วันอนุรักษ์น้ำโลก 22 มีนาคม ประวัติความเป็นมา
เปิดประวัติ ความเป็นมา วันน้ำโลก 2567 World Water Day ซึ่งตรงกับวันที่ 22 มีนาคมของทุกปีเพื่อตระหนักถึงความสำคัญของน้ำ พร้อม 4 เทคนิกช่วยประหยัดน้ำได้แค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเริ่มที่ตัวเอง
22 มีนาคม 2567 เป็นวันอนุรักษ์น้ำโลก หรือ วันน้ำโลก 2567 World Water Day ถูกจัดขึ้นในวันที่ 22 มีนาคมของทุกปี เนื่องจากองค์การสหประชาชาติตระหนักถึงปัญหาการขาดแคลนน้ำที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น และอาจก่อให้เกิดปัญหาการแย่งชิงน้ำขึ้นได้ในอนาคต
ประวัติวันน้ำโลก
วันอนุรักษ์น้ำโลก มีจุดเริ่มต้นจากการประชุมเรื่องสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิลในวันที่ 22 มีนาคม 1992 มีเนื้อหาสำคัญโดยตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรน้ำของมนุษย์ จึงมีแนวคิดที่จะจัดกิจกรรมที่จะเป็นแผนแม่บทให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้เฝ้าระวังทรัพยากรน้ำในประเทศนั้น ๆ และวันนั้นเอง สมัชชาทั่วไปแห่งสหประชาชาติได้ออกประกาศให้วันที่ 22 มีนาคมของทุกปีเป็นวัน World Water Day หรือ วันอนุรักษ์น้ำโลกเพื่อระลึกถึงความสำคัญของน้ำ เพราะน้ำเป็นความต้องการขั้นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในโลก
อีกทั้งเพื่อกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวในหมู่มวลมนุษยชาติในเรื่องการอนุรักษ์น้ำ ช่วยกันดูแล บำรุงรักษา การพัฒนาแหล่งน้ำ และจัดการทรัพยากรน้ำจืดอย่างยั่งยืนสำหรับอนาคต
พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาคมโลกใช้น้ำอย่างรับผิดชอบเพื่อให้คนจนและคนรวยได้รับน้ำอย่างเท่าเทียมกัน ในราคาที่หาซื้อได้ รวมถึงต้องสร้างจิตสำนึกให้เกิดขึ้นทั่วโลกว่า น้ำเป็นสิ่งสำคัญ และมีบทบาทในการพัฒนาที่ยั่งยืน ดังนั้น ชาวโลกต้องยกระดับความรู้ในเรื่องการหมุนเวียนนำน้ำมาใช้ใหม่ และการเพิ่มสมรรถวิสัยต่อการจัดการทรัพยากรน้ำที่หายากนี้
โดยองค์การสหประชาชาติได้กำหนดนโยบายการจัดการแหล่งน้ำอย่างยั่งยืน 5 ประการ ดังนี้
1. การจัดการให้พื้นที่ที่มีความต้องการใช้น้ำมากที่แตกต่างกันได้มีโอกาสใช้น้ำอย่างเท่าเทียมกัน
2. การอนุรักษ์แหล่งน้ำ โดยพัฒนาแหล่งน้ำให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ และไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อแหล่งน้ำ
3. การควบคุมดูแลการใช้น้ำจากแหล่งต้นน้ำให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพและปริมาณการใช้น้ำของแหล่งปลายน้ำ
4. การจัดการกับปัจจัยอื่นๆ โดยดูแลปัจจัยต่างๆ ที่อาจจะมีผลกระทบต่อแหล่งน้ำ
5. การจัดการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามความเหมาะสม
ความสำคัญของ น้ำ 2567
กรมประชาสัมพันธ์ ได้ให้ข้อมูลไว้ องค์การสหประชาชาติ ได้ตระหนักถึงปัญหาการขาดแคลนน้ำที่ทวีความรุนแรงขึ้นและอาจก่อให้เกิดปัญหาการแย่งชิงน้ำขึ้นได้ในอนาคต มีเพื่อเน้นย้ำให้เห็นความสำคัญของน้ำ ซึ่งเป็นความต้องการขั้นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในโลก และกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวในหมู่มวลมนุษยชาติ ในเรื่องการอนุรักษ์น้ำและการพัฒนาแหล่งน้ำ ในปี 1992 สมัชชาสหประชาชาติจึงได้ประกาศให้วันที่ 22 มีนาคมของทุกปีเป็น "วันน้ำโลก" World Water Day
น้ำ เป็นแหล่งกำเนิดชีวิตของสัตว์และพืช คนเรามีชีวิตอยู่โดยขาดน้ำได้ไม่เกิน 3 วัน น้ำยังมีความจำเป็นทั้งในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม รวมถึงสาธารณูปโภค ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์อีกด้วย
จากภาวะการขาดแคลนน้ำและปัญหามลพิษในน้ำมีอัตราสูงขึ้นมากจากการเพิ่มจำนวนของประชากรมนุษย์ส่งผลต่อความต้องการการใช้น้ำ กว่าครึ่งหนึ่งของประชากรโลกประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง อย่างน้อยที่สุด 1 เดือนต่อปี
ผลกระทบของมลพิษในน้ำ และการขาดแคลนน้ำได่ส่งผลถึงความจำเป็นพื้นฐานของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสะอาดของน้ำ โดยในปี 2017 มีการรายงานว่า ประชากรโลกกว่า 3,000 ล้านคน ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาด แม้เพียงเพื่อล้างมือในที่พักอาศัยของตนซึ่งเป็นวิธีการที่ประหยัดและปลอดภัยที่สุดอย่างหนึ่งในการรับมือกับการแพร่กระจายของไวรัสหรือโรคภัยต่าง ๆ เช่น วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID19) เป็นต้น
เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้น้ำอย่างประหยัด
การอาบน้ำ
- การใช้ฝักบัวจะสิ้นเปลืองน้ำน้อยที่สุด รูฝักบัวยิ่งเล็กยิ่งประหยัดน้ำ
การล้างมือ
- แนะนำให้ใช้สบู่เหลวเพราะจะใช้น้ำน้อยกว่าการใช้สบู่ก้อนล้างมือ
การแปรงฟัน
- การใช้น้ำบ้วนปากและแปรงฟันโดยใช้แก้วจะใช้น้ำน้อยกว่าการปล่อยให้น้ำไหลจากก๊อกตลอด
การซักผ้า-ล้างจาน
- ระหว่างซักผ้าไม่ควรเปิดน้ำทิ้งไว้ตลอดเวลา ควรรวบรวมผ้าให้ได้มากพอต่อการซักในแต่ละครั้ง ส่วนจานควรใช้ผ้าเช็ดคราบสกปรกออกก่อนแล้วล้างพร้อมกันในอ่างน้ำจะประหยัดเวลาและประหยัดน้ำ