“สุดารัตน์”อ้อนชาวบึงกุ่มหนุน“แมน เจริญวัลย์”เป็นส.ส.

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยนายแมน เจริญวัลย์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยสร้างไทยเขตบึงกุ่ม ลงพื้นที่รับฟังปัญหาประชาชนชุมชนเอื้ออาทรบึงกุ่ม พร้อมบริการตัดผมฟรี และขายไข่ไก่ราคาถูก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น โดยมีประชาชนให้ความสนใจอย่างคึกคัก

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เพราะที่ผ่านมาประชาชนได้รับผลกระทบอย่างแสนสาหัสจากค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น จากการบริหารงานของรัฐบาลจากสถานการณ์โควิด-19 พรรคไทยสร้างไทยให้ความสำคัญกับประชาชนคนตัวเล็ก ที่ถูกกดทับจาก “รัฐราชการอำนาจนิยม” จึงมีนโยบาย “บำนาญประชาชน 3,000 บาท” เพื่อให้ผู้สูงอายุอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี ลดภาระคนวัยทำงาน 
                      

และที่สำคัญคือนโยบาย “กองทุนคนตัวเล็ก” ที่ประชาชนขาดสภาพคล่องอย่างหนักในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ต้องกู้เงินนอกระบบ มาใช้ประทังชีวิตประจำวัน ซึ่งกองทุนดังกล่าว จะเป็นแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแทนการกู้หนี้นอกระบบ ให้โอกาสพี่น้องประชาชนได้สามารถตั้งหลักกับวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญปัญหาความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสได้ 

“พรรคไทยสร้างไทย จะเป็นภาระกิจสุดท้ายของคนที่ชื่อ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หลังจากทำงานทางการเมืองมากว่า 30 ปี ซึ่งก่อนตาย ขอนำประสบการณ์ทางการเมืองมาสร้างประเทศให้ดีขึ้น ด้วยบ้านหลังใหม่ ที่ชื่อว่า ไทยสร้างไทย ให้เป็นสถาบันทางการเมืองสำหรับคนทุกช่วงทุกวัย เพื่อปลดปล่อยประชาชนคนตัวเล็ก “ให้หายจน หมดหนี้ มีรายได้อย่างยั่งยืน” 

ดังนั้นจึงขอฝากให้พี่น้องชาวเขตบึงกุ่มสนับสนุน “แมน เจริญวัลย์” เพื่อเป็นตัวแทนเข้าไปแก้ไขปัญหาให้ประชาชนคนตัวเล็ก “มีรายได้ สร้างอาชีพ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว

ด้านนายแมน กล่าวว่า ชุมชนเอื้ออาทรบึงกุ่มมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 10,000 คน ได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นพรรคไทยสร้างไทยเขตบึงกุ่ม จึงจัดโครงการ “ฟังไข่ผม” เพื่อขายไข่ไก่ในราคาถูก โดยจำกัดหนึ่งแฝงต่อหนึ่งครอบครัว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจสกค่าครองชีพ และบริการตัดผมฟรี สำหรับเด็ก และผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงเปิดเทอมที่จะมาถึงนี้ 

นอกจากนี้ จากสถานการณ์โควิด-19 ได้ส่งผลกระทบทำให้เกิดการว่างงานเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีผู้ป่วยติดเตียง และผู้สูงอายุอาศัยอยู่ตามตึก ดังนั้นนโยบาย “บำนาญประชาชน 3,000 บาท” จะตอบโจทย์ประชาชน เพื่อลดภาระคนวัยทำงาน ส่วนการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ขอให้รัฐบาลลงมาดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ทั้งปัญหาการว่างงาน และปัญหาค่าครองชีพ