กลายเป็นเรื่องร้อนขึ้นมาทันควัน เมื่อ “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตส.ส.พัทลุง เปิดโปงว่า มีเหตุการณ์ที่ไม่เหมาะสมในสภาผู้แทนราษฎรอันทรงเกียรติ เนื่อง จากพบว่ามีส.ส.กดบัตรแทนกัน ในระหว่างที่มีการประชุมเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วาระที่ 2 และวาระที่ 3 ระหว่างวันที่ 10-11 มกราคม
“นิพิฏฐ์” ชี้เป้าชัดเจนว่า ส.ส.คนดังกล่าวไม่ใช่ใครที่ไหน “ฉลอง เทอดวีระพงศ์” ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ซีกเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์นั่นเอง
ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่สู่สังคม ร้อนถึง “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาฯ สั่งให้ “สรศักดิ์ เพียรเวช” เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและตรวจสอบผลกระทบกับร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2563 ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภาหรือไม่
ขณะที่ส.ว.ยังเดินหน้าพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2563 โดยอ้างว่ารัฐธรรมนูญไม่มีมาตราใดให้สิทธิส.ว. ส่งร่างพ.ร.บ.งบประมาณ คืนไปยังสภา เพราะในขั้นตอนเมื่อสภาส่งร่างพ.ร.บ.งบฯ มายังวุฒิสภา ต้องเข้าสู่การพิจารณาภายใน 20 วันให้แล้วเสร็จ
อุ้มส.ส.ภูมิใจไทย
สำหรับความคืบหน้าในการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในการเสียบบัตรแทนกันนั้น ล่าสุด “สรศักดิ์ เพียรเวช” เรียกผู้เกี่ยว ข้องหารือกับคณะทำงานฝ่ายกฎหมายในกรณีดังกล่าวแล้ว โดยเลขาธิการสภาฯ แถลง ยอมรับ นายฉลอง ลงมติจริงตั้งแต่มาตรา 31-55 ส่วนการตรวจสอบกรณีการเสียบบัตรลงคะแนนนั้น พบว่า บัตรประจำตัวของนายฉลอง เบิกไปใช้จริง ตั้งแต่วันที่ 8-11 มกราคม โดยไม่พบการส่งบัตรคืนเจ้าหน้าที่ ทั้งมีการเสียบบัตรทิ้งไว้ที่เครื่องออกเสียงวันที่ 11 มกราคมด้วย
แต่การตรวจสอบหา “ไอ้โม่ง” ที่ออกเสียงแทนนายฉลอง นั้น จากการเรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคตรวจสอบ ไม่สามารถระบุได้ว่าตำแหน่งที่เสียบบัตรลงคะแนนนั้นอยู่จุดไหน และไม่สามารถจับภาพของบุคคลได้ เพราะ “ไม่มีกล้องวงจรปิด”
“ข้อกล่าวหาของนายนิพิฏฐ์ เป็นจริง ทำให้ผลลงมติตั้งแต่มาตรา 31-55 และข้อสังเกต ไม่ชอบด้วยกฎหมาย”
ส่วนที่กังวลว่าจะเป็นผลให้ร่างกฎหมายงบประมาณปี 2563 ตกไปหรือไม่นั้น มีแนวทางปฏิบัติคือให้ส.ส.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของสมาชิกรัฐสภา เสนอเรื่องต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภา เพื่อยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยความชอบของร่างกฎหมาย
ปูด“นาที”บินเมืองจีน
ความเคลื่อนไหวกรณี “ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน” ไม่จบเพียงแค่นี้ เพราะเมื่อวันที่ 21 มกราคม นายนิพิฏฐ์ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “คุณศุภชัย ใจสมุทร พรรคภูมิใจไทย พูดว่า ผมเหมือนสุนัขพันธุ์บูลด็อกที่กัดไม่ปล่อย ผมว่าท่านไม่สุภาพ พูดไม่ให้เกียรติกัน แต่ไม่เป็นไร สันดานของท่านอาจเป็นคนอย่างนั้น ผมเพียงทำหน้าที่ตรวจสอบนักการเมืองซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะ แต่เอาเถอะ ไหนๆ ท่านก็ว่าผมกัดไม่ปล่อยแล้ว ผมก็จะขอให้ท่านศุภชัย ใจสมุทร ช่วยตรวจสอบการกดบัตรของส.ส.ให้ผมอีกสักราย ดูสิว่าข้อมูลในมือของผมกับข้อมูลในมือของท่านจะตรงกันไหม
วันที่ 11 มกราคม 2563 ขณะที่มีการประชุมงบประมาณ ผมได้ข่าวว่า นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เดินทางไปประเทศจีน ลองตรวจดูหน่อยสิครับว่า หลังจาก check in (เช็ก อิน) ที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้ว บัตรของคุณนาที รัชกิจประการ ยังมีการกดโหวตอยู่ที่สภาหรือเปล่า อย่าว่าใครผิดใครถูกเลย ถือว่า งานนี้ผมท้าให้ท่านเปิดเผยข้อมูลก็แล้วกันครับ แล้วมาดูกันว่าข้อมูลในมือของท่านกับข้อมูลในมือของผมตรงกันหรือเปล่า”
ฉลอง เทอดวีระพงศ์
ไทม์ไลน์เดินทางมัด“ฉลอง”
จากกรณีที่เกิดขึ้น จะเห็นได้ว่า “นิพิฏฐ์” มั่นใจว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นในการโหวตร่างพ.ร.บ.งบประมาณ กระทั่งเจอหลักฐานไทม์ไลน์การเดินทาง ของ “ฉลอง” ในวันที่มีการโหวตลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ อย่างละเอียดว่า “ฉลอง” ขึ้นเครื่องบินเดินทางไปสนามบินหาดใหญ่ เวลา 20.50 น. ของวันที่ 10 มกราคม แต่ปรากฏว่าลงมติเห็นชอบมาตรา 31 ในเวลา 20.55 น. ของวันเดียวกัน
พร้อมทั้งร่วมลงมติตลอดจนถึงมาตรา 39 และปิดประชุมในเวลา 01.08 น. ก่อนจะร่วมลงมติต่อเนื่องในวันที่ 11 มกราคม ตั้งแต่มาตรา 40 เวลา 11.10 น. ไปจนถึงลงมติวาระที่ 3 เห็นชอบร่างทั้งฉบับเวลา 17.32 น. และเห็นชอบกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ เวลา 17.38 น.
จากหลักฐานดังกล่าว แสดงว่า นายฉลองไม่ได้อยู่ที่สภา แต่เป็นการมอบให้คนอื่นเสียบบัตรแทนหรือไม่!!
หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,542 วันที่ 23-25 มกราคม 2563