่จะช่วยกันทำงานช่วยกันระดมสมอง เพื่อให้เกิดผลลัพท์ทางการเมืองที่ดีที่สุดจะได้เป็นพลังในการขับแคลื่อนนโยบายของพรรคฯทำงานให้กับประเทศได้

 

“โคราชยังไงเราก็ต้องส่งครบทุกเขตทั้ง 16 เขต เพราะโคราชถือว่าเป็นเรือนตาย เป็นบ้านของพรรคชาติพัฒนา ฉะนั้นที่โคราชต้องส่งครบแล้วคุณภาพต้องเป๊ะ ประกาศชื่อมาแล้วพี่น้องประชาชนไว้วางใจได้ เพราะเราจะใช้พลังของคนโคราชจะเป็นพลังหลักในการสร้างพรรคชาติพัฒนาให้คัมแบ็คกลับมา เพื่อทำงานให้กับประเทศอีกครั้งหนึ่ง”

 

นายสุวัจน์ กล่าวด้วยว่า “เราจะทำให้ดีที่สุดทั้งนโยบายในการพัฒนาโคราช นโยบายที่จะนำเศรษฐกิจยุคทองของโคราชกลับมา ท่านชาติชายฯเคยทำไว้อย่างไร โคราชยิ่งใหญ่อย่างไร ชาติพัฒนาจะนำสิ่งนั้นกลับมาสู่พี่น้องประชาชนชาวโคราชอีกครั้งหนึ่ง ขอเพียงอย่างเดียวว่าให้เรามีเสียเยอะๆ เราจะนำสิ่งนั้นกลับมา”