มติก.ต.ไฟเขียว “ปิยกุล บุญเพิ่ม”นั่งประธานศาลฎีกาหญิง ต่อจาก เมทินี ชโลธร

21 ก.ค. 2564 | 08:26 น.

“โฆษกศาลยุติธรรม”เผยที่ประชุม ก.ต.เห็นชอบให้ "ปิยกุล บุญเพิ่ม" ประธานศาลอุทธรณ์ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา คนที่ 47 มีผล 1 ต.ค.2564 จะถือเป็นประธานศาลฎีกาหญิงคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ต่อจาก “เมทินี ชโลธร”

วันนี้(21 ก.ค.64) นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า วันนี้ เมื่อเวลา 09.00 น.คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม หรือ ก.ต. ได้ประชุมครั้งที่ 17/2564 โดยมีวาระสำคัญคือ การลงมติให้ความเห็นชอบเลือกข้าราชการตุลาการเพื่อดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกาคนที่ 47 เนื่องจาก นางเมทินี ชโลธร ประธานศาลฎีกาคนปัจจุบัน จะสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งในภารกิจของสายการบริหาร ในวันที่ 30 ก.ย.64 นี้ เมื่อมีอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ ตามกฎหมาย

 

โดยที่ประชุม ก.ต.ได้พิจารณาเห็นชอบแต่งตั้งประธานศาลฎีกา ซึ่งจะพิจารณารายชื่อผู้พิพากษาตามลำดับอาวุโส ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติความเหมาะสมตามบัญชีที่มีการเสนอจากอนุกรรมการตุลาการ ศาลยุติธรรม หรือ อนุกรรมการตุลาการ (อ.ก.ต.) 


 

ที่ประชุม ก.ต.วันนี้ มีมติเห็นชอบให้ น.ส.ปิยกุล บุญเพิ่ม ประธานศาลอุทธรณ์ ผู้ที่มีอาวุโสลำดับที่ 1 ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา คนที่ 47 ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 64 เป็นต้นไป โดย น.ส.ปิยกุล ว่าที่ประธานศาลฎีกา จะมีวาระการดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของศาลยุติธรรม เป็นระยะเวลา 1 ปี

 

น.ส.ปิยกุล บุญเพิ่ม ว่าที่ประธานศาลฎีกาคนใหม่ ถือเป็นประธานศาลฎีกาหญิงคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของวงการตุลาการของไทย ซึ่งจะดำรงตำแหน่งต่อจาก นางเมทินี ชโลธร ประธานศาลฎีกาคนปัจจุบัน ที่จะเกษียณอายุราชการวันที่ 30 กันยายนนี้

 

 

สำหรับ น.ส.ปิยกุล บุญเพิ่ม ว่าที่ประธานศาลฎีกา คนที่ 47 เกิดวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ.2499 ปัจจุบันอายุ 64 ปี 

 

จบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 2 จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง 

 

หลักสูตรเนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมาย แห่งเนติบัณฑิตยสภา 

 

นิติศาสตรมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

 

ประวัติการทำงาน 

 

ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานศาลอุทธรณ์ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 

 

เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ ได้แก่ 


ประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา ดำรงตำแหน่งวันที่ 1 ตุลาคม 2562 

 

ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 1 ดำรงตำแหน่งวันที่ 1 ตุลาคม 2560

 

ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ดำรงตำแหน่งวันที่ 1 ตุลาคม 58

 

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดที่ได้รับ 

 

-มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก วันที่ 5 ธันวาคม 2546

 

-มหาวชิรมงกุฎ วันที่ 5 ธันวาคม 2543