ย้อนไทม์ไลน์ปฏิบัติการปิดล้อม-จับกุม "สารวัตรคลั่ง"กราดยิงสายไหม 25 ชม.

15 มี.ค. 2566 | 05:16 น.

จับกุมแล้ว! ย้อนไทม์ไลน์ปฏิบัติการปิดล้อม-จับกุม “สารวัตรกานต์” ตำรวจคลั่งกราดยิงในบ้านพักย่านสายไหม ตั้งแต่เมื่อวันอังคารจนถึงวันนี้กว่า 25 ชั่วโมง เผยประวัติเก่งยิงปืนและเป็นผู้ป่วยจิตเวช

 

15 มี.ค.2566 อัปเดตล่าสุด เหตุการณ์ กราดยิง ระทึกขวัญใน ย่านสายไหม โดยผู้ก่อเหตุคือ พ.ต.ท.กิตติกานต์ แสงบุญ อายุ 51 ปี หรือ สารวัตรกานต์ สารวัตรฝ่ายปกครอง ศูนย์พัฒนาด้านการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ได้ก่อเหตุคุ้มคลั่งยิงปืนหลายสิบนัดในบ้านพักย่านสายไหม ตั้งแต่เมื่อวันอังคาร (14 มี.ค.) จนถึงขณะนี้ พุธที่ 15 มี.ค.ราว 12.00 น. แม้จะมีความพยายามเจรจาเกลี้ยกล่อมให้สารวัตรกานต์ สงบสติอารมณ์และยอมมอบตัว แต่ผู้ก่อเหตุยังไม่ยอมให้จับกุมหรือมอบตัว กระทั่งสุดท้าย ตำรวจต้องปฏิบัติการจู่โจมสามารถชาร์จตัวสารวัตรคลั่งสำเร็จ ใช้เวลารวมทั้งสิ้นราว 25 ชั่วโมง 


เปิดประวัติ “สารวัตรกานต์"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.กิตติกานต์ แสงบุญ หรือ สารวัตรกานต์ เป็นคน อ.ป่าซาง จังหวัดลำพูน เมื่อปี 2541 เข้ารับราชการตำรวจในตำแหน่งผบ.หมู่ สังกัดฝ่ายอำนวยการกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ทำหน้าที่พลขับและขนส่ง

ระหว่างนั้นได้ศึกษาต่อระดับปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ควบคู่ไประหว่างทำงาน กระทั่งจบการศึกษาได้สอบเป็นนายตำรวจระดับรองสารวัตร จนได้รับการบรรจุที่กองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 2 ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น

เติบโตในหน้าที่การงานเรื่อยมาจนได้รับการแต่งตั้งเป็น พ.ต.ต.ระดับสารวัตร ในกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 2 จากนั้น เมื่อปี 2562 ถูกโยกย้ายไปกองบัญชาการศึกษา ในตำแหน่งสารวัตรอำนวยการ กระทั่งสองปีต่อมาปี 2565 ถูกโยกย้ายจาก บช.ศ.ไปสังกัดสันติบาลจนถึงปัจจุปัน

ที่ผ่านมาถือว่า สารวัตรกานต์ เป็นนายตำรวจที่มีความรู้ความสามารถและมีความมุมานะจากการเรียนกฎหมายทำให้มีความเจริญเติบโตในหน้าที่การงานจากตำแหน่งพลขับเป็นสารวัตร โดยใช้เวลา 20 ปี

โดยลักษณะนิสัยนั้น  พ.ต.ต.ผู้นี้ เป็นตำรวจที่มีสมาธิสูง มีความสามารถด้านการยิงปืน ผ่านการทดสอบได้รับใบประกาศหลายหลักสูตร ชีวิตส่วนตัว ได้มาเช่าบ้านพักอาศัยอยู่เพียงลำพังขณะที่รับราชการ ส่วนการทำงานก็เป็นที่รักใคร่ของผู้ใต้บังคับบัญชาและเพื่อนฝูง แต่ระยะหลังมีรายงานว่าได้เข้ารับการรักษาตัวด้านจิตเวช ที่โรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่

ไทม์ไลน์เหตุการณ์จนถึงล่าสุด
อังคารที่ 14 มี.ค.2566

- เวลา 11.00 น. ตำรวจรับแจ้งเกิดเหตุ ชายคลุ้มคลั่ง ก่อเหตุ "กราดยิง" จุดเกิดเหตุบริเวณ บ้านมั่นคง แยกซอยสายไหม 46 แขวงและเขตสายไหม กทม. ตำรวจ สน.สายไหม เร่งเข้าระงับเหตุ 

- เวลา 12.00 น. จากการเข้าตรวจสอบ พบว่า ชายคลุ้มคลั่ง คือ "สารวัตรกานต์" พ.ต.ท.กิตติกานต์ แสงบุญ อายุ 51 ปี สังกัดศูนย์พัฒนาด้านการข่าว สันติบาล ยิงปืนอยู่ภายในบ้านพัก เพื่อนผู้ก่อเหตุให้ข้อมูลว่า สารวัตรกานต์ มีอาการป่วยทางจิต แล้วโทรศัพท์ให้มารับ แต่เมื่อมาถึงหน้าบ้าน เขาก็มีอาการคลุ้มคลั่ง และยิงปืนออกมาจากภายในบ้านเป็นระยะ 

เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้วหลังจากใช้เวลาปิดล้อมราว 25 ชั่วโมง

