“สุวัจน์”นำทีมผู้สมัครไหว้ย่าโม ขอบารมีสู้ศึกเลือกตั้งส.ส.โคราช

30 ก.ค. 2565 | 07:57 น.

“สุวัจน์”นำทีมผู้สมัครส.ส.ไหว้ย่าโมขอบารมีคัมแบ๊ก ย้ำสูตรหาร 500 หาร 100 บัตรจบที่ศาล รธน. ลั่นจุดยืนชาติพัฒนาเลือกตั้งต้องบัตร 2 ใบ ลั่นโคราชยิ่งได้ส.ส.เยอะก็มีโอกาสทำงานรับใช้ประชาชนเยอะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 29 ก.ค.2565 ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา แกนนำของพรรคพร้อมด้วย นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 นครราชสีมา , นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ผู้อำนวยการสำนักงานพรรคชาติพัฒนา , นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ส.ส.นครราชสีมา , นายสมบัติ กาญจนวัฒนา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติพัฒนา เขต 3 


พร้อมด้วย นายไกรฤกษ์ เสียนขุนทด อดีต ส.อบจ.นครราชสีมา เขตอำเภอด่านขุนทด ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พื้นที่อำเภอด่านขุนทด ได้ร่วมกันกราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ซึ่งถือเป็นประจำในการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนชาวจ.นครราชสีมา จะต้องพากันไปกราบไหว้สักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือคุณย่าโม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เพื่อกราบไหว้ขอพรเป็นสิริมงคลและขอพรบารมีให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา โดยเฉพาะในการเลือกตั้งส.ส.ที่กำลังจะมีขึ้นในปี 2566

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ กล่าวถึงสูตรส.ส.บัญชีรายชื่อ หาร 100 หาร 500 ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก็เป็นแต่เพียงผ่านวาระ 2 ไป ฉะนั้นความชัดเจนคงจะต้องดูในวาระที่ 3 ว่ารัฐสภาจะลงความเห็นอย่างไร   แต่สุดท้ายก็ต้องไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ 


สำหรับกติกาการเลือกตั้งรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจนว่าจะมีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คือใบหนึ่งเลือก ส.ส.ที่ท่านชอบ ใบที่สองเลือกพรรคการเมือง เพื่อที่จะได้ไปคำนวนปาร์ตี้ลิสต์จำนวน 100 คน ส.ส.เขต  ฉะนั้นคิดว่ากฎหมายลูกจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ก็ต้องอยู่ภายใต้กรอบของ รธน.ที่ถือว่าเป็นกฎหมายแม่

ส่วนจุดยืนของพรรคชาติพัฒนา ต้องยึดหลักรัฐธรรมนูญ ว่าเราแก้ไขรัฐธรรมนูญไปอย่างไร อย่างถ้าเกิดเราบอกว่าเราแก้ไขรัฐธรรมนูญไป เพื่อให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบก็ควรจะต้องเป็นอย่างนั้น ฉะนั้นจุดยืนพรรคชาติพัฒนาก็ต้องเป็นอย่างนั้น 


“เราอย่างพึ่งไปมองว่าใครได้เปรียบ เสียเปรียบ เอาให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ ประชาชน ให้ประเทศชาติได้เปรียบ ให้ประชาชนได้เปรียบ เราได้เปรียบหรือเสียเปรียบไม่เป็นไรก็เหมือนกับนักกีฬา เมื่อมีกติกาแล้วออกมาอย่างไรแล้วเป็นกติกาที่ถูกต้อง ถ้าเกิดศาล รธน.ประทับตามมาแล้วว่ากติกานี้ถูกต้องก็เป็นเรื่องของพรรคการเมืองในฐานะผู้เล่นก็ต้องไปปรับวิธีการเล่นให้สอดคล้อง”


ส่วนเรื่องการปรับ ครม. นายสุวัจน์ กล่าว เรื่องนี้คงจะอยู่ในดุลพินิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าจะปรับหรือไม่ปรับ เพราะว่าเวลาก็เหลือ 7-8 เดือน อันนี้ตนตอบแทนท่านไม่ได้ 


