หมอระวี ร้องผู้ตรวจฯ ชงศาลรธน.บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ละเมิดสิทธิพรรคเล็ก

14 ก.พ. 2565 | 05:05 น.

หมอระวี ร้องผู้ตรวจ ชงยื่นศาลรธน.ปมบัตรเลือกตั้ง 2 ใบขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ​60 ละเมิดสิทธิพรรคเล็ก ทำคะแนนเสียงตกน้ำ ผู้ชนะกินรวบ

วันที่ 14 ก.พ.2565 นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เข้ายื่นหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย หลังได้รับผลกระทบจากากรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ… (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และ 9) ที่กำหนดให้ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ

 

 ในฐานะที่เป็นส.ส. และพรรคการเมืองที่ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญมาตรา 27 วรรคหนึ่ง ซึ่งระบุว่าบุคคลย่อมเสมอกันในทางกฎหมายจากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2564 หรือฉบับร่าง 2 ใบ ได้ละเมิดสิทธิเสรีภาพของตน และพรรคการเมืองขนาดเล็กอยู่ 3 ประการ 1.จากรัฐธรรมนูญปี 2560 มีเจตนารมณ์ให้จัดสรรปันส่วนทุกคะแนนเสียงมีความหมาย แต่รัฐธรรมนูญฉบับ 2 ใบนี้ ได้ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของตน และสมาชิกพรรคพลังธรรมใหม่ เพราะเป็นระบบที่ผู้ชนะกินรวบ คะแนนผู้แพ้ตกน้ำ 2.ในระบบส.ส.พึงมีในรัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นระบบที่ยุติธรรมที่สุด เพราะว่าพรรคใดได้คะนนรวมเท่าไหร่ ก็มานำรวมกับจำนวนส.ส.พึงมีของพรรคนั้น

 

แต่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2564 นี้ ได้ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของตนด้วย เกิดความไม่เท่าเทียมในการกำหนดส.ส.พึงมี แต่มีแต่การการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ดังนั้นระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบนี้ ทำให้พรรคใหญ่ที่ใช้ทุนมหาศาลในการเลือกตั้ง  จะได้ส.ส.เกินจำนวนส.ส.พึงมี
 

หมอระวี ร้องผู้ตรวจฯ ชงศาลรธน.บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ละเมิดสิทธิพรรคเล็ก

3. ระบบจัดสรรปันส่วนผสมเดิม ทำให้ประชาชนกลุ่มต่างๆในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นชาวนา กลุ่ม NGO สามารถตั้งพรรคการเมือง ละมีโอกาสส่งตัวแทนเข้ามาสะท้อนปัญหาในสภาได้ ถ้าได้คะนนเพียง 7 หมื่นคะแนน แต่ระบบบัตรสองใบจะต้องใช้คะแนนประมาณ 3.7 แสนคะแนน ดังนั้นตนและพรรคธรรมใหม่ และพรรคเล็กต่างๆ จึงถูกละเมิดสิทธิ และไม่ได้รับความเท่าเทียม ทางกฎหมาย
 

“รัฐธรรมนูญแกไขเพิ่มเติม 2564 ที่เป็นบัตรสองใบ มีความขัดและแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2560 อยู่หลายมาตรา โดยมาตราแรกขัดกับมาตรา 85 ที่บัญญัติว่าผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งในเขตมีสิทธิที่จะลงคะแนนเลือกตั้งได้คนละ 1 คะแนน แต่ระบบบัตรสอบใบจะเลือกตั้งได้สองใบ ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันทางกฎหมายอีกทั้งยังขัดและแย้งกับมาตรา 3 รัฐสภามีหน้าที่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญกฎหมาย และหลักนิติธรรมเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ แต่ระบบบัตรสองใบขัดต่อหลักนิติธรรม และไม่ได้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม แต่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของพรรคใหญ่ อีกทั้งขัดต่อมาตรา 5 วรรคหนึ่งที่บัญญัติว่ากฎหมายใดที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ บทบัญญัตินั้นจะบังคับมิได้ ดังนั้นในระบบบัตรสองใบจึงขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 27 วรรคหนึ่ง ทั้งนี้เรื่องนี้ต้องถึงศาลรัฐธรรมนูญแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นช่องทางที่ผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือการยื่นโดยตรง”