"แรมโบ้"ฟาด“พ่อโอ๊ค พานทองแท้”เคลมผลงาน“ลุงตู่"แบบหน้าไม่อาย

21 ม.ค. 2565 | 07:59 น.

"แรมโบ้"ฟาด “พ่อโอ๊ค พานทองแท้” เคลมผลงาน “ลุงตู่" แบบหน้าไม่อาย แนะหยุดหาแสง หันหน้าหาธรรมะเสียบ้าง อายุก็มากแล้ว หยุดพูดบ้างก็ได้ เพราะที่พูดมาก็เหมือนตาแก่พร้ำเพ้อ หาประโยชน์ใดไม่ได้เลย

วันที่ 21 มกราคม 2565 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีโอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่หนีคดีทุจริตอยู่ต่างประเทศ ได้ทวิตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ว่า เหลือเชื่อที่ลุงตู่ไม่รู้ไม่เห็นว่ามีห้องเย็นกักตุนเนื้อหมูหลายแสนกิโล แถมยังแนะนำคนไทยให้ไปกินเนื้ออื่น จนคุณพ่อผมต้อง Work from Dubai โดยพูดชี้เป้าใน ClubHouse จึงได้มีการบุกไปตรวจสอบ และอายัดเนื้อหมู่ที่กักตุนไว้กว่า 2 แสนโล คราวหน้าบริหารประเทศมีปัญหาปรึกษาโทนี่ นะลุง 

 

นายเสกสกล กล่าวว่า กรณีการเข้าดำเนินการเข้าตรวจห้องเย็นนั้น เป็นผลมาจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เรียกทางด้านอธิบดีกรมปศุสัตว์ เข้าพบตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2565 เพื่อกับชับการแก้ปัญหาเรื่องของราคาหมูแพงทั้งระบบ  ระหว่างทางด้านกรมปศุสัตว์ และ ทางด้านกรมการค้าภายในของกระทรวงพาณิชย์ 
หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็เร่งดำเนินการในการตรวจสอบ จนพบว่ามีการกักตุนเนื้อหมู ส่วนพ่อของโอ๊ค ที่โอ๊ค บอกว่าเป็นผู้ชี้เป้านั้น พูดเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2565 ดังนั้น อยากจะถามว่าตกลงแล้ว ใครกันแน่ที่เดินหน้าแก้ปัญหานี้ ใครกันแน่นั่งเคลมผลงานของรัฐบาล นั่งเคลมผลงานของ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์  ฉกฉายทุกอย่างเพื่อเล่นการเมือง อยู่ตลอดเวลา 

“โอ๊ค เคยรู้ไหมว่า พ่อโอ๊ค เป็นบุคคลที่น่ารังเกียจมากที่สุด เพราะอะไร เพราะพ่อโอ๊ค เป็นคนที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่พวกพ้อง สามารถที่จะอ้างทุกอย่าง เพื่อประโยชน์ของตัวเอง และพวกพ้องอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าการอ้างนั้นจะต้องทำร้ายใคร ไปกี่คน แต่พ่อโอ๊ค ไม่เคยสนใจ ที่ผ่านมา โอ๊ค ลองหันกลับไปมองบ้างว่า พ่อโอ๊ค ทำร้ายใครเอาไว้บ้าง จนเขาเหล่านั้นที่เคยรับใช้พ่อโอ๊ค ต้องบาดเจ็บ ล้มตาย ติดคุก ติดตาราง แล้วพ่อโอ๊ค เคยสนใจใยดีคนเหล่านั้นบ้างไหม”

 

นายเสกสกล กล่าวด้วยว่า วันนี้ นายทักษิณ กำลังกลายเป็นอดีตนายกฯ ที่ถูกลืมไปเรื่อย ๆ สิ่งที่ทำได้ก็พยายามหาแสง ให้กับตัวเองอยู่ตลอดเวลา  แม้ว่าคนเขาจะรู้กันไปทั่วว่า ที่ผ่านมา นายทักษิณ ไม่เคยได้สร้างประโยชน์ใดให้สังคมไทยเลย แต่เขาก็ยังกล้าที่จะเคลมทุกเรื่องว่าเป็นผลงานของตัวเอง  

“ถ้านายทักษิณ เก่งจริง ก็ลองช่วยยกผลงาน ที่เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน มาให้ดูสัก 3 เรื่องได้ไหมว่า ตอนสมัยเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เคยทำผลงานอะไรเอาไว้ให้คนไทย เชื่อว่าคนไทยไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่า นายทักษิณ เคยทำประโยชน์ใดให้กับประเทศ แต่คนไทยจำได้ขึ้นใจว่า นายทักษิณ และน้องสาว หนีคดีทุจริต ไปอยู่ต่างประเทศ อันนี้แหละคือผลงานชิ้นโบว์แดงของนายทักษิณ”


ดังนั้น เวลานี้นายทักษิณ ไม่มีความชอบธรรมใดๆ ที่จะมาอ้างโน้นนี่ หรือจะมาเคลมผลงานของรัฐบาล และ ผลงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มุ่งจะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้กับประชาชนอยู่ตลอดเวลา ไม่สนใจเรื่องการเมือง เสียงที่นายทักษิณ พูดมาทุกอาทิตย์นั้น กลายเป็นเสียงที่หาประโยชน์ใดไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่รัฐบาลทำไปก่อนหน้าแล้วทั้งสิ้น นายทักษิณ จึงค่อยมาพูดตามหลัง แล้วก็เคลมผลงาน แบบไร้ยางอาย

 

“ขอร้องเถอะ เลิกหาแสง แล้วก็หันหน้าหาธรรมะเสียบ้าง อายุก็มากแล้ว หยุดพูดบ้างก็ได้ เพราะที่พูดมาก็เหมือนตาแก่พร้ำเพ้อ หาประโยชน์ใดไม่ได้เลย ดังนั้นการหยุดพูด จะเป็นการช่วยประเทศได้อีกทางหนึ่ง” นายเสกสกล กล่าว