หลังยื่นใบลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา “กรณ์ จาติกวณิช”อดีตรัฐมนตรีคลัง และส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เดินหน้านับหนึ่ง พร้อมกับ “อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี” อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ที่เพิ่งยื่นใบลาออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ในวันถัดมา เตรียมตั้งพรรคการเมืองใหม่ โดยจะประกาศชื่อพรรคให้ประชาชนได้ทราบโดยทั่วกันในเร็วๆนี้
หลังยื่นใบลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ “กรณ์ จาติกวณิช”อดีตรัฐมนตรีคลัง และส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เดินหน้านับหนึ่ง พร้อมกับ “อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี” อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมตั้งพรรคการเมืองใหม่ โดยจะประกาศชื่อพรรคให้ประชาชนได้ทราบโดยทั่วกันในเร็วๆนี้
อดีตรมว.คลังยืนยันจะตั้งพรรคการเมืองให้เป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ ดึงผู้บริหารธุรกิจสตาร์ทอัพ ฟินเทค ผู้นำธุรกิจในแต่ละสาย รวมถึงแกนนำชุมชนที่ต้องการทำงานเพื่อชุมชน ให้เข้าร่วมงาน ให้เป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ ดึงผู้บริหารธุรกิจสตาร์ทอัพ ฟินเทค ผู้นำธุรกิจในแต่ละสาย รวมถึงแกนนำชุมชนที่ต้องการทำงานเพื่อชุมชน ให้เข้าร่วมงาน โดยกำหนดสัดส่วนของผู้สมัครส.ส.ในอนาคตไม่ควรมีอดีตส.ส.มากเกินไปแต่อยากให้เป็นผู้มีความรู้ความสามารถมีความตั้งใจที่ทำงาน ผู้ที่เห็นความจำเป็นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในประเทศ
สิ่งที่น่าติดตามไปพร้อมๆกับการตั้งพรรคใหม่ “กรณ์” ก็คือ “แม่บ้านพรรค”ซึ่งมีบทบาทสูงในการเดินเคียงข้างให้พรรคขับเคลื่อนสู่จุดหมาย แวดวงธุรกิจไม่มีใครไม่รู้จักชื่อนี้ “โจ-ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ เพราะเป็นผู้บุกเบิกสายการบินต้นทุนต่ำ “ไทยแอร์เอเชีย” และนั่งเก้าอี้ซีอีโอ บริหารสายการบิน และเป็นธรุกิจการบินที่มีมูลค่ามหาศาล ซึ่ง “กรณ์”ยอมรับว่า รู้จักกับ “โจ”มานานกว่า 10 ปี เป็นนักธุรกิจที่ต้องการทำงานในรูปแบบใหม่ๆ เป็น 1 ใน 10 นักธุรกิจที่สนับสนุนความเห็นในการตั้งพรรคเพ่อนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงของประเทศมาตลอด
“โจ-ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์” เป็นบุตรบุญธรรมชาวฝรั่ง บิดาเป็นช่างทำรถ คุณแม่เป็นแม่บ้าน เป็นครอบครัวชาวบ้านธรรมดา จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) คว้าปริญญาโท สาขาการตลาด จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
สร้างชื่อในฐานะผู้บุกเบิกสายการบิน “ไทยแอร์เอเชีย” สายการบินราคาประหยัดของประเทศขึ้นจนแท่นสายการบินต้นทุนต่ำเบอร์ 1 ของไทย ก่อนเข้ามานั่งคุมบังเหียนเป็น ซีอีโอ “ไทยแอร์เอเชีย” ธุรกิจการบินที่มีมูลค่ามหาศาลนั้น มีประสบการณ์การทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่ อย่าง บริษัท อาดัมส์ (ประเทศไทย) จำกัด ,บริษัท มอนซานโต้ไทยแลนด์ ทำงานเกี่ยวกับการตลาด และโฆษณา รวมถึงบริษัทวอร์เนอร์มิวสิก (ประเทศไทย) จำกัด
ปี 2558 “ธรรศพลฐ์”สร้างความฮือฮาด้วยการเทคโอเวอร์ธุรกิจสิ่งพิมพ์แบบยกลอตต่อจาก “อากู๋-ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ในนามบริษัท ซีทรู ที่ทำธุรกิจออร์แกไนซ์ จัดอีเว้นท์ งานพีอาร์และงานโปรโมชั่นต่างๆ แต่ก็ไม่พ้นกระแสสื่อถูกดิสรัป ในปี 2561 จึงตัดสินใจปิดบริษัทผลิตสื่อทั้งหมดในมือลง
“ธรรศพลฐ์” เคยดำรงตำแหน่งสำคัญๆมามากมาย อาทิ เป็นกรรมการ บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น, กรรมการ บจ.ไทยแอร์เอเชีย, กรรมการ บจ. ทูน มันนี,กรรมการ บจ. เร้ด เอวิเอชั่น,กรรมการ บจ. วันเดอร์เฮลธ์,กรรมการ บจ.บางกอกเอวิเอชั่นเซ็นเตอร์,กรรมการ บจ. คำภีร์ คอร์ปอเรชั่น,กรรมการ บจ. คำภีร์ ลอจิสติกส์,กรรมการ บจ.เสือดำ คอร์ปอเรชั่น,กรรมการ บมจ. ทูนประกันภัย, กรรมการ บจ.ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์, ปัจจุบัน กรรมการ บจ.ไอวอรี่ คอฟฟี่ และกรรมการ บจ. เอฟเวอร์มอร์ แอสเซท ทั้งยังนั่งเป็น ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น รวมถึงเป็น ประธานกรรมการบริหารและกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืน บจ.ไทยแอร์เอเชีย เป็นต้น
ปี 2557 เขาเคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อตอนหนึ่งถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับการเข้ามาทำงานทางการเมืองไว้ว่า สนใจการเมืองแต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา
ปี2563 ได้เวลาที่ “ โจ-ธรรศพลฐ์” จะก้าวสู่ถนนการเมืองตามที่ตั้งใจไว้ พร้อมๆกับ “กรณ์ – อรรควิชช์” และผองเพื่อนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน