'กรณ์' ย้ำ! ปชป. ยึดหลักใช้งบคุ้มค่า-โปร่งใส

21 ก.พ. 2562 | 11:51 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

'กรณ์' ชี้! ปชป. ยึดหลักการใช้งบประมาณแผ่นดินคุ้มค่า โปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่ว่ากลาโหมหรือกระทรวงใดต้องไปในทิศทางเดียวกัน

กรณีปรากฏเป็นข่าวว่า "เพจลุงตู่ตูน" ยอมถอย ลบกราฟิก เทียบงบกลาโหม ที่ชวนเข้าใจผิด ว่า ... "รัฐบาลอภิสิทธิ์จัดงบเยอะสุด" ออกจากเพจแล้ว หลังโฆษกพรรค นายธนา ชีรวินิจ ขู่ไม่ถอดเจอดำเนินคดีนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์นั้น

นายกรณ์ จาติกวณิช รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กแฟนเพจส่วนตัว Korn chatikavanij โดยอธิบายให้เห็นถึงการดูแลงบประมาณของประเทศที่ถูกต้อง เป็น 3 แบบหลัก คือ

1.ดูงบเป็นจำนวนเงิน

2.ดูงบเทียบสัดส่วน % ของงบรายจ่ายก้อนนั้นต่อจีดีพี (เพื่อเทียบค่าใช้จ่ายต่อรายได้ประเทศ)

3.ดูงบเทียบสัดส่วน % ของงบรายจ่ายก้อนนั้นต่องบรวมทั้งหมด (เพื่อเทียบค่าใช้จ่ายนั้นต่อค่าใช้จ่ายรวม)


กรณ์

ตามภาพในงบที่เป็นจำนวนเงิน ก็จะเห็นชัดเจนว่า ปีเดียวที่กล้าปรับลดงบทหารลงไป คือ ในสมัยคุณอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็น รมว.กลาโหม)

นายกรณ์ ระบุว่า ผมขอย้ำว่า การใช้งบรัฐ ไม่ว่าจะงบประมาณรายจ่ายประเภทใดก็ตาม (รวมถึงงบทหาร) ต้อง "คุ้มค่า-โปร่งใส" และ "ตรวจสอบได้" และทุกฝ่ายไม่ควรเพิ่มเงื่อนไขความแตกแยก โดยไม่มีความรับผิดชอบต่อข้อเท็จจริง

และประชาชนควรดูพฤติกรรมของทุกรัฐบาลในอดีต ว่า เคยมีท่าทีอย่างไร โดยเฉพาะพรรคที่ประกาศว่าจะตัดงบทหารลงเท่านั้นเท่านี้ ในยุคที่มีอำนาจเคยทำจริงหรือไม่

ส่วนในภาพประกอบนี้ เป็นการคำนวณใหม่ให้ถูกต้อง โดยรวมงบไทยเข้มแข็งเข้าไปด้วย ซึ่งงบไทยเข้มแข็งนี้ไม่ได้อยู่ในงบประมาณรายจ่ายทั่วไป เนื่องจากเป็นงบลงทุนพิเศษที่ใช้ในการแก้วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ในช่วงปี 2553

ส่วนการนับปีงบประมาณ โดยปกติจะถูกทำโดยปีก่อนหน้า ดังนั้น ส่วนของ 2552 คือ ส่วนที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยนายกฯสมชาย ทำเอาไว้ เราจึงวงเอาไว้ให้ชัด ๆ

รัฐบาลอภิสิทธิ์บริหารประเทศด้วยงบประมาณและสภาวการณ์ของประเทศที่มีข้อจำกัดสูงมาก ทั้งปัญหาการเมืองภายในประเทศและวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของโลก แต่เราก็ทำอย่างสุดความสามารถ จนเราได้รับการยอมรับในปี 2553 ว่า เป็นประเทศที่ฟื้นจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกได้เร็วเป็นอันดับ 2 ของโลก เศรษฐกิจกลับมาพลิกฟื้นโตกว่า 7% พร้อมเครื่องยนตร์สำคัญทางเศรษฐกิจ ทั้งการส่งออกและภาคการลงทุนกลับมาคึกคัก โต 2 หลักอีกครั้งหนึ่ง

ติดตามฐาน