สภาฯถก พรบ.งบประมาณปี 66 วาระแรก 31 พ.ค.-2 มิ.ย.นี้

10 พ.ค. 2565 | 06:07 น.

เปิดประชุมนัดแรก ยิงยาว 3 วัน 25-27 พ.ค. ถกร่าง พ.ร.บ.และกฎหมาย พร้อมนัดประชุม พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 66 วาระแรก 31 พ.ค.-2 มิ.ย. ส่วนกฎหมายลูก2ฉบับ รอเคาะวัน

นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า จากกรณีที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เรียกประชุมรัฐสภาสมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 ปี 2565 ในวันที่ 22 พฤษภาคมเป็นต้นไป ประธานสภาได้นัดประชุมสภาวันแรกในวันที่ 25 พฤษภาคม นี้

 

โดยจะเป็นการพิจารณาระเบียบวาระเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) และกฎหมายต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้ว 9 ฉบับ และร่าง พ.ร.บ.ที่เป็นเรื่องด่วน 13 ฉบับ ในจำนวนนี้เป็นร่างที่เสนอโดยรัฐบาลเพียง 1 ฉบับ

 

นอกนั้นเป็นร่างที่เสนอโดย ส.ส. และยังมีเรื่องค้างการพิจารณาที่เสนอโดย ส.ส.และภาคประชาชน จำนวน 30 ฉบับ ซึ่งประธานสภาต้องการให้พิจารณากฎหมายให้ได้มากที่สุดเพื่อประโยชน์ของประชาชน

 


 

นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร

 

นพ.สุกิจกล่าวว่า ส่วนการประชุมในวันที่ 26 พฤษภาคม เป็นการพิจารณาเกี่ยวกับกระทู้ถามสด กระทู้ทั่วไป และกระทู้แยกเฉพาะ รวมทั้งพิจารณารับทราบรายงานของส่วนราชการต่างๆ จำนวน 23 เรื่อง นอกจากนี้ ประธานสภายังนัดประชุมพิเศษ วันที่ 27 พฤษภาคม เนื่องจากยังมีเรื่องที่ กมธ.พิจารณาเสร็จแล้ว คือญัตติต่างๆ ที่ค้างอยู่ 21 เรื่อง จึงอยากให้เรื่องเหล่านี้ผ่านสภาเพื่อเป็นผลงานของสภา

 

นพ.สุกิจกล่าวต่อว่า สำหรับการประชุมสภาสัปดาห์ถัดไปจะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 วาระแรกในวันที่ 31 พฤษภาคม และวันที่ 1-2 มิถุนายน ซึ่งการกำหนดการพิจารณาไว้ 3 วัน ถือว่าเหมาะสมแล้ว เพราะที่ผ่านมาการพิจารณางบประมาณจะใช้เวลา 3 วัน และประธานสภาเห็นว่าเอกสารงบฯมีจำนวนมาก

 

ดังนั้น เพื่อให้ ส.ส.มีเวลาศึกษาข้อมูลรายละเอียดของ พ.ร.บ.งบประมาณฯ จึงให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่งเอกสารมาให้สภาในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ และให้ ส.ส.มารับเอกสารได้ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม ซึ่งจะมีเวลาเพียงพอในการศึกษาร่าง พ.ร.บ.งบ

“ส่วนการประชุมร่วมกันของรัฐสภา มี ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจที่ กมธ.พิจารณาเสร็จแล้ว มารอวาระอยู่แล้ว รวมถึง ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับที่ขณะนี้อยู่ในชั้น กมธ. โดยจะส่งให้สภาปลายเดือนนี้ ซึ่งสามารถพิจารณาร่วมกันไปได้

 

ส่วนจะเป็นวันไหนนั้นจะต้องมีการหารือผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป อย่างไรก็ตาม สำหรับมาตรการป้องกันโควิด-19 ยังเข้มข้นเหมือนการประชุมสภาสมัยที่ผ่านมา มีการตรวจ ATK มีจุดวัดอุณหภูมิ ผู้ที่อยู่ในสภาต้องสวมหน้ากากอนามัย ส่วนในห้องประชุม ส.ส.ต้องสวมหน้ากากอนามัย ยกเว้นผู้อภิปรายสามารถถอดหน้ากากอนามัยได้ และไปอภิปรายในจุดที่จัดไว้ให้”