- เวลา 12.30 น. ตำรวจอรินทราช 30 นาย พร้อมตำรวจ สน.สายไหม ระดมกำลังปิดล้อม เพื่อระงับเหตุ หลัง สารวัตรกานต์ "ตำรวจคลั่ง" มีการถือปืนเดินออกมาจากภายในบ้าน พร้อมตะโกนด่าทอเป็นระยะ

- เวลา 13.19 น. เจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อม "สารวัตรกานต์" แต่ปรากฎว่า ยิ่งสร้างความกดดันอย่างหนัก มีการยิงปืนสวนออกมาเป็นระยะกว่า 20 นัด สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านในละแวกติดกัน

- เวลา 14.00 น. ชาวบ้านละแวกใกล้เคียง เล่าว่า สารวัตรกานต์ มีภาวะทางจิต ขาดราชการหลายวัน โดยมักจะเห็นเขาถือโทรศัพท์ ใส่หูฟังพูดคนเดียว และตะโกนด่าทอไปเรื่อย บางวัน จะใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า สร้างความหวาดผวาให้เพื่อนบ้านไปทั่ว

- เวลา 16.10 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการ สืบสวนสอบสวน บช.น.ในฐานะอดีตเคยเป็นผู้บังคับบัญชาในสังกัด เข้าเจรจากับ สารวัตรกานต์ โดยขยายแนวกั้นพื้นที่ เพื่อกันสื่อมวลชนให้ออกห่างจากรัศมีจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร 

- เวลา 16.30 น. ตำรวจเร่งพาตัวผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งอยู่บ้านติดกัน ออกจากจุดเกิดเหตุ

- เวลา 16.40 น. เจ้าหน้าที่พาลูกชายของ สารวัตรกานต์ เข้าเจรจา เกลี้ยกล่อม เพื่อให้วางอาวุธปืน และมอบตัว แต่การเจรจาไม่เป็นผล 

- เวลา 17.20 น. "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาเพื่อควบคุมสถานการณ์ด้วยตนเอง พร้อมสั่งห้ามใช้ความรุนแรง เพราะสารวัตรกานต์ป่วยทางจิต ต้องบำบัด 

- เวลา 18.46 น. เกิดเสียงปืนดังขึ้นต่อเนื่องกว่า 10 นัด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตะโกนออกมาบอกว่า "ผู้ก่อเหตุได้ยิงตอบโต้" ทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจ ยิงแก๊สน้ำตากลับไปทันที แต่ปรากฎว่า แก๊สน้ำตา ไม่สามารถทำอะไรสารวัตรกานต์ได้

- จากนั้นเวลา 20.35 น. หน่วยปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด ร่วม 10 นาย เดินทางมาพร้อมอุปกรณ์และอาวุธพิเศษ เพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์ โดยเจ้าหน้าที่แต่ละนายมีกล้องไนท์วิชั่นติดที่หมวก เพื่อใช้ปฏิบัติภารกิจในที่มืด 

- เวลา 21:42 น. เจ้าหน้าที่ได้ต่อสายให้มารดา สารวัตรกานต์ เข้ามาพูดคุยอีกครั้ง โดยบอกว่า ทุกคนเป็นห่วง เเละกำลังจะรีบเดินทางมาหา แต่เจ้าตัวปฏิเสธที่จะคุยด้วย พร้อมตะโกนออกมาว่า "อยากตาย " ระหว่างนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ประสานทีมจิตแพทย์เข้ามาช่วยพูดคุยเกลี้ยกล่อมอีกทางหนึ่ง 

- เวลา 22.00 น. บิ๊กต่อ เน้นย้ำไม่ใช้ความรุนแรงในการควบคุม เพราะสารวัตรกานต์ ไม่เข้าข่ายเป็นภัยกับคนอื่น ยังให้ใช้การเจรจาเป็นหลัก โดยแพทย์จิตเวช ระบุว่า ผู้ป่วยจิตเวช จะไม่รู้สึกอะไร แม้จะโดนแก๊สน้ำตา

พุธที่ 15 มี.ค.2566

- เวลา 02.00 น. ตำรวจอรินทราช พร้อมคอมมานโด เข้าปิดล้อมบ้านพัก พร้อมระดมยิงแก๊สน้ำตาเข้าไปภายในบ้านกว่า 20 ลูก แต่สารวัตรกานต์ยังไม่ยอมมอบตัวเจ้าหน้าที่

- เวลา 06.00 น. ตำรวจเริ่มรุกหนักหลังเจรจานานไม่เป็นผล จึงปีนบ้านพร้อมบอกให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธ จากนั้นได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นอีกเป็นระยะ โดยเจ้าหน้าที่ได้ตะโกนให้คนที่อยู่ภายในบ้านวางอาวุธ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมาแต่อย่างใด 

- เวลา 06.40 น. เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เพื่อวางแผนกันใหม่ ขณะเดียวกันก็ยังมีการใช้โทรโข่งเจรจาอยู่เป็นระยะ

-12.17 น. ตำรวจปฏิบัติการจู่โจมบุกเข้าบ้านผู้ก่อเหตุ พร้อมชาร์จตัว ล่าสุดได้นำผู้บาดเจ็บซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยระบุว่า เป็นผู้ก่อเหตุนำส่ง ร.พ.ภูมิพลแล้ว เป็นอันจบปฏิบัติการปิดล้อมและจับกุมสารวัตรคลั่งรายนี้ ที่ใช้เวลายาวนานทั้งสิ้นกว่า  25 ชั่วโมง    

ขอบคุณภาพจาก คมชัดลึก