วิสามัญ! “หน่อง ท่าผา” ลูกน้องกำนันนก นครปฐม มือยิงสารวัตรศิวกร

08 ก.ย. 2566 | 01:23 น.

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) วิสามัญ “หน่อง ท่าผา” ลูกน้องกำนันนก นครปฐม มือยิงสารวัตร "ศิวกร สายบัว" หลังเจ้าตัวยิงสู้ตำรวจขณะพยายามหลบหนี

กรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ทั่วร่างกาย กว่า 7 นัด จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ขณะที่ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล.บาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บริเวณบ้านกำนันนก ในต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม เมื่อกลางดึกวันที่ 6 ก.ย.66 ที่ผ่านมา

ล่าสุด วันนี้ (8 ก.ย.66) เมื่อเวลา 05.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) วิสามัญ นายธนัญชัย หรือ หน่อง หมั่นมาก หรือที่รู้จักในนาม "หน่อง ท่าผา" ลูกน้องกำนันนก ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ จ.462/2556 ลง 7 ก.ย.66 และเป็นมือปืนผู้ก่อเหตุดังกล่าว ได้ที่ซอยโรงเจร้างหลังวัดพระแท่นดงรัง อ.ท่าเรือ จ.กาญจนบุรี ขณะกำลังพยายามต่อสู้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อหลบหนีจากการจับกุม 

รายละเอียดอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน
 

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า ภายหลังสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งลงนามโอนคดีดังกล่าว มาอยู่ในความรับผิดชอบของกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) แล้วนั้น ทาง พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.5 บก.ป. พร้อมพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. เตรียมทำการเบิกตัวนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.469/2566 ลงวันที่ 7 ก.ย.2566 ในความผิดฐาน “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น” ซึ่งเป็น 1 ในผู้ต้องหาคดีดังกล่าว ออกจากห้องควบคุม สภ.เมืองนครปฐม แล้วนำตัวพามายังกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อทำการสอบปากคำต่ออย่างละเอียด พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ครบมือ เฝ้าอารักขาอย่างแน่นหนาตลอดเส้นทาง

รายงานข่าวระบุหลังจากนายประวีณ ตัดสินใจเข้ามอบตัวเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา(7 ก.ย.) และอยู่ในความควบคุมของตำรวจกองปราบ กับ สภ.เมืองนครปฐม ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมานั้น เจ้าตัวยังคงยืนกรานปฏิเสธในข้อกล่าวหา อ้างว่าไม่ได้เป็นผู้สั่งให้นายธนัญชัย หมั่นมาก อายุ 45 ปี หรือ "หน่อง ท่าผา" มือปืนผู้ก่อเหตุ ยิง พ.ต.ต.ศิวกร แต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าอยู่ในเหตุการณ์จริง และ สิ่งที่นายธนัญชัย ทำนั้นก็เป็นการตัดสินใจของเจ้าตัวเอง ไม่เกี่ยวกับตนแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม แม้นายประวีณ จะยืนกรานปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ไม่ได้หนักใจแต่อย่างใด เพราะถือว่าเป็นสิทธิของผู้ต้องหา และมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่โดยเฉพาะคำให้การของพยานผู้เห็นเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ ที่ล้วนให้การไปในทิศทางเดียวกันว่า ก่อนเกิดเหตุนายประวีณ ได้เดินไปนั่งที่โต๊ะของกลุ่มลูกน้อง ก่อนจะมีการพูดคุยอะไรบางอย่างกับนายธนัญชัย

จากนั้นให้หลังประมาณ 5 นาที นายธนัญชัยก็ลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วเดินตรงมาที่ผู้ตายก่อนจะชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่จนเสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากแนวทางสืบสวนยังทราบว่า ในขณะเกิดเหตุ ตัวนายประวีณอยู่ในอาการมึนเมาสุราอย่างหนัก เพราะเริ่มตั้งวงนั่งดื่มกับกลุ่มลูกน้องมาตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ15.00 น. ก่อนที่จะมาเกิดเหตุในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันเดียวกัน       

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบความผิดปกติหลักฐานในที่เกิดเหตุหลายอย่าง โดยเฉพาะหลักฐานเกี่ยวกับกล้องวงจรปิด เพราะพบว่า มีร่องรอยการรื้อถอดเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดทั้งภายในบ้านและบริเวณโดยรอบออกจนหมด ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามีการกระทำดังกล่าวจริงหรือไม่ ซึ่งหากมีการกระทำดังกล่าวจริง อาจถือเป็นการเข้าข่ายกระทำผิดฐานทำลายวัตถุพยานหลักฐานทางคดี