“สุรนันทน์ เวชชาชีวะ” ร่วมงานพรรคสร้างอนาคตไทย ดัน“สมคิด" เป็นนายกฯ

23 มี.ค. 2565 | 11:33 น.

“สุรนันทน์ เวชชาชีวะ” หวนคืนการเมืองอีกครั้ง เปิดตัวร่วมพรรคสร้างอนาคตไทย ประกาศดัน “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” เป็นนายกฯ

วันนี้(23 มี.ค.65) นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ  อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  ในรัฐบาลของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  ได้เคลื่อนไหวทางการเมือง ผ่านเฟซบุ๊ก  Suranand Vejjajiva โดยมีการติด #อารยสถาปัตย์ #สร้างอนาคตไทย #ทีมสมคิด 


พร้อมข้อความขอบคุณคุณกฤษณะ Krisana Lalai Krisana Lalai Fd Inter ที่แวะมานั่งคุยและให้ความรู้เกี่ยวกับอารยสถาปัตย์ ขอความคิดไปทำนโยบาย ผลักดันเพื่อช่วยคนพิการและผู้ด้อยโอกาสต่อไป

ขณะที่เฟซบุ๊กของ กฤษนะ ละไล โพสต์ข้อความเช่นกันว่า มาพบปะสนทนาอารยสถาปัตย์กับพี่ปุ้ม-สุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ณ Brainwake @ Sukhumvit 33 หลังจากห่างหายไปจากแวดวงการเมือง เพื่อไปทำธุรกิจร้านกาแฟ Brainwake ตอนนี้หวนกลับสู่สนามการเมืองอีกครั้ง เพื่อมาช่วยงานนโยบายให้กับ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย

                                            “สุรนันทน์ เวชชาชีวะ” ร่วมงานพรรคสร้างอนาคตไทย ดัน“สมคิด" เป็นนายกฯ

 

นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้พูดคุยกับ นายอุตตม สาวนายน ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย มาได้ประมาณ 5-6 เดือนแล้ว แต่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเข้าไปร่วมงานกับพรรคสร้างอนาคตไทย แต่ช่วงประมาณ 1 เดือนก่อนหน้านี้ ได้ตัดสินใจว่าน่าจะถึงเวลาที่จะต้องเข้าไปช่วยงานอะไรบางอย่าง โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับประเทศ 

“ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาที่ผมหันมาทำธุรกิจส่วนตัว ไม่ได้ทำการเมืองกับใคร เมื่อปัญหาเศรษฐกิจรุนแรง และการที่เป็นผู้ประกอบการทำให้เห็นปัญหามากมาย จึงคิดว่าหากสามารถกลับเข้าไปช่วยได้ ทั้งการผลักดันนโยบายทางเศรษฐกิจในบางเรื่อง หรือเข้าไปช่วยงานในทางการเมืองบางเรื่อง พรรคสร้างอนาคตไทย จึงน่าเป็นพรรคที่น่าสนใจ”


นายสุรนันทน์ กล่าวว่า รู้จักกับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มากว่า 30 ปี เมื่อนายสมคิด ชักชวน จึงตัดสินใจเข้ามาร่วมงานกับทางพรรคสร้างอนาคตไทย 


ส่วนที่สื่อออกไป ก็เป็นแฮชแท็กธรรมดาง่ายๆ แม้ว่า นายสมคิด จะยังไม่ประกาศตัวว่าจะกลับมาทำงานการเมืองหรือไม่ แต่ในใจของตน คนที่เหมาะสมที่สุดที่น่าจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งคือ นายสมคิด 


“โจทย์ของปีนี้ และปีหน้าที่ชัดเจนคือ การวางแผนเรื่องเศรษฐกิจ นายสมคิด เป็นคนที่มีประสบการณ์สูง ผ่านมาทั้งรัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงแค่ นายสมคิด ยังไม่ได้เป็นเบอร์หนึ่ง หากมีโอกาสที่ นายสมคิด จะได้เป็นเบอร์หนึ่ง หรือเป็นแคนดิเดตนายกฯ คิดว่า นายสมคิด มีประสบการณ์มากพอที่จะรู้ปัญหาและแก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายสมคิด” 

 

ส่วนตำแหน่งในพรรคสร้างอนาคตไทยนั้น นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ขณะนี้เข้ามาช่วยดูแลนโยบายของพรรคไปก่อน ยังไม่ได้มีตำแหน่งที่ชัดเจนต้องรอการประชุมพรรคในช่วงต้นเดือน เม.ย.นี้ 


“ผมได้บอกกับนายอุตตม อย่างชัดเจนว่า ไม่ได้ต้องการตำแหน่งทางการเมืองใดๆ เพราะอยากทำเพียงแบ่งปันประสบการณ์ให้โอกาสกับคนรุ่นใหม่มากกว่า”

 

ดัน "สมคิด" เป็นนายกฯ


ส่วน นายสมคิด จะอยู่ในรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคสร้างอนาคตไทย ใช่หรือไม่ นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ตนหวังเช่นนั้น เพราะยังไม่รู้อนาคตว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะยุบสภาเมื่อใด ขณะนี้ นายสมคิด เป็นคนหนึ่งที่ช่วยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับแนวนโยบายทางเศรษฐกิจของพรรค และช่วยแนะนำการชักชวนคนที่มีความรู้ความสามารถทางเศรษฐกิจ และด้านอื่นๆ เข้ามาร่วมงานกับพรรคสร้างอนาคตไทย 


