พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ
"ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ว่า "สุภาษิตโบราณกล่าวว่า
"จิ้งจกทัก" เรายังต้องฟัง เพราะฉะนั้นทุกเสียง ทุกความเห็น โดยเฉพาะจากพี่น้องประชาชน
"เจ้าของประเทศ" ผม-รัฐบาล-และ คสช. ได้ยินและได้นำมาสู่กระบวนการแก้ไขอยู่ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา เพราะเป้าหมายของเรา คือ
"การคืนความสุขให้กับคนในชาติ" ซึ่งแน่นอนว่า เราไม่ได้ตีความ
"ความสุข" แต่เพียงตัวเลขทางเศรษฐกิจที่เป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ ใช้อ้างอิงในวงวิชาการ วงการธุรกิจ หรือเป็นเครื่องมือประกอบการตัดสินใจต่าง ๆ
แต่รัฐบาลมองและให้ความสำคัญในเรื่องอื่น ๆ ที่กว้างกว่านั้น ทั้งเรื่องปากท้อง - ความเหลื่อมล้ำ - ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน - ปัญหาทุจริต – การขาดโครงสร้างพื้นฐานที่ดีพอ - รวมไปถึงความแตกแยกอุดมการณ์ทางการเมืองเป็นต้น
ดังนั้น เสียงสะท้อนจากโพล หรือ
"เสียงบ่นในใจ" ก็ขอให้ถ่ายทอดมาเถิดครับ ผ่านสายด่วนต่าง ๆ ตามที่ผมได้เคยบอกไปแล้วหลายครั้ง ทั้ง 1111 และศูนย์ดำรงธรรม 1567 รวมทั้ง
"สายด่วนไทยนิยม" ซึ่งผมก็ดีใจนะครับ ที่วันนี้หลายเรื่องหลายราว ซึ่งเป็นความทุกข์ใจได้รับการแก้ไขแล้วนะครับ แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็จะไม่ถูกมองข้าม แต่เรื่องยาก ๆ ซับซ้อน ก็ต้องขอเวลานะครับ ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทำงาน ได้มีเวลาพิจารณาหามาตรการที่เหมาะสม
หลายเรื่องซุกอยู่ใต้พรม คนรู้เบาะแสก็ไม่กล้าเปิดเผยนะครับ เพราะกลัวภัยจะมาถึงตัว ก็ถูกหยิบขึ้นมาสู่สังคม แล้วรัฐบาลนี้ก็เอาจริงเอาจังในการบังคับใช้กฎหมาย อาทิ เรื่องอาหารกลางวันเด็ก
"ขนมจีนน้ำปลา" เรื่องเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้-ผู้ประสบภัย เรื่องกองทุนเสมา ไปจนถึงเรื่องเงินทอนวัด แม้กระทั่ง ความเดือดร้อนจากโครงการพัฒนาต่าง ๆ เช่น ถนนชำรุดนะครับ เป็นต้น เราก็ได้พยายามแก้ไขมาตามลำดับนะครับ ก็ขอให้ทุกคนสามารถแจ้งเข้ามาตามช่องทางที่กล่าวไว้ได้นะครับ อย่าทำให้เสียเวลา อย่าโทรมาโดยที่ไม่มีความจำเป็นนะครับ มารบกวน มาว่ากล่าวเจ้าหน้าที่ บางทีก็ไม่ได้ประโยชน์เท่าไรนะครับ
สำหรับปัญหาเชิงโครงสร้าง หรือการปฏิรูปเรื่องใหญ่ ๆ ก็คงต้องอาศัยเวลาในการ
"ผลิดอก ออกผล" การปลูกข้าว - ยาง - อ้อย ยังต้องใช้เวลานะครับ ระหว่างรอ ... ชาวสวน-ชาวนาก็หาอาชีพเสริมทำ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว วันนี้เราลงทุนเพื่ออนาคตจำนวนมาก นอกจากจะเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนแล้ว ก็ยังเป็นการสร้างโอกาส สร้างสิ่งดี ๆ เพื่อวันข้างหน้า
อาทิ การเร่งสร้างรถไฟฟ้าเกือบ 10 สายในวันนี้ เพราะที่ผ่านมาเดินหน้าไม่ได้ อาจทำให้รถติด ก็คงต้องอดทนนะครับ เพื่อความสะดวกสบายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า การสร้าง EEC ที่จะเริ่มทยอยเห็นผล จะมีการจ้างงานหลายหมื่นอัตราในหลายสาขา จะมีการใช้วัตถุดิบในประเทศกว่า 5 หมื่นล้านบาทต่อปี จะมีการส่งออกสร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 7 หมื่นล้านบาทต่อปี เป็นต้น
ทุกคนที่เป็นคนไทยนะครับ จะได้รับอานิสงส์ได้รับโอกาสร่วมกัน ซึ่งเพื่อให้ได้ประโยชน์เต็มที่ ต้องมีความจำเป็นนะครับ ในการที่จะต้องมีปรับตัว-พัฒนาตนเองไปด้วย แล้วหาช่องทางมีส่วนร่วม ทั้งนี้ แรงงานและวัตถุดิบก็ไม่ได้มาจากไหน ก็จากท้องถิ่นและทั่วประเทศ ผู้ผลิตรายย่อย - SME -Start up ก็ต้องเชื่อมโยงผู้ประกอบการรายใหญ่ในพื้นที่ EEC กิจกรรมต่าง ๆ นั้น คงไม่ได้เกิดเพียงใน EEC นะครับ แต่จะเชื่อมโยงไปทั่วประเทศ เชื่อมไปยัง CLMV - อาเซียน - และโลก
ลองมองย้อนไปนะครับ ยุค
"โชติช่วงชัชวาล" เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา วันนี้เหมือนเรากำลังกินบุญเก่าอยู่นะครับ เมื่อใกล้จะหมดลง ประเทศเราก็จะมี EEC เข้ามาทดแทน วันนี้ผมต้องการทำเพื่อลูก หลาน เพื่อคนรุ่นใหม่ ที่กำลังจะเติบโตขึ้นมา วันนี้แม้อาจจะยังไม่เห็นผล ก็ไม่เป็นไรนะครับ แต่อีก 3 ปี ข้างหน้าเป็นต้นไป เมื่อโครงการต่าง ๆ ทยอยเสร็จสมบูรณ์ ท่านก็จะได้รู้ว่าสิ่งที่ผมพูดตอนนี้ เป็น
"ความจริง" เป็นการสนองตอบ
"สัญญาใจ" ที่เรามีไว้ต่อกันนะครับ"
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
●
นายกฯเตรียมลงพื้นที่อีสาน จับเข่าคุยรับฟังเสียงสะท้อนประชาชน
●
เสียงสะท้อน 'คลองไทย' สร้างเศรษฐกิจใต้ได้จริงหรือ?