แต่สิ่งหนึ่งที่ตนคิดว่าอยากจะเห็นวันนี้ก็ถือว่ารัฐบาลก็ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และการผ่านอภิปรายไม่ไว้วางใจถือว่าได้รับความเห็นชอบจากสภา ว่าท่านทำงานต่อไปได้ ฉะนั้นทำให้แรงกดดันทางการเมืองก็ค่อนข้างที่จะเบาลง รัฐบาลก็มีสมาธิ มีความคิด มีเวลาที่จะทำงานมากขึ้น 


“เวลาที่เหลืออยู่ 7-8 เดือนเป็นเวลาที่มีความหมายกับประเทศ ผมก็อยากให้ใช้โอกาสนี้ในความปลอดโปร่งทางการเมืองที่บรรยากาศดีขึ้นนี้ โหมเลย ทำงานในเชิงรุกเลย ลุยเลย เข้าไปแก้ไขปัญหาที่ขณะนี้กำลังเกิด ระดับรากหญ้าหรือไปตามตลาดไปทุกแห่งส่วนใหญ่จะบ่นเรื่องของแพง น้ำมันแพง สินค้าอุปโภคบริโภคแพง ก๊าซแพง ค่าไฟฟ้าแพง ทุกอย่างแพงไปหมดรวมทั้งเงินเฟ้อด้วย”


ฉะนั้น ตนคิดว่าอยากให้รัฐบาลใช้เวลาที่เหลือให้เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนก็ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ก็ฝากไว้ ตนไปเจอพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ก็จะฝากมาบอกว่า อยากให้ช่วยดูแลเรื่องของแพงมากๆ


ส่วนที่ครอบครัวเพื่อไทยนำโดย “อุ๊งอิ๊ง” เตรียมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครที่จ.นครราชสีมาในเดือนหน้านี้ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ทุกคนก็คงจะเห็นปฏิทินการเมือง ปฏิทินการเลือกตั้งที่ชัดเจนแล้ว สมมุติถ้ารัฐบาลอยู่ครบก็ประมาณเดือนมีนาคม 2566 ฉะนั้นทุกคนก็ต้องเตรียมตัว ทุกพรรคก็ต้องเตรียมตัว คิดว่าก็เป็นเรื่องปกติ ไม่น่าจะมีอะไร 


ส่วนพรรคชาติพัฒนา เที่ยวนี้เรามีความพร้อม ตนก็มั่นใจ อยากให้พรรคชาติพัฒนาได้คัมแบ๊ก คัมแบ๊กจริงๆ เพื่อที่จะมาทำให้กับชาวโคราชและมาแก้ไขปัญหาบ้านเมืองตอนนี้เป็นห่วงมากๆ เรื่องเศรษฐกิจ เพราะผลกระทบจากโควอด จากภาวะสงคราม จากเงินเฟ้อ 


“ภารกิจที่สำคัญก็คือเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งในส่วนนี้พรรคชาติพัฒนาเรามีความพร้อม เรามีความมั่นใจ เพราะว่าเราได้เรียนรู้ประสบการณ์ต่างๆ ตั้งแต่ยุคสมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี ฉะนั้นเรามีความเชื่อมั่นว่า เรามีบุคลากร มีนโยบายที่พร้อมที่จะรับใช้พี่น้องประชาชนก็ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนว่าจะได้ให้โอกาสเรามากน้อยเพียงใด เราก็จะทำให้ดีสุด”


ส่วน จ.นครราชสีมา 16 เขต จะคัมแบ๊กทุกเขตหรือไม่นั้น ตนคิดว่าเราก็อยากให้เป็นอย่างนั้น คือเราก็พยายาม อย่าง จ.นครราชสีมา หรือโคราชเราก็พยายามที่จะหาผู้สมัครที่ดีที่สุด และที่โคราชก็คงจะส่งครบทุกเขตเลย แต่จะได้กี่เขตอย่างไรนั้นก็ต้องแล้วแต่พี่น้องประชาชนชาวโคราช ส่วนจะขอเกินครึ่งของทุกเขตของโคราชนั้นก็แล้วแต่พี่น้องประชาชน ยิ่งได้เยอะเราก็มีโอกาสทำงานให้พี่น้องประชาชนได้เยอะ