เพื่อไทย ชำแหละ "นายกฯ - เฉลิมชัย" ปกปิดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร

11 ม.ค. 2565 | 06:28 น.

เดินหน้าชำแหละ นายกฯ - รมว.เกษตรฯ - อธิบดีปศุสัตว์ ‘ปกปิด’ โรคระบาดอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ‘เพื่อไทย’ ใช้เวทีสภา ยื่นญัตติด่วน-กระทู้-ซักฟอก รัฐบาลไร้ความรับผิดชอบ เล็งยื่น ป.ป.ช. เอาผิดซ้ำ

วันที่ 11 ม.ค.65 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทย และ นายวิสุทธิ์ ไชณรุณ ส.ส.พะเยาและประธานคณะทำงานด้านนโยบายด้านวางระบบเกษตรด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ พรรคเพื่อไทย  แถลงแนวทางการดำเนินการกับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอธิบดีกรมปศุสัตว์ กรณีที่ปล่อยปละละเลยหรือมีพฤติกรรมปกปิดปัญหาการระบาดของโรคอหิวาต์​แอฟริกา​ใน​สุกร​ (African swine fever : ASF) ซึ่งเป็นผลทำให้เกิดปัญหาหมูล้มตายจำนวนมากและหมูขาดตลาด จนราคาหมูพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ทำให้พี่น้องเกษตรกรและพี่น้องประชาชนเดือดร้อนอย่างหนัก 

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ปัญหาหมูแพงและโรคระบาดในสุกรเป็นเรื่องใหญ่ที่สามารถนำไปสู่การล้มรัฐบาล เนื่องจากได้มีการปล่อยปละละเลยและมีพฤติกรรมในการปกปิดปัญหาโรคระบาด จนสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อเกษตรกร เศรษฐกิจครัวเรือนพังพินาศ พี่น้องประชาชนเดือดร้อน ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะดำเนินการนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของสภาทันทีที่สภาเปิดและจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการสร้างความเสียหายครั้งนี้  
 

เพื่อไทย ชำแหละ  "นายกฯ - เฉลิมชัย"   ปกปิดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร

1. จะมีการยื่นญัตติด่วนต่อสภา เพื่อให้พิจารณาหามาตรการและแนวทางแก้ไขปัญหาให้พี่น้องเกษตรกร พร้อมทั้งถามหาความรับผิดชอบจากนายกรัฐมตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งตั้งกระทู้ถามสดถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้มีคำตอบที่ชัดเจนว่าปัญหานี้เกิดจากอะไร และที่ผ่านมาใครเอาเท้าเหยียบไว้ถึงไม่สามารถบอกได้ถึงการระบาดของโรคในสุกร  

 

2. ข้อมูลความผิดปกติเกี่ยวกับปัญหาโรคระบาดในสุกร จะอยู่ในญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งจะดำเนินการยื่นต่อสภาอย่างแน่นอน 

 

3. หากกรณีนี้ไม่มีความรับผิดชอบจากนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมไปถึงอธิบดีกรมปศุสัตว์ พรรคจะพิจารณายื่นเรื่องของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้มีการตรวจสอบและสอบสวนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ร่วมกันก่อความเสียหายต่อบ้านเมืองในครั้งนี้ นอกจากนี้ในส่วนของข้าราชการประจำที่ร่วมกันปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหายก็จะมีการพิจารณาดำเนินการทางกฎหมาย  
 

เพื่อไทย ชำแหละ  "นายกฯ - เฉลิมชัย"   ปกปิดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ปัญหาการระบาดของโรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกรนั้นพรรคเพื่อไทยได้เรียกร้องมาตลอดให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไข แต่ที่ผ่านมารัฐบาลกลับนิ่งเฉย ซึ่งตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2562 นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในที่ประชุมสภาเรื่องการระบาดของโรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกร แม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ และคำตอบก็ไม่ได้บ่งชี้ว่ามีการยอมรับว่ามีการระบาดของโรค ต่อมา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย ซึ่งติดตามปัญหานี้มาอย่างต่อเนื่องก็ได้พยายามนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของสภาอีกครั้งในเดือนธันวาคม 2564 แต่ก็ต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากเกิดการระบาดของโควิด-10 สายพันธุ์โอมิครอน

 

นายแพทย์ชลน่านกล่าวว่า เมื่อตรวจสอบย้อนหลังไปก็พบว่า ในเดือนเมษายน 2562 นายกฤษฎา บุญราช ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีประกาศถึงปัญหาการระบาดของอหิวาห์แอฟริกาในสุกรให้เป็นวาระแห่งชาติ แต่รัฐบาลกลับไม่ทำอะไรเลย แล้ววันนี้ก็มีหลักฐานออกมาชัดเจนถึงความพยายามปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของโรค เพราะมีหนังสือของภาคีคณบดีคณะสัตว์แพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย ถึงอธิบดีกรมปศุสัตว์ เตือนถึงการระบาดของโรคนี้ แต่ภาครัฐกลับนิ่งเฉย ดังนั้นจึงต้องถามไปยังรัฐบาลว่าที่ไม่ยอมรับว่าการกระบาดของโรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกรนั้น เพราะกลัวที่จะต้องเยียวยาให้กับเกษตรกร หรือต้องการปกปิด เพราะต้องการทำลายล้างเกษตรกรรายย่อยที่เลี้ยงหมู แล้วเหลือแต่ผู้ประกอบการรายใหญ่หรือไม่ 


นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นต้องมีผู้รับผิดชอบความเสียหาย ทั้งต่อเกษตรกรและความรับผิดชอบทางการเมือง โดยนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะต้องตอบให้ได้ว่า ไปอยู่ไหนมาถึงไม่ใส่ใจความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร  เพราะหเหตุใดจึงปล่อยปละละเลยจนเกิดความเดือดร้อนกับพี่น้องเกษตรกรและประชานชน หรือเป็นความพยายามที่จะปกป้องผลประโยชน์พวกพ้อง โดยไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชน