วันนี้ (8 ต.ค.63) ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ของกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เฉพาะบางรายการ ให้แก่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดินและการบังคับใช้กฎหมาย
โดยให้เปิดเผยเฉพาะรายการที่ 1 สำเนาการสอบสวนข้อเท็จจริง รายการที่ 2 สรุปข้อเท็จจริง รายการที่ 3 ผลการพิจารณาและรายงานการประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และรายการที่ 5 คำสั่งและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยอาจใช้ดุลพินิจปกปิดชื่อบุคคลและข้อความที่อาจส่งผลกระทบต่อสิทธิส่วนบุคคล
ทั้งนี้ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีคำพิพากษา
ส่วนรายการที่ 4 ถ้อยคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่สอบสวนคดี ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ใช้ดุลพินิจไม่เปิดเผยนั้น ศาลเห็นชอบด้วย เพราะการเปิดเผยถ้อยคำพยานบุคคลย่อมทำให้พยานเกิดความไม่เชื่อมั่น และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหรือความปลอดภัยของพยานผู้มาให้ถ้อยคำได้
โดยศาลพิเคราะห์เเล้วเห็นว่า ข้อมูลข่าวสารในรายการที่ 1 รายการที่ 2 รายการที่ 3 และรายการที่ 5 เป็นข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ราชการตามปกติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาคดีดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว โดยเห็นว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูลและแจ้งผลให้ผู้อุทธรณ์ทราบแล้ว และคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นผู้ถูกกล่าวหาในเรื่องดังกล่าว จึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงในข้อมูลข่าวสาร ย่อมมีสิทธิได้รับทราบข้อมูลข่าวสารนั้น เพื่อใช้ปกป้องส่วนได้เสียของตน
อีกทั้งการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารดังกล่าว จะแสดงให้เห็นถึงความถูกต้องและโปร่งใสในกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดังนั้น การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงไม่ทำให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพ หรือไม่อาจสำเร็จตามวัตถุประสงค์ได้ ตามมาตรา15 (2) แห่งพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540