“หมอระวี”ยอมรับ“ดีล-แจกกล้วย”พรรคเล็กโหวตล้มนายกฯ มีจริง

02 ก.ย. 2564 | 07:55 น.

“หมอระวี”ยอมรับ“ดีล-แจกกล้วย”พรรคเล็กโหวตล้มนายกฯ มีจริง ส่วนท่าที 10 พรรคเล็กโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องของแต่ละคนแต่ละพรรค เผยหากเฟ้น“นายกฯใหม่” ต้อง “ทักษิณ”ยอมรับ เพราะจะเกิดขึ้นได้ “พปชร.” ต้องจับมือกับ“เพื่อไทย”

นพ.ระวี มาศฉมาพล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ หนึ่งในพรรคเล็กที่มีข่าวถูกดีลโหวตล้ม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในศึกซักฟอก ออกยอมรับว่า พรรคเล็กกำลังเป็นตัวแปรสำคัญในทางการเมืองจริง ข่าวแกนนำ 2 พรรค คือ พรรคเพื่อไทย กับพลังประชารัฐ ไปดีลกันเพื่อโหวตล้มนายกฯ เป็นเรื่องจริง

 

สำหรับสถานการณ์ของพรรคเล็ก 1 เสียง ปัจจุบันเหลือ 9 พรรค 9 เสียง เพราะมีบางพรรคยุบตัวเอง และบางพรรคไปอยู่กับฝ่ายค้าน แต่ก็ยังมีพรรคที่ไม่ใช่พรรค 1 เสียง แต่เป็นพรรคต่ำสิบอีก เช่น พรรคชาติพัฒนา พรรคพลังท้องถิ่นไท พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย รวมทั้งหมดก็กว่า 20 เสียง เรื่องการดีลพรรคเล็ก บอกได้อย่างเดียวว่า “ถ้าไม่มีควันก็ไม่มีไฟ”

 

เมื่อถามถึงข่าวแจกกล้วย ซึ่งหมายถึงการจ่ายเงินจ่ายทองเพื่อแลกกับการโหวตลงมติ นพ.ระวี ระบุว่า ขอเปรียบเทียบกับเวลาหาเสียงเลือกตั้งในเขตพื้นที่ต่างๆ ก็จะต้องมีการซื้อเสียง แต่การซื้อเสียงนั้น คนซื้อก็เลือกเหมือนกัน บ้านที่ซื้อไม่ได้ เช่น บ้านมีรั้ว คอนโดฯ หรู ก็จะไม่ซื้อ เพราะเงิน 500 บาท หรือ 1,000 บาท ซื้อไม่ได้ ก็จะเลือกซื้อในชุมชนแทน

 

“เปรียบกับพรรคเล็ก อย่างผมก็รอกล้วยอยู่ แต่ไม่มีกล้วยมาสักหวี เพราะคนดีลจะดูรู้ว่าพรรคไหนเอากล้วยหรือไม่เอา ในสภาคุยกันหมด ก็มีข่าวจากคนนั้นคนนี้ มีกระแสเคลื่อนไหวจะคว่ำนายกฯ ใช้เสียงพลังประชารัฐเท่านี้ เสียงพรรคเล็กเท่านี้ เพื่อคว่ำนายกฯ ทั้งหมดนี้มีข่าวจริง แต่ไม่เป็นตัวเป็นตน มีข่าวหนาหู ส.ส.ทุกคนก็คุยกันหมด”

ส่วนท่าทีของพรรคเล็ก ต้องบอกว่าไม่ได้มีพรรคเดียว แต่มีเป็น 10 พรรค จึงเป็นเรื่องของแต่ละคน แต่ละพรรค บอกไม่ได้ แต่ทั้งหมดกว่า 20 เสียง ถ้าโหวตไปทางเดียวกันหมด คือไม่ไว้วางใจนายกฯ ไปรวมกับฝ่ายค้าน 212 เสียง ก็ยังไม่พอคว่ำนายกฯ ก็ต้องมีแหกโค้งมาจากพรรคร่วมรัฐบาล หรือ พรรคใหญ่ในรัฐบาลด้วย

 

ต่อกรณีพรรคเล็กจะตัดสินใจอย่างไร หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวว่า การจะตัดสินใจก็ต้องมองสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนานคต ถ้ามีการคว่ำนายกฯ ลงมาได้ ต่อไปก็จะต้องเลือกนายกฯ คนนอก เพราะ 3-5 คน ที่มีโอกาสเป็นแคนดิเดต น่าจะไม่ผ่าน แต่คนนอกบัญชีพรรคการเมืองจะเป็นนายกฯ ได้ 2 พรรคใหญ่ต้องสนับสนุนก่อน คือ เพื่อไทย กับ พลังประชารัฐ เพราะรวม 2 พรรค ก็จะได้กว่า 250 เสียง จากนั้นก็รวมพรรคเล็กพรรคน้อยมาใส่

 

“ยอมรับว่าในสภามีการคุยกันบ้างว่า ใครที่มีโอกาสจะได้เป็นนายกฯ คนใหม่ แต่ใครคนนั้น อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ต้องยอมรับ เพราะการจะเกิดสูตรนี้ได้ พลังประชารัฐต้องจับมือกับเพื่อไทย”

เมื่อถามถึงชื่อ “บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นพ.ระวี ตอบว่า ไม่ทราบว่านายกฯ ใหม่เป็น “บิ๊กป้อม”หรือไม่ ต้องไปสืบเอาเอง

 

ส่วนการตัดสินใจโหวตญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของกลุ่มพรรคเล็ก นพ.ระวี ระบุว่า จะไม่เป็นเอกฉันท์ทั้งหมด แต่ทุกพรรคเห็นตรงกันว่าจะนั่งฟังคำชี้แจงของรัฐมนตรี และนายกฯ ทั้งหมดก่อน และต้องไม่ลืมรัฐธรรมนูญมาตรา 114 ส.ส.ไม่ได้มีหน้าที่เป็นองครักษ์พิทักษ์รัฐบาล หรือ รัฐมนตรี ฉะนั้น ถ้านายกฯ และรัฐมนตรีตอบไม่ได้ เราก็ไม่สามารถโหวตให้ ถ้าตอบได้เราก็ต้องโหวตให้