ปรับหลักเกณฑ์ค่าใช้จ่ายผู้ป่วยโควิด ลดราคา PCR- ห้องพัก Hospitel

12 ม.ค. 2565 | 08:11 น.

รองโฆษกรัฐบาล เผย ครม. ผ่านหลักเกณฑ์ค่าใช้จ่าย ผู้ป่วยฉุกเฉินโควิด ฉบับที่7 เพิ่มรายการตรวจวินิจฉัยด้วย ATK ค่าบริการวิชาชีพสำหรับกรณี HI, CI ,Hotel Isolation พร้อมปรับลด ราคาตรวจ RT-PCR ค่าห้องพัก Hospitel เหมาจ่าย 1พัน ต่อวัน อาหาร3มื้อ

 วันที่ 12 ม.ค. 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2565  ได้เห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือโควิด-19 (ฉบับที่7)  โดยมีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขรายการซ้ำซ้อน การแก้ไขลำดับ/รหัส/หน่วยของรายการ รวมถึงการปรับแก้อัตราค่าบริการบางรายการโดยเฉพาะรายการค่าตรวจ Real time PCR การเพิ่มรายการค่าตรวจด้วย ATK เพิ่มค่าบริการวิชาชีพ กำหนดค่าห้องพัก Hospitel เพื่อให้สอดคล้องตามสถานการณ์และแนวทางการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 สำหรับรายการที่มีการยกเลิก แก้ไข หรือเพิ่มรายการ มีรายละเอียดและกำหนดการเริ่มมีผลบังคับดังต่อไปนี้  

 

1.ยกเลิกรายการซ้ำซ้อนในหมวดที่ 3 ค่ายา จำนวน 2 รายการได้แก่ COLISTIN(บริษัท มิลลิเมด จำกัด) และ UTOIN-250 (บริษัท ยูเมด้า จำกัด)  เนื่องจากมีความซ้ำซ้อนกับรายการในหลักเกณฑ์ฉบับที่5 และราคาที่ถูกพิจารณาใหม่ มีความเป็นปัจจุบันมากกว่า โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ ครม.มีมติเป็นต้นไป  

 

2.แก้ไขอัตราค่ายา ALUMED(ยารักษาโรคกระเพาะอาหาร)  จากเดิม 2,917 บาท เป็น 18.50 บาท เนื่องจากมีข้อผิดพลาดในขั้นตอนการจัดทำเอกสาร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. 2563  

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

 

3.ปรับปรุงอัตราค่าตรวจวินิจฉัยทางเทคนิคการแพทย์และพยาธิวิทยา ได้แก่ รายการ Covid-19 Real time PCR 2 ยีนส์ (เหมาจ่าย) จากเดิม 2,250 บาท ปรับเป็น 1,300 บาท  และ Covid-19 Rael time PCR 3 ยีนส์(เหมาจ่าย) จากเดิม 2,550 บาท ปรับใหม่เป็น 1,500 บาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ครม. มีมติเห็นชอบเป็นต้นไป 

 

4.เพิ่มรายการค่าตรวจวินิจฉัยทางเทคนิคการแพทย์และพยาธิวิทยา เนื่องจากเดิมไม่ได้กำหนดไว้ ได้แก่ การตรวจคัดกรอง Covid-19 ด้วย Ag Test Kit ด้วยวิธี Chromatographic immunoassay จ่ายตามจริงไม่เกิน 300 บาทต่อครั้ง และด้วยวิธี FIA จ่ายตามจริง ไม่เกิน 400 บาทต่อครั้ง โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ ครม. มีมติเห็นชอบเป็นต้นไป 

 

เพิ่มค่าบริการวิชาชีพเนื่องจากเดิมไม่ได้กำหนดไว้  ได้แก่ ค่าบริการเหมาจ่ายสำหรับการดูแลให้บริการผู้ป่วยโควิด-19 (ค่ายาพื้นฐาน ค่าบริการพยาบาลทั่วไป ค่าติดตามอาการและค่าให้คำปรึกษาของแพทย์ รวมทั้งค่าอาหาร 3 มื้อ) 

สำหรับกรณี Home Isolation, Community Isolation และ Hotel Isolation (ซึ่งกรณีนี้รวมค่าห้องพักด้วย) 1,000 บาทต่อวัน และเพิ่มค่าบริการเหมาจ่ายการใช้ยาสมุนไพรฟ้าทลายโจร รวมค่ายาและค่าบริหารจัดการยา 300 บาทต่อราย  มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2564 เป็นต้นไป 

 

นอกจากนี้ มีการแก้ไขลำดับและรหัสรายการ ให้การตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อโควิด-19 ด้วยตัวอย่างน้ำลายแบบรวมตัวอย่าง(Pooled saliva samples) ราคา 460 บาทต่อเทส และด้วยตัวอย่างป้ายหลังโพลงจมูกและป้ายลำคอแบบรวมตัวอย่าง (Pooled noasopharyngeal and throat swab samples) ราคา 575 บาทต่อเทส โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค. 2564  

 

5. แก้ไข “หน่วย” ในหมวดที่ 12 ค่าบริการวิชาชีพ ข้อ 12.8 ค่าบริการตรวจวินิจฉัยและทำหัตถการโดยแพทย์ จำนวน 31 รายการ โดยกำหนดให้หน่วยเป็น “ครั้ง” เนื่องจากเดิมไม่ได้กำหนดไว้ โดยให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2564  

 

6.ปรับปรุงรายการค่าห้องพัก(กรณี Hospitel) ในบัญชีและอัตราแนบท้ายหลักเกณฑ์ฯ เป็นเหมาจ่าย 1,000 บาทต่อวัน (พร้อมอาหาร 3 มื้อ) มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ ครม. มีมติเป็นต้นไปโดยส่วนนี้เป็นปรับปรุงจากเดิมที่ใช้ราคาเดียวกับรายการตามหลักเกณฑ์ฯ (ฉบับที่ 1) ค่าห้องแยกโรค อัตรา 1,500 บาท/วัน ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นอัตราเดียวกันกับกรณี Hotel Isolation ที่กำหนดในราคาเหมาจ่าย 1,000 บาทเช่นเดียวกัน