สำนักการระบายน้ำ ลุยแผนปรับภูมิทัศน์พัฒนาคลอง ปี 66

14 ม.ค. 2566 | 13:10 น.

สำนักการระบายน้ำ เปิดแผนปรับปรุงภูมิทัศน์พัฒนาคลอง ปี 66 สร้างระบบบำบัดน้ำเสียชุมชน 6 แห่ง ดันจุดท่องเที่ยวย่านแนวคลอง

นายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ(สนน.) กล่าวถึงความคืบหน้าการบูรณาการความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาแหล่งน้ำและปรับปรุงภูมิทัศน์คลองในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการระบายน้ำร่วมกับสำนักสิ่งแวดล้อม และสำนักงานเขต ดำเนินการตามแผนการรักษาความสะอาดคู คลอง แหล่งน้ำและแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นประจำทุกปี 

จากสถิติจำนวนปริมาณขยะและวัชพืชในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2563-2565 ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากปี 2563ที่มีจำนวนขยะและวัชพืชทั้งหมด 568,023 ตัน เฉลี่ย 47,335 ตัน/เดือน เฉลี่ย 1,578 ตัน/วัน ในปี 2564 มีจำนวนขยะและวัชพืชทั้งหมด 499,445 ตัน เฉลี่ย 41,620 ตัน/เดือน เฉลี่ย 1,387 ตัน/วัน และในปี 2565 มีจำนวนขยะและวัชพืชทั้งหมด 354,426 ตัน เฉลี่ย 29,536 ตัน/เดือน เฉลี่ย 985 ตัน/วัน

ส่วนการสร้างระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ในปีงบประมาณ 2566 จะดำเนินการที่ชุมชนในแฟลต 1-10 ริมคลองหัวลำโพง ชุมชนในอาคาร สงเคราะห์ข้าราชการและลูกจ้างกรุงเทพมหานคร 5 แห่ง บริเวณพื้นที่อาคารสงเคราะห์ บึงกุ่ม ประเวศ อ่อนนุช รามอินทรา 39 และลาดพร้าว 71 และติดตั้งถังดักไขมันที่บ้านเรือนบริเวณชุมชนที่ตั้งอยู่ริมคลองแสนแสบและคลองสาขา ปัจจุบันสามารถติดตั้งได้แล้ว 3,252 ถัง จาก 17,225 ถัง

นอกจากนั้น สำนักการระบายน้ำยังได้รณรงค์สร้างการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน รักษาและพัฒนาแหล่งน้ำ รวมทั้งการปลูกจิตสำนึกประชาชนดูแลแหล่งน้ำ และการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อฟื้นฟูและพัฒนาบริเวณพื้นที่โดยรอบคลองให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว

โดยคัดเลือกคลองที่มีศักยภาพมาพัฒนาต่อยอดเชิงพื้นที่ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวตามแนวคลอง สร้างจุดเช็คอิน จุดชมวิวทิวทัศน์ และกำหนดย่านในการพัฒนา เช่น ย่านวังเดิม ย่านวัดกำแพง ย่านตลาดพลู เป็นต้น และรวบรวมข้อมูลจัดทำแผนพัฒนาต่อเนื่องในระยะต่อไป 

ส่วนในพื้นที่อื่น ๆ สำนักงานเขตได้แต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาผักตบชวาระดับเขต และปลัดกรุงเทพมหานครได้แต่งตั้งชมรมคนริมน้ำครอบคลุมทุกแหล่งน้ำในพื้นที่เขตทั้ง 50 เขต โดยมีชมรมคนริมน้ำ 271 ชุมชน มีหน้าที่ในการอนุรักษ์ฟื้นฟู ดูแลรักษาแม่น้ำ ลำคลอง และแหล่งน้ำให้สะอาด ปราศจากผักตบชวา ขยะและวัชพืช โดยบูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน เน้นการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนและผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหลัก