ร่างก.ม.ใหม่เข้มปฏิบัติหน้าที่ ห้าม‘อัยการ’นั่งบอร์ดรสก.

11 ธ.ค. 2560 | 05:04 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

สำนักงานอัยการสูงสุด โดย นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด (อสส.) ได้เปิดรับฟังความคิดเห็น ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ (ฉบับที่...) พ.ศ. ... โดยข้าราชการอัยการและบุคคลทั่วไป สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นได้ทางเว็บไซต์ www. ago.go.th ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 20 ธันวาคมนี้ ก่อนที่สำนักงานอัยการสูงสุดจะรวบรวมความเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมายดังกล่าวประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป

สำหรับสาระหลักในร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว มีสิ่งที่ต้องพิจารณาอยู่หลายประเด็นโดยเฉพาะการเข้าไปเป็น “บอร์ดในรัฐวิสาหกิจ” ที่เห็นชัดเจนว่า ถูกยกระดับให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้พนักงานอัยการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำอันอาจส่งผลในการสั่งคดี หรือการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งอาจทำให้มีการขัดกันแห่งผลประโยชน์ได้

เมื่อเปรียบเทียบกับกฎหมายฉบับเดิมซึ่งมีลักษณะ “ห้ามแบบมีเงื่อนไข” ที่ระบุว่า ข้าราชการอัยการต้อง “ไม่เป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจ หรือกิจการอื่นของรัฐในทำนองเดียวกัน เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจาก ก.อ. ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่ ก.อ. กำหนด” ได้แก้ไขเป็น ข้าราชการอัยการต้อง “ไม่เป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจ หรือกิจการอื่นของรัฐในทำนองเดียวกัน”

[caption id="attachment_240531" align="aligncenter" width="503"] เข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด (อสส.) เข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด (อสส.)[/caption]

ทั้งยังได้ขยายความในวงเล็บถัดมาจากที่กำหนดว่า ข้าราชการอัยการต้อง “ไม่เป็นกรรมการ ผู้จัดการ หรือที่ปรึกษากฎหมายหรือดำรงตำแหน่งอื่นใดที่มีลักษณะงานทำนองเดียวกันนั้นในห้างหุ้นส่วนบริษัท”

ให้เปลี่ยนเป็น “ไม่เป็นกรรมการ ผู้จัดการ ที่ปรึกษากฎหมายหรือดำรงตำแหน่งอื่นใดในห้างหุ้นส่วน หรือบริษัท หรือกิจการอื่นใดที่มีลักษณะทำนองเดียวกับห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทที่มีวัตถุประสงค์มุ่งหาผลกำไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน หรือเป็นที่ปรึกษาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งอื่นใดในลักษณะเดียวกัน”

++ประธานก.อ.คนนอก-วาระ2ปี
นอกจากนี้เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 248 ซึ่งบัญญัติให้ การบริหารงานบุคคลเกี่ยวกับพนักงานอัยการต้องดำเนินการโดย “คณะกรรมการอัยการ” ที่อย่างน้อยต้องประกอบด้วย ประธานกรรมการ ซึ่งไม่เป็นพนักงานอัยการ และผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับเลือกจากพนักงานอัยการซึ่งต้องมีบุคคลที่ไม่เคยเป็นพนักงานอัยการรวมอยู่ด้วย

ดังนั้น องค์ประกอบของ “คณะกรรมการอัยการ” (ก.อ.)ใหม่ จึงกำหนดให้ตัว ประธานก.อ. ต้องเป็นบุคคลภายนอก โดยเลือกจากผู้รับบำเหน็จหรือบำนาญตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และเคยรับราชการเป็นข้าราชการอัยการมาแล้วในตำแหน่งไม่ตํ่ากว่าอธิบดีอัยการหรือเทียบเท่า หรือเลือกจากผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งเป็นผู้รับบำเหน็จหรือบำนาญตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ตํ่ากว่าอธิบดีหรือหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่า แต่ต้องไม่เคยเป็นสมาชิกหรือเจ้าหน้าที่พรรคการเมืองในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งข้าราชการอัยการเว้นแต่ผู้ดำรงตำแหน่งอัยการผู้ช่วยเป็นผู้เลือก

