กระทรวงแรงงานเสริมแกร่งจังหวัดสระแก้วรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ "ธีรพล"ชี้เงินสะพัดปีละหลายพันล้านบาท จากการค้าชายแดน
นายธีรพล ขุนเมือง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เผยว่า พื้นที่จังหวัดสระแก้ว มีสภาพพื้นที่ติดกับประเทศกัมพูชาและมีเงินสะพัดปีละหลายพันล้านบาท จากการค้าชายแดน เป็นประตูเชื่อมโยงระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศในภูมิภาคอินโดจีนทั้งในด้านการค้า และการลงทุน เฉพาะมูลค่าการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ด่านอรัญประเทศพุ่งสูงเป็นอันดับ 1 ดังนั้น จังหวัดสระแก้วจึงเป็นพื้นที่ที่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประกาศให้เป็นจังหวัดนำร่อง ตามนโยบายของรัฐบาลในการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเพื่อส่งเสริมและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน สร้างความเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาค เพิ่มการจ้างงาน สร้างความ มั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน
สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานสระแก้ว ได้เตรียมการรองรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว และนิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว โดยใช้กลไกของแผนพัฒนากำลังคนจังหวัดสระแก้ว (2560 – 2564) ซึ่งมุ่งเน้นอุตสาหกรรมนำร่อง 4 อุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมเกษตรและแปรรูปเกษตร อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ และวิสาหกิจชุมชน / สินค้าOTOP
ในด้านหลักสูตรเพื่อพัฒนาทักษะให้กับแรงงานนั้น แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ 1. งานพื้นฐาน (Fundament Course) เน้นแรงงานทั่วไป (Unskilled Labor) ทำงานด้วยคน ใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ที่ไม่มีเทคนิคและขั้นตอนไม่ซับซ้อน 2. งานหลัก (Functional Course) เน้นแรงงานฝีมือ Skilled Labor ใช้เครื่องมือหรือเทคโนโลยีและเทคนิคการทำงานขั้นต้น 3. งานประยุกต์ (Advanced Course) เน้นหัวหน้างาน (leader/Supervisor) ใช้เทคโนโลยีระบบกึ่งอัตโนมัติ เช่น CNC หรือ คอมพิวเตอร์และเน้นมาตรฐานฝีมือ 4. งานชั้นสูง (Automation and Technology Course) เน้นผู้บริหาร (Administrator) ใช้เทคโนโลยีระบบอัตโนมัติสมัยใหม่และใช้หุ่นยนต์แทนคน เป็นเครื่องจักรที่สามารถทำงานโดยรับคำสั่งจากคน