“ผมหวังว่านาทีสุดท้าย นายสมคิด จะตัดสินใจเป็นแคนดิเดตนายกฯ ถ้าผมมีโอกาสอยู่ในพรรคสร้างอนาคตไทย ผทจะยกมือให้ นายสมคิด เป็นแคนดิเดตนายกฯ”


ส่วนที่เสนอตัวเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ หมายความว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีจุดอ่อนในเรื่องนี้อยู่ใช่หรือไม่ นายสุรนันทน์ ตอบว่า ถือว่ายังมีจุดอ่อน เพราะรัฐบาลนี้อยู่มานาน โดยชุดความคิดที่ นายสมคิด เคยวางไว้ในช่วงต้นของรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้ถูกสานต่ออย่างครบถ้วนเพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางบุคลากรด้วยเหตุผลทางการเมือง ทำให้แผนเศรษฐกิจต่างๆ ชะงักไป


ประกอบกับในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เกิดการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ทั่วโลก แต่การบริหารจัดการของรัฐบาลมีจุดอ่อนเยอะมาก ทำให้การดูแลระบบสาธารณสุขของประชาชนช่วงแรกมีปัญหา ในขณะเดียวกันรัฐบาลก็ไม่ได้สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจระยะยาว และทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจได้อย่างเต็มที่ และไปในทิศทางที่ถูกต้อง 


ดังนั้น คิดว่าแม้จะไม่รู้ว่าจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ อย่างน้อยหากรัฐบาลนำชุดความคิดของพรรคสร้างอนาคตไทยไปใช้ก็ยินดี เพราะเราไม่ได้คุยกันที่การแพ้หรือการชนะเลือกตั้ง แต่คุยกันว่าชุดความคิดทางเศรษฐกิจของใครที่จะช่วยแก้ปัญหาของประเทศ


เมื่อถามว่ามีความมั่นใจว่าชุดความคิดทางเศรษฐกิจของนายสมคิด จะสามารถช่วยกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ใช่หรือไม่ นายสุรนันทน์ กล่าวว่า เท่าที่ได้แลกเปลี่ยนกัน ตนคิดว่าประมาณ 90% หากได้เปิดนโยบายและนำไปสู่การปฏิบัติจริงสามารถทำได้ คือสามารถแก้ปัญหาระยะสั้นเกี่ยวกับปัญหาปากท้องได้ และสามารถวางพื้นฐานด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจให้ยั่งยืนมากขึ้น

 

เปิดประวัติ สุรนันทน์ เวชชาชีวะ

 

สำหรับ สุรนันทน์ เวชชาชีวะ มีชื่อเล่นว่า ปุ้ม เกิดเมื่อวันที่ 10 พ.ค.2504 ปัจจุบันอายุย่าง 61 ปี เป็นบุตรชายของ นายนิสสัย เวชชาชีวะ กับนางมารินา อิศรเสนา ณ อยุธยา (ธิดาหลวงพิสูจน์พาณิชยลักษณ์ (หม่อมหลวงเพิ่มยศ อิศรเสนา)) 


จบปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์การเมืองที่วิลเลี่ยมส์คอลเลจ ปริญญาโทความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และปริญญาโทการบริหารที่สถาบันศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


สุรนันทน์ เวชชาชีวะ  เริ่มการทำงาน จากการเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน กองวางแผนส่วนรวม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และงานเอกชน ในกลุ่มบริษัทบ้านฉางและบริษัทธรรมนิติ


ส่วนบนถนนการเมืองนั้น เริ่มต้นจากการลงรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส. กรุงเทพมหานคร ในปี 2538 และปี 2539 สังกัดพรรคพลังธรรม แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง 


จากนั้นในปี 2544 ปฏิบัติหน้าที่รองโฆษกพรรคไทยรักไทย และโฆษกพรรคไทยรักไทย ในปี 2544 
ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ของพรรคไทยรักไทย รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ ปี 2548 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนกระทั้งเกิดการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 


สุรนันทน์ เวชชาชีวะ  เป็นหนึ่งในสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ถูกตัดสิทธิในการเลือกตั้ง หลังจากนั้น ผันตัวเองเป็นผู้ดำเนินรายการ โดยเริ่มจาก "สุรนันทน์วันนี้" "The Commentator" "Brain Wake" (Voice TV) "คุยกันวันเสาร์" (TNN 24) รวมถึงจัดรายการออนไลน์ผ่านช่องยูทูบของ หนังสือพิมพ์มติชน ในชื่อรายการ Hellmet Show ร่วมกับ พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ เขียนคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์ Bangkok Post และสยามรัฐ รวมถึงมีกิจการร้านกาแฟและร้านจำหน่ายจักรยาน "เบรนเวค" อีกด้วย


เดือน มี.ค. 2555 สุรนันทน์ เข้ารับตำแหน่งโฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในเดือนมิถุนายนปีเดียวกัน


ในการเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2557 สุรนันทน์ เวชชาชีวะ  ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 24