กระแสดรามาด้านการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ ของประเทศไทยช่วงนี้คงเป็นที่จับตามอง ตั้งแต่ประเด็นรถนำนักท่องเที่ยวแบบ VIP บนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเต็มระบบ รวมทั้งการรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่กำลังจะเดินทางมาอย่างไม่ขาดสาย หลังไทยเป็นประเทศเป้าหมายอันดับ 1 ในการเดินทาง
ทำให้ล่าสุดในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจเช็คช่องโหว่การถือบัตรอีลิทการ์ด หรือ Thailand Elite Card เพราะหวั่นกลุ่มทุนจีนสีเทา VIP แอบใช้ประโยชน์เข้าไทยผิดกฎหมาย โดยให้เพิ่มมาตรการตรวจสอบ ทั้งการตรวจสอบสถานะ บริษัทผู้แทนจำหน่าย หรือเอเจ้นท์ เช็คสถานภาพผู้ถือบัตรทุก ๆ 2 ปี หากใครทำการใด ๆ ที่ผิดกฎหมาย หรือ ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม จนมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยเฉพาะการใช้สิทธิประโยชน์โดยทุจริต ไม่ทำตามเงื่อนไขของการเป็นสมาชิก จะเพิกถอนสมาชิกโดยทันที
หากจะพูดถึงสิทธิพิเศษต่างๆที่นักท่องเที่ยวจะได้ก็คงต้องย้อนไปในปี 2546 จนบางคนอาจจะลืมไปว่ามีการสมัครบัตรสมาชิก เพื่อเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยแบบมีสิทธิพิเศษได้เกิดขึ้นครั้งแรกภายใต้โครงการ Thailand Elite โดยจัดตั้งขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ผู้ที่สนใจหันมาทำอีลิทคาร์ด แลกกับสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับหลังสมัครเป็นสมาชิก ซึ่งหากนำมาเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ทำบัตรสมาชิก ที่ต้องติดต่อประสานงานในเรื่องต่าง ๆ ด้วยตัวเอง หรือผ่านตัวแทน ล่าม รวมทั้งไกด์ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก ดังนั้นการเป็นสมาชิกจะได้ประโยชน์ที่มากกว่า
โดยโครงการ Thailand Elite ดำเนินการโดย บริษัท ไทยแลนด์ พรีวิเลจ คาร์ด จำกัด บนการควบคุมของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในส่วนหน้าที่ของบริษัท ไทยแลนด์ พรีวิเลจ คาร์ด จะเป็นผู้บริหารและออกนโยบายพร้อมทั้งอนุมัติโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับบัตรอีลิทคาร์ดโดยตรง รวมทั้งขายบัตร อีลิทคาร์ด ให้กับผู้สนใจที่มีฐานะซึ่งเป็นเป้าหมายหลัก ในราคาเริ่มต้นที่ 500,000 บาท ไปจนถึง 2,000,0000 บาท โดยราคาที่แตกต่างก็มีสิทธิพิเศษที่จะได้รับแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแพ็คเกจ
ประเภทของบัตร Thailand Elite Card
เห็นได้ว่าบัตร Thailand Elite มีสิทธิประโยชน์มากมายในราคาที่ไม่ระคายเคืองกระเป๋าเศรษฐีแน่นอน แต่การใช้งานที่อาจทำไปสู่การใช้ผิดประเภทหรือเอื้อต่อกลุ่มบุคคลที่ต้องการใช้เป็นช่องทางหลีกเลี่ยงกฎหมายก็คงต้องมีการตรวจสอบกันต่อไป