ถ้าไม่นับกรุงเทพฯ ต้องถือว่า “โคราช” เป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งตามทะเบียนราษฎร์ 2,102,540 คน 4,660 หน่วยเลือกตั้ง 32 อำเภอ จำนวนสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) 48 เขตเลือกตั้ง
นายกอบจ.โคราช จะได้บริหารงบฯใหญ่ยักษ์ปีละ 4 พันล้านบาท
ครั้งนี้มีผู้เสนอตัวชิงชัย 5 คน โดยแชมป์เก่า “หมอแหยง” นพ.สำเริง แหยงกระโทก อดีตนายก อบจ. ครั้งนี้ถูกเทจากค่ายภูมิใจไทย จนต้องแขวนป้ายขึ้นสู้ในนาม กลุ่มรักษ์โคราช หมายเลข 3 ชูผลงาน 8 ปีในตำแหน่งสร้างสภาประชาชน กระจายงบอย่างเป็นธรรมทั่วถึง สร้าง เครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอสม.ผู้พิการ ตั้งแต่ครั้งเป็นสาธารณสุขจังหวัด
“หมอแหยง” มีสิทธิ์เบียดเข้าวินได้ตลอด จากกลุ่มพลังงาน รวมถึงกลุ่มครูจากการโดดเข้ามาช่วยของ “ทอง วิริยะจารุ” บวกกับคะแนนสงสารที่ถูกพรรคการเมืองใหญ่เท แต่เมื่อดูคู่แข่งต้องรับว่าปีนี้ศึกหนักแน่
ถัดมา “เฮียแก้ว” วิฑูรย์ ชาติปฏิมาพงษ์ สมัครอิสระ หมาย เลข 4 แชมป์เก่าในอดีตที่มี ส.อบจ.ในสังกัดมากมายในตอนนั้น แต่ “หมอแหยง” ก็มาเสียแชมป์ให้กับ ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี ภริยา “ไพโรจน์ สุวรรณฉวี” นักการเมืองชื่อดังในอดีตผู้ล่วงลับ
“เฮียแก้ว” ขายความเก๋า-จริงใจ ไม่ท้อที่จะลงสนามหวังทวงเก้าอี้คืนแม้พลาดหวังต่อเนื่องมา 12 ปี ยิ่งสู้ยิ่งเหนื่อย คนรุ่นใหม่ก็ไม่รู้จัก เครือข่ายเก่าก็หดหาย ครั้งนี้ทิ้งไพ่ประกาศ “ศึกสุดท้าย” หวังคะแนนกลุ่มข้าราชการ ที่ยังติดใจสไตล์บริหารงาน
หน้าเก่าอีกคนบนถนนการ เมือง นายตรีเพชร พรหมนิติพันธุ์ หมายเลข 5 อดีต ส.ส.นครราชสีมา เมื่อนานหลายสิบปีมาแล้ว ลงทุกครั้งแต่ไม่ค่อยแขวนป้าย วงการมองว่าเป็นสีสันการเลือกตั้ง
สนามเลือกตั้งนายก อบจ.โคราช มิใช่เวทีชิงชัยของ “คนหน้าเดิม” เมื่อ “เจ๊หน่อย” ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล เดินทางมาสมัครเข้ารับเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย โดยได้หมายเลข 2 และเซียนการเมืองยกให้เป็น “เต็ง 1” ของสนามนี้ทันทีที่เริ่มออกสตาร์ท
ด้วยโปรไฟล์ที่ “ไม่ธรรมดา” เจ๊หน่อยเป็นประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ชมรม TO BE NUMBER ONE เอี่ยมเฮง จากค่ายภูมิใจไทย แถมมีดีกรีเป็นภริยาของ นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์
แม้จะลงสนามท้องถิ่นครั้งแรกในชีวิต แต่มีแรงหนุนดีจาก 2 พลังทั้งพรรคภูมิใจไทย และพลังประชารัฐ วงในยังบอกอีกว่า “เจ๊หน่อย” ใช้พลังภายในกวาดเอา ส.อบจ. เก่าที่ยังทรงอิทธิพลในพื้นที่ และเป็นขุนพลหลักในแต่ละเขตมาเป็นพวกได้หลายคน
ส่วนเรื่องนํ้าเลี้ยงไม่ต้องพูดถึงบอกได้คำเดียวว่าไม่อั้น เพราะยอดดวงใจของ รมช.พาณิชย์ และเป็นขาใหญ่ที่สุดของประเทศในกิจการโรงแป้งมัน คำว่าหมดหน้าตัก ตัดทิ้งไปได้เลย หากยังรักษามาตรฐานตามสัญญา ที่ให้ไว้กับบรรดาแรงหนุนและกองเชียร์ขาประจำ
ส่วนอีกหนึ่ง “คนหน้าใหม่” ดร.สาธิต ปิติวรา หมายเลข 1 กลุ่มก้าวหน้า ที่คณะก้าวหน้าส่งลงมาประกวด ถือว่าหน้าใหม่มากๆ สำหรับสนามนี้ จึงไม่มีคะแนนพื้นฐาน คาดหวังแต่จากกระแสคนรุ่นใหม่ และการเมืองภาพใหญ่ จะส่งผลถึงสนามท้องถิ่น
ฟันธงเวลานี้เต็งหนึ่งต้องยกให้ “เจ๊หน่อย” จากค่ายภูมิใจไทย โดยมี “หมอแหยง” แชมป์เก่า ตามมาติดๆ ขณะ “ดร.สาธิต” เป็นตัวสอดแทรก หากพลังคนรุ่นใหม่ขึ้นกระแสสูงได้จริง ซึ่งต้องลุ้นกันถึงวินาทีสุดท้าย