“อัยการสูงสุด” เป็น “รองประธาน ก.อ.” มีรองอัยการสูงสุดตามลำดับอาวุโส 4 คน เป็น กรรมการอัยการโดยตำแหน่ง และ กรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นผู้รับบำเหน็จหรือบำนาญ ตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการหรือกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ซึ่งเคยรับราชการเป็นข้าราชการอัยการมาแล้วจำนวน 2 คน

และในมาตรา 18 (5) กำหนดให้กรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ได้รับเลือกจากพนักงานอัยการ ซึ่งไม่เคยเป็นพนักงานอัยการมาก่อน และเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านการงบประมาณ ด้านการพัฒนาองค์กร หรือด้านการบริหารจัดการอีก 2 คน และกำหนดให้อธิบดีอัยการสำนักงานคณะกรรมการอัยการ นั่งเป็น กรรมการอัยการโดยตำแหน่งและเป็นเลขานุการก.อ.ด้วย ทั้งนี้กำหนด ให้ประธานก.อ. และกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ ดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว 2 ปี

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6 ++คัดประธานก.อ.จาก5รายชื่อ
สำหรับการเลือก ประธานก.อ. นั้นให้ ก.อ.ประชุมพิจารณากำหนดรายชื่อที่สมควรเป็นประธานไม่น้อยกว่า 5 รายชื่อ รวมถึงการกำหนดรายชื่อบุคคลที่เห็นสมควรเป็น กรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนไม่น้อยกว่า 3 เท่าของกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมาตรา 18 (5) เพื่อให้ข้าราชการอัยการเว้นแต่ผู้ดำรงตำแหน่งอัยการผู้ช่วย เป็นผู้เลือกจากรายชื่อดังกล่าว

ให้อัยการสูงสุดดำเนินการให้มีการเลือกประธาน ก.อ. และกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิภายใน 60 วันนับแต่วันที่มีเหตุต้องเลือก และห้ามกระทำการอันมีลักษณะเป็นการหาเสียงเพื่อให้ข้าราชการอัยการลงคะแนน หรืองดเว้นลงคะแนน ทั้งนี้ตามระเบียบที่ ก.อ.กำหนด เมื่อผลการเลือกประธานก.อ.ตามที่อัยการสูงสุดประกาศรายชื่อเป็นประการใด ให้นำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง

++ตรวจสอบกันเองในองค์กร
ร่างกฎหมายใหม่ยังกำหนดให้ประธานก.อ.ต้องพ้นจากตำแหน่งกรณีกลับเข้ารับราชการเป็นข้าราชการอัยการ รวมถึงตัวกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรับบำเหน็จหรือบำนาญตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการหรือกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการที่เคยรับราชการเป็นข้าราชการอัยการมาแล้วจำนวน 2 คน และในส่วนของกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเลือกมาจากผู้ไม่เคยเป็นข้าราชการอัยการมาก่อนให้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านการงบประมาณหรือด้านบริหารจัดการจำนวนอีก 2 คนนั้น ถูกถอดถอนให้พ้นจากตำแหน่งได้ กรณีมีพฤติการณ์ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับคุณธรรมและจริยธรรม โดยข้าราชการอัยการไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนข้าราชการอัยการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ในขณะนั้น เว้นแต่ผู้ดำรงตำแหน่งอัยการผู้ช่วยเข้า ชื่อขอให้ถอดถอนประธานก.อ. หรือกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิดังกล่าวให้ออกจากตำแหน่งได้ จากนั้นให้อัยการสูงสุดจัดให้มีการลงมติภายใน 30 วัน โดยผู้ถูกเข้าชื่อขอให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งนั้นต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,321 วันที่ 10 - 13 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว