ประยุทธ์เร่งใช้เเบบเรียน“โตไปไม่โกงสอนนักเรียน”

19 พ.ค. 2561 | 11:53 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ประยุทธ์เร่งใช้เเบบเรียน“โตไปไม่โกงสอนนักเรียน”

พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน”ว่า “ เรื่องการแก้โกงเพื่อป้องกันการทุจริตและสร้างธรรมาภิบาลในการบริหารราชการแผ่นดิน ได้มีการผลักดันให้นำ 2 มาตรการสำคัญ คือ ในเรื่องของโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ หรือระบบ CoST หรือข้อตกลงคุณธรรม หรือ IP (Integrity Pact) ซึ่งเน้นการเปิดเผยข้อมูลกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง และการก่อสร้างโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐ ทั้งนี้ ไม่ใช่แค่มีการเซ็นสัญญาข้อตกลงกันเงียบ ๆ เท่านั้น แต่ยังส่งคณะผู้สังเกตการณ์ไปนั่งเฝ้าติดตามการประชุมร่างเงื่อนไข (TOR) การประมูลต่าง ๆ ไปเฝ้าดูกระบวนการเสนอราคา การตรวจเอกสาร ไปเก็บข้อมูลด้วยตัวเองทุกขั้นตอนโดยตลอด ก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการทุกคณะที่แต่งตั้งขึ้นมาใหม่ในขณะนี้

นอกจากนี้เราได้จัดทำแอปพลิเคชั่นบนมือถือ ที่เรียกว่าภาษีไปไหน เปิดบริการให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ ทุกคนจะได้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ช่วยกันดูแล เป็นการติเพื่อก่อ อย่าทำให้ทุกอย่างสับสนวุ่นวาย อลหม่าน ด้วยข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปด้วยความโปร่งใส รัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังให้เกิดการคอร์รัปชั่น หรือทุจริตใด ๆ ทั้งสิ้น เราต้องช่วยกัน จะได้เกิดผลประโยชน์สูงสุดอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ รัฐบาลได้อนุมัติให้ใช้การจัดหาพัสดุด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-Market) และด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ช่วยให้การดำเนินการจัดหาวัสดุของภาครัฐดีขึ้น วันนี้มีการแก้ไขไปตามลำดับ ก็มีปัญหาอยู่บ้างในการใช้ระบบใหม่ ๆ

to

ยกตัวอย่าง เฉพาะในปี 2559 เราสามารถประหยัดเงินงบประมาณแผ่นดินกว่า 30,000 ล้านบาทจาก 30,000 กว่าโครงการ ด้วยวงเงินที่ตั้งไว้กว่า 430,000 ล้านบาท สำหรับครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2561 นี้ เราสามารถประหยัดงบประมาณแผ่นดินกว่า 47,000 ล้านบาท จาก 61,000 กว่าโครงการ ด้วยวงเงินที่ตั้งไว้ 400,000 กว่าล้านบาท ซึ่งเป็นผลพลอยได้ แต่สิ่งสำคัญคือ ช่วยให้การดำเนินการเป็นไปอย่างโปร่งใส ไร้การฮั้วประมูล และตรวจสอบได้ ยิ่งกว่านี้ ก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ซึ่งมีศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) และการสร้างกลไกลักษณะเดียวกันนี้ ในระดับกระทรวงและระดับจังหวัดทุกจังหวัด ปฏิบัติงานร่วมกับ ป.ป.ช. ในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อสนับสนุนภารกิจการป้องกันและปราบปรามการทุจริต รวมทั้งให้หน่วยงานภาครัฐทุกหน่วย ต้องเข้าร่วมการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส (ITA) เพื่อให้เกิดการสร้างวัฒนธรรมการทำงานอย่างมีคุณธรรมและความโปร่งใส

นอกจากนี้ ได้ออกคำสั่งให้เกิดความชัดเจน ในการดำเนินการกับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทุจริต เปิดช่องทางให้พี่น้องประชาชนได้ร้องเรียนมากขึ้นด้วย ทั้งสายด่วน 1111, สายด่วน 1567 ศูนย์ดำรงธรรม, สายด่วนไทยนิยมยั่งยืน ผ่านแอปพลิเคชั่นมือถือ หรือสายด่วน คสช. 1299 เพื่อแจ้งเบาะแสการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นต้น อย่างไรก็ตาม การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข การปราบปรามและการป้องกันที่ดีที่สุดก็คือ การปลูกจิตสำนึกให้คนในชาติมีหิริโอตัปปะ หรือความละอายต่อการทำบาป และรักษาศีล 5 เป็นนิจ รวมทั้งให้เยาวชนรังเกียจพฤติกรรมการโกง และเลิกนิสัยธุระไม่ใช่ เราต้องช่วยกัน วันนี้กำลังจัดทำแผนบทเรียนไปในสถานศึกษาด้วยว่าจะทำอย่างไร โตไปแล้วไม่โกง”

e-book-1-503x62