เพิ่ม thansettakij
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
วันที่ 2 ต.ค. 2565 น.ส.บุปผา ไชยพิณ นายกสมาคมธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไทย กล่าวในเวที The Big Issue 2022 : คุมสัญญาเช่า ลิสซิ่งสะเทือน ซึ่งจัดโดย ฐานเศรษฐกิจ หัวข้อ ธุรกิจลิสซิ่ง จะอยู่อย่างไร ภายใต้กฎกติกา สคบ.ใหม่ ที่จะเริ่มบังคับใช้ 10 ม.ค.2566 ว่า ผลกระทบของการกำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ต้องดูว่า ลูกค้าในกลุ่มมอเตอร์ไซต์เป็นกลุ่มไหน
โดยในปีนี้หลังโควิด ยอดรถมอเตอร์ไซต์ที่มีการซื้อทั้งปีอยู่ที่ 1.7 ล้านคัน ส่วนหนึ่ง 20 เปอร์เซ็นต์ซื้อเงินสด ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่มีความเสี่ยงจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงหรือโดยอ้อม ส่วนกลุ่ม 80 เปอร์เซ็นต์ ที่ต้องใช้บริการสถาบันการเงินในการปล่อยเช่าซื้อ ต้องดูว่า ที่อยู่ใน80 เปอร์เซ็นต์ ต้องแบ่งลูกค้าออกเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มแรกเป็นกลุ่มที่มีประวัติเครดิตดีอยู่แล้ว โดยดูจากประวัติที่กู้ซื้ออะไรก็ตามแล้วจ่ายสินค้าตรงตลอดเวลา กลุ่มนี้เสี่ยงน้อยที่สุด เป็นกลุ่มหลัก อยู่ที่ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์
กลุ่มที่สอง อาจจะมีเครดิตแต่อาจจ่ายล่าช้าบ้าง เป็นกลุ่มที่อาจมีความเสี่ยงบ้าง และกลุ่มที่สาม คือ กลุ่มที่ไม่มีเครดิตเลย
น.ส.บุปผา กล่าวว่า ปัจจุบันไม่ใช่การปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์ไม่มีการควบคุม แต่เราใช้กลไกลด้านการตลาดควบคุม ใช้การแข่งขันที่แท้จริงในการตลาด แม้ว่ากลไกลตลาดอาจจะต่างกัน แต่อาจมีการกำหนดดอกเบี้ยที่แตกต่าง ผู้เล่นในตลาดหลักโดยเฉพาะในสมาคมฯเป็นผู้เล่นที่ที่อยู่ในการกำกับอยู่แล้ว
ส่วนการกำหนดอัตราดอกเบี้ยมีผลกระทบอย่างไรนั้น กลุ่มแรกที่มีความเสี่ยงต่ำ มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อ ทำให้มีโอกาสได้อัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งเป็นผลดี แต่อีกสองกลุ่มต้องถามตัวเองว่า ผู้ประกอบการต้องดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล ก็ต้องลดหนี้สินครัวเรือนที่ไม่จำเป็นลง ซึ่งเราไม่รู้ว่ามอเตอร์ไซต์อยู่ในกลุ่มที่มีความจำเป็นหรือไม่มีความจำเป็น แต่มองไม่แง่หนี้สินครัวเรือนก่อน
ดังนั้น จากที่มีการกำหนดเพดานดอกเบี้ย สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ผู้ประกอบการจะต้องมีการเตรียมการ ขณะที่ผู้บริโภคที่ได้อัตราดอกเบี้ยนี้ ต้องมีความพร้อมในการเข้าถึงสินเชื่อด้วย เพราะเราต้องดูกลุ่มที่มีความเสี่ยงลดลง เพื่อผู้ประกอบการจะได้ดำเนินธุรกิจได้ในกรอบของ สคบ. และผู้บริโภคต้องเตรียมตัว
น.ส.บุปผา กล่าวว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่ๆคือ ผู้บริโภคต้องเตรียมตัวให้พร้อม การเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซต์ จะต้องมีเงินดาวน์ หรือชะลอไว้เพื่อต้องเก็บเงินก่อน ต้องดูในไตรมาสแรก
ส่วนเรื่องการกำหนดอัตราดอกเบี้ยใหม่นั้น ผู้ประกอบการให้ความร่วมมืออยู่แล้ว เพราะการประกาศเพดานไม่ใช่เรื่อใหม่ อัตราใหม่ที่จะเดินไปด้วยกันอยู่ที่ 23 เปอร์เซ็นต์ ทางสมาคมฯมีการวางแผนไว้อยู่แล้ว
ส่วนใหญ่ถ้าซื้อปีหน้าจะกระทบมากไหมนั้น หลังวันที่ 9 ม.ค. 2566 ผู้บริโภคจะรู้เงินต้นและดอกเบี้ยที่จะผ่อนต่อเหลือเท่าไร ปัจจุบันในสัญญาแนบท้ายมีแจ้งไว้ชัดเจน ความชัดเจนมีก่อนหน้านี้แล้ว ถ้าจะรอถึงปีหน้าหรือไม่ กลุ่มซื้อเงินสดขอให้ซื้อเลย เพราะตอนนี้ต้นทุนสูง ค่าเงินอ่อน
ส่วนผู้ที่จะเช่าเช่าซื้อต้องถามตัวเองก่อนว่าอยู่กลุ่มไหน ถ้ามีเครดิต ดอกเบี้ยได้น้อยอยู่แล้ว ส่วนผู้บริโภคที่มีเครดิตไม่ตรง ก็ต้องลดความเสี่ยง เพราะถ้ารอถึงปีหน้าจะเก็บเงินพอหรือไม่ ต้องตัดสินใจเลย สถาบันการเงินที่อยู่ในสมาคม ถึงวันที่ประกาศมีผล หรือไม่แน่ อาจจะมีการปรับใช้ดอกเบี้ยใหม่
“มอเตอร์ไซต์คนไม่ได้ซื้อเป็นเฟอร์นิเจอร์ ซื้อเพราะมีความจำเป็นต้องใช้ ผู้บริโภคจะต้องตัดสินใจเองว่ามีความพร้อมในซื้อปีนี้หรือปีหน้า”
น.ส.บุปผา กล่าวว่า การขอสินเชื่อรถมอเตอร์ไซต์ อนุมัติ 60 เปอร์เซ็นต์ ไม่อนุมัติ 40 เปอร์เซ็นต์ เพราะกลุ่มไม่มีเครดิตหรือเครดิตไม่ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ เราก็อนุมัติเพราะต้องการให้คนอยู่ในระบบ อย่างไรก็ตามถ้าผู้บริโภคมีความจำเป็นก็ต้องหาทางเอามอเตอร์ไซต์ออกมาให้ได้ ถ้าเข้ามาตรงๆไม่ได้ก็ต้องเข้ามาแบบอ้อมๆ เพราะกลุ่มรถมอเตอร์ไซต์ รายได้ต่างกับกลุ่มซื้อรถยนต์
ซึ่งตนยังห่วงลูกค้าจะเดินต่อไหวหรือไม่ ถ้าต้องมาทบทวนกฎหมายอีก 3 ปี ซึ่งก็มีการพูดคุยกันตลอด มองว่าความยั่งยืนต้องมาจากการมีรายได้ก่อน ต้องช่วยกันหลายๆอย่าง กฎหมายฉบับนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วย ผู้ประกอบการก็ต้องช่วยกันและมีการพูดคุยกัน เพราะบริษัทก็มีหนี้ แต่ก็ต้องช่วยส่วนรวม
ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็ต้องดูว่าจะลดความเสียงของเราได้อย่างไรบ้าง ทั้งร้านค้าและผู้ผลิตก็จะต้องมาพูดคุยกันจะไปอย่างไร แต่ตอนนี้ยังเห็นเหรียญด้านเดียวอยู่ อาจต้องดูทิศทางจริงๆในไตรมาสที่ 1 โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจการเช่าซื้อมอเตอร์ไซต์ แต่ละคนจะปรับตัวอย่างไร ถ้าลูกค้าเข้าถึงยากขึ้นเราจะไปอย่างไร
ส่วนเมื่อต้นทุนเพิ่มขึ้นจะปรับตัวอย่างไรนั้น ไม่ต้องเป็นห่วง ผู้ให้บริการในการเช่าซื้อพร้อมมาก การปรับตัวไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ว่าการปรับระบบต่างๆ ไม่ใช่ครั้งแรก เราเตรียมพร้อมเยอะมาก
ที่อยากให้ปรับตัวมากจริงๆคือลูกค้า แม้เพดานดอกเบี้ยลดลงแต่เราทำธุรกิจ แต่เราก็ต้องมีการปรับกลุ่มที่มีความเสี่ยงลดลง เราปรับตัวแน่นอน แต่ผู้บริโภคปรับตัวทันหรือไม่ เวลาเหลือไม่ถึง 60 วัน ปรับตัวทันหรือไม่ในการเก็บเงินออม เพื่อไปดาวน์รถจำนวนเงินที่มากขึ้น
น.ส.บุปผา กล่าวในตอนท้ายว่า สมาคมดำเนินการอยู่ในกรอบและกติกา คนที่ไม่เดินตามกฎกติกาคงไม่สามารถมาอยู่ในเกณฑ์นี้ได้ ผู้ยังไม่เป็นสมาชิกสมาคมฯเรากำลังเปิดรับ เราสู้ในสนามเดียวกัน จับมือไว้แล้วไปด้วยกันน่าจะดีกว่า