'ประยุทธ์' ลั่น! ลงสนามรบ "ถ้าแพ้ คือ ตาย"

12 มี.ค. 2562 | 03:29 น.
อัปเดตล่าสุด :12 มี.ค. 2562 | 12:35 น.

'ประยุทธ์' ลั่น! ลงสนามรบ "ถ้าแพ้ คือ ตาย" อยู่ในแนวรบถึงไม่สำเร็จก็ต้องทำให้สำเร็จ

มีประเด็นน่าสนใจและบอกถึงทิศทางอนาคตของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เป็นอย่างดี กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลุกขึ้นไปกล่าวบนเวที ขณะมีการบรรยายโดยผู้แทนพิเศษระหว่างประเทศ เรื่อง "การเปลี่ยนแปลงโลก" ซึ่งบรรยายโดย Mr.Salim Ismail นักพูด นักเขียน การพัฒนาธุรกิจแบบก้าวกระโดด จัดขึ้นที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยในงานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ไปร่วมรับฟังบรรยายด้วย และได้ถือโอกาสนี้ขึ้นไปกล่าวบนเวที ตอนหนึ่งระบุว่า

"ผมอาจจะเป็นคนแบบนี้ เสียงดังโวยวาย แต่ผมทำและรับผิดชอบ เพราะผมเป็นทหาร ก็เป็นอย่างนี้และต้องทำให้สำเร็จ ถ้าไม่สำเร็จกลับบ้านไม่ได้ คำว่า กลับบ้านไม่ได้ คือ ถ้าอยู่สนาม อยู่ชายแดน ถ้ามีรบ มีปะทะ ถ้าแพ้ก็กลับมาไม่ได้ ก็ตายอย่างเดียว นั้นคือ สิ่งที่ตั้งมั่นมาตลอด

วันนี้ไม่ได้สู้กับใคร เราต้องหยุดความขัดแย้งให้ได้ อย่าไปใช้อารมณ์ อย่าใช้ความรู้สึก หลายคนบอกว่า ช่วงนี้นายกฯ เปลี่ยนไป ผมไม่เคยเปลี่ยน ผมทะเลาะกับนักข่าวเท่านั้น เพราะคำถามของเขา ผมไม่เคยทะเลาะกับใคร อย่ารังเกียจผมนักเลย บางครั้งคนเรามีตัวตน อย่าไปบิดเบือนตัวเองมาก บางครั้งผมก็มีอารมณ์ศิลปินบ้าง โมโหบ้าง เป็นอารมณ์ทหารบ้าง คือ สิ่งในตัวผม แต่วันนี้พอลุคออกมาใหม่ ก็มองว่า นี่ไม่ใช่ตัวตน ซึ่งบางครั้งผมก็อยากจะหล่อเหมือนกัน หลายคนก็แต่งเนื้อแต่งตัวให้สบาย ๆ ผมก็อยากเป็นบ้าง ให้อภัยผมเถอะ

ช่วงนี้สำคัญอย่างยิ่ง เราอย่าไปเสียอารมณ์หงุดหงิดกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง หรือ ตอบคำถามที่ไม่เกิดประโยชน์ผมก็ไม่ตอบ ผมนิสัยเสียชอบตอบ นี่คือ ข้อเสียมีอย่างเดียวชอบตอบคำถาม และอดไม่ได้ที่จะโมโห ผมต้องแก้อีกมาก แต่ผมมาแบบนี้ผมหยุดไม่ได้ หยุดคิด หยุดทำงานไม่ได้ ซึ่งก็แล้วแต่ประเทศไทย ก็ไม่รู้เหมือนกันแล้วแต่พวกท่าน"
 

'ประยุทธ์' ลั่น! ลงสนามรบ "ถ้าแพ้ คือ ตาย"


พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้ถามผู้เข้รับฟังในงานนี้ด้วยว่า "ในนี้สังเกตมีคนไม่ยิ้ม ผมไม่เข้าใจว่าเป็นอะไร ไม่ชอบผมหรือเปล่า แต่อยากรู้สาเหตุว่า ทำไมไม่ยิ้มเวลาคนอื่นพูดยิ้มกัน ชีวิตไม่ได้ยาวเกินไป ต้องหาความสดชื่นดูบ้าง ยิ้มไว้เมื่อภัยมา ยิ้มไปเถอะยิ้มสยาม อย่าให้เป็นยิ้มสยอง ต้องยิ้มให้ทุกคนมีความสุข เราจะอดกลั้นอย่างไรก็ต้องฝืนยิ้มไว้

ผมพยายามเต็มที่ ถ้ามันมีคำถามที่กวนใจทุกครั้ง ผมไม่ใช่ศัตรู แต่วันนี้ลุคผมออกมาอย่างนั้น เป็นคนอารมณ์รุนแรง ขี้โมโห ผมพูดไม่เสียตังค์ ไม่ต้องมาจ้าง แต่ขอถามคุณซาลิม ว่า เชื่อมั่นผมหรือไม่ ซึ่งนายซาลิม ตอบว่า จะพยายามเชื่อ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ตนจะเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงนี้ให้ได้ ถ้ามีโอกาสที่จะทำต่อไป ไม่ใช่หาเสียงทางการเมือง สิ่งที่ทำมา 4-5 ปี กำลังจะผลิดอกออกผล สิ่งที่ลงทุนจะเกิดอีก 5 ปีข้างหน้า ถ้าเริ่มต้นใหม่หรือกลับไปที่เดิมทั้งหมด ไม่มีทางอย่างที่คุณซาลิมพูด


พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวแซวนายซาลิมว่า สิ่งที่คุณซาลิมพูดมีบางคำล่อแหลม โดยเฉพาะที่พูดว่า จำเป็นต้องเปลี่ยนผู้นำ เปลี่ยนฮิตเลอร์ ซึ่งตนเห็นว่าบางอย่างไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมาก เพราะอยู่ตรงนี้ ต้องมีอำนาจที่เด็ดขาด แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวัง และต้องทำงานแบบพลังประชารัฐ ซึ่งไม่เกี่ยวกับพรรคใดทั้งสิ้น เพราะประชารัฐเกิดมาก่อน สิ่งสำคัญในวันนี้ คือ ความร่วมมือของเราทุกคน และที่อยากกราบเรียนในสิ่งที่เรากังวล คือ เศรษฐกิจระดับล่างที่ต้องมีความเป็นห่วงเท่า ๆ กัน ตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ ยอมรับว่ายังไม่ดี แต่มันก็อยู่ที่ทรงสภาพ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า พวกเราระดับแกน ระดับหัวทั้งหมด ต้องช่วยกันขับเคลื่อน สร้างความเข้าใจให้ทุกคนพยายามเดินไปข้างหน้า ถ้าเราไม่สตาร์ทก้าวแรก ก้าวต่อไปก็ไปไม่ได้ อาจหกล้ม วันนี้เดินมาหลายอย่างแล้ว เราจะกลับไปที่เดิมหรือ ตนคิดว่าไม่ใช่ ตนไม่ได้ว่าทุกอย่างดีหมด

"แต่ผมสัญญาว่า ถ้าเรามีโอกาสได้ทำต่อไป เช่น ใน 3-4 เดือนข้างหน้า ผมจะทำให้มากและให้ดีที่สุด นั่นคือ สัญญาของผม อย่าไปทวงสัญญา เรื่องโน้นเรื่องนี้ พอได้แล้ว ยังไงผมก็อยู่มา 5 ปีแล้ว สิ่งที่ผมพูดวันนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง พอแตะไปหน่อย ก็เอาเชียว หัวเราะ เดี๋ยวผมก็โดนเขาด่าอีก"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ทุกอย่างจำไว้ ต้องเดินก้าวแรกเสมอ ซึ่งปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ถือเป็นสิ่งสำคัญในทุกกิจกรรม วันนี้ตนทำอนาคตให้พวกท่าน เพื่อให้ทุกคนได้มีอนาคต

'ประยุทธ์' ลั่น! ลงสนามรบ "ถ้าแพ้ คือ ตาย"