ตร.ห่วงน้องกี้ช่วงสงกรานต์ ขี่-ซ้อนท้าย มอไซด์ใส่หมวกลดสูญเสีย

13 เม.ย. 2566 | 05:25 น.

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนผู้ขับขี่และคนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ให้สวมหมวกนิรภัยตามกฎหมายทุกครั้ง เพื่อลดความสูญเสียช่วงสงกรานต์

พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือน ผู้ขับขี่และคนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ให้ สวมหมวกนิรภัย ตามกฎหมายทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บและการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เนื่องจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นปัญหาสำคัญที่สร้างความสูญเสียเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง ประชาชนมีการสัญจรบนท้องถนนเพิ่มมากขึ้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความห่วงใยในความปลอดภัยของประชาชน

จึงขอรณรงค์และขอความร่วมมือให้ผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์สวมหมวกนิรภัย โดยการสวมหมวกกันน็อกที่ได้มาตรฐาน สามารถช่วยลดความรุนแรงต่อการบาดเจ็บที่ศีรษะได้ถึง 72% ลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้ถึง 39%

ตร.ห่วงน้องกี้ช่วงสงกรานต์ ขี่-ซ้อนท้าย มอไซด์ใส่หมวกลดสูญเสีย

ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนเผยให้เห็นยอดผู้เสียชีวิตสะสมในปี 2566 (1 ม.ค.66-11 เม.ย.66) มีจำนวนสูงถึง 4,478 ราย เป็นเพศชาย 77% และเพศหญิง 23%

โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงอายุ 36-60 ปี (39%) และ 25-35 ปี (21%) โดยผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน 79% เป็นผู้ขับขี่หรือผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ในภาพรวมตามสถิติทุก 1 ชั่วโมงจะมีคนตาย 1 คน จากการขับขี่จักรยานยนต์

อัตราโทษสำหรับการไม่สวมหมวกนิรภัย ปรับสูงสุด 2,000 บาท

ชักชวนให้มีการแข่งรถในทาง จำคุกสูงสุด 6 เดือน ปรับสูงสุด 20,000 บาท

แข่งรถในทาง จำคุกสูงสุด 3 เดือน ปรับสูงสุด 10,000 บาท

เมาแล้วขับ จำคุกสูงสุด 1 ปี ปรับสูงสุด 20,000 บาท ทำผิดซ้ำซ้อนเพิ่มโทษ

ข้อแนะนำในการเลือกหมวกนิรภัยที่ปลอดภัย

  • เลือกชนิดปิดเต็มหน้าหรือชนิดเต็มใบ เพื่อปกป้องศรีษะและใบหน้าให้มากที่สุด
  • เลือกที่ได้รับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม มีสัญลักษณ์ มอก.
  • เลือกขนาดของหมวกนิรภัยให้กระชับ พอดีกับขนาดของศรีษะ
  • เลือกสีสันสดใส มองเห็นชัดเจนแม้ในเวลากลางคืน
  • เปลี่ยนหมวกใบใหม่ทุก 3-5 ปี หรือเปลี่ยนทันทีเมื่อหมวกได้รับการกระแทก

รองโฆษกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีความห่วงใยความปลอดภัยของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์

โดยได้สั่งการให้หน่วยปฏิบัติในพื้นที่ทั่วประเทศและกำลังพลกว่า 100,000 นาย ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

พร้อมอำนวยความสะดวกการจราจรให้กับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา รวมถึงการป้องปรามไม่ให้มีการฝ่าฝืนกฎหมายการบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดอุบัติเหตุ

โดยจะปฏิบัติงานตลอดช่วงเทศกาลไม่มีวันหยุด ประชาชนสามารถแจ้งเหตุร้ายที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง