คดีเด่นป.ป.ช. : คุก 2 ปี 6 เดือน “นายกเทศมนตรีค้อวัง” จ.ยโสธร ฮั้วประมูล

05 ส.ค. 2565 | 05:18 น.

ศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 2 ปี 6 เดือน “นายกเทศมนตรีค้อวัง” กับพวก ฮั้วประมูลสอบราคาจ้างก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก 6 โครงการ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.รับสอบสวนเรื่องกล่าวหา "สมศักดิ์ จักรวรรณพร" เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี ตำบลค้อวัง อาเภอค้อวัง จังหวัดยโสธร กับพวก ดังนี้


1. สมศักดิ์ จักรวรรณพร ที่ 1 


2. วุฒิพงศ์ คำนึง ที่ 2


3. พิฑูรย์ ศรีสอน ที่ 3


4. สมัย รักศิลป์ ที่ 4


5.อุทัย จาปี ที่ 5


6. ว่าที่ร้อยตรีเถลิงเกียรติ โคตรสุโพธิ์ ที่ 6 


7. สัญจร สิงห์สำราญ ที่ 7


8.นิมิตร งามสะอาด ที่ 8 


9.รำพรรณ จันทะรัง ที่ 9


10.ศรายุทธ ทองขำ ที่ 10

สำหรับพฤติการณ์ผู้ถูกกล่าวหา คือ สมศักดิ์ จักรวรรณพร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี ตำบลค้อวัง ร่วมกับพวก สอบราคาจ้างก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก จำนวน 6 โครงการ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม


เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. วันที่ 15 พ.ย. 2559 ชี้ว่า สมศักดิ์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157 และ มาตรา 162(1),(4) และ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือ หน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 4

สำนักงาน ป.ป.ช.สรุปสำนวน ส่งหลักฐานไปให้อัยการสูงสุด เพื่อยื่นฟ้องต่อศาล
คดีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติชอบภาค 3  พิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อท 123,127/2562 คดีหมายเลขแดงที่ อท 90-91/2563 วันที่ 27  สิงหาคม 2563 ดังนี้ 
จำเลยที่ 1-2-3 ที่ 6 และที่ 10 มีความผิดตามมาตรา 151


จำเลยที่ 1- 2 และที่ 6 มี ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของ พนักงานในองค์การหรือ หน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 12 จำคุกคนละ 5 ปี ปรับคนละ 160,000 บาท

 

นอกจากนั้น จำเลยที่ 3 ที่ 5 และที่ 10 มีความผิดตามมาตรา 13 จำคุกคนละ 7 ปี ปรับคนละ 180,000 บาท 


จำเลยที่ 7 ถึง 9 มีความผิดตามมาตรา 12 จำคุกคนละ 3 ปี 4 เดือน ปรับคนละ 70,000 บาท 


คดีนี้จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่ง 


จำคุก จำเลยที่ 1, 2 และ 6 คน ละ 2 ปี 6 เดือน ปรับคน ละ 80,000 บาท 


จำคุก จำเลยที่ 3, 5 และ 10 คนละ 3 ปี 6 เดือน ปรับคนละ 90,000 บาท 


จำคุก จำเลยที่ 7 ถึง 9 คนละ 1 ปี 8 เดือน ปรับคนละ 40,000 บาท 


ให้รอการลงโทษจำคุก คนละ 5 ปี


ต่อมาจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2564 พิพากษาแก้เป็นว่าไม่ปรับ และไม่รอการลงโทษ จำคุกจำเลยที่ 1 - 3 ที่ 5 ที่ 6 และที่ 10 นอกจากนั้นให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น


มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2564 พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบ ตามความเห็นของอัยการสูงสุด ที่จะไม่ฎีกา คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์