น้ำเหนือลด เขื่อนป่าสักฯปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อน

14 ต.ค. 2565 | 12:31 น.

เขื่อนป่าสักฯ ทยอยปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อน หลังน้ำเหนือลดลง จากเดิมอัตรา 820 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที ลดลงเป็นอัตรา 650 ลบ.ม./วินาที

ช่วงวันที่ 30 กันยายน - 6 ตุลาคม 2565 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่อ่อนกำลังลงจากพายุ "โนรู " ปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ในวันที่ 30 กันยายน - 2 ตุลาคม 2565 ทำให้มีฝนตกหนักและหนักมากส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนจำนวนมากปริมาณน้ำฝนไหลเข้าเขื่อนป่าสักฯ ในระหว่างวันที่ 8 - 14 ตุลาคม รวมประมาณเกือบ 500 ล้านลูกบาศก์เมตร ( ลบ.ม.) และวันที่ 14 ตุลาคม คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จะอยู่ที่ 1,000 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเกินความจุที่ระดับเก็บกักสูงสุด ที่ปริมาณ 960 ล้าน ลบ.ม.

เขื่อนป่าสักฯ ทยอยปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อน หลังน้ำเหนือลดลง

กรมชลประทาน จำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักฯจากเดิมอัตรา 830 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็นอัตรา 900 ลบ.มต่อวินาที

ล่าสุดน้ำเหนือในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ลดลงอย่างต่อเนื่อง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ กรมชลประทาน ปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในปัจจุบัน

รายงานสถานการณ์น้ำประจำวันที่ 14/10/65

โดยจะทยอยปรับลดการระบายน้ำแบบขั้นบันได เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบด้านท้ายน้ำ จากเดิมอัตรา 820 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที ลดลงเป็นอัตรา 650 ลบ.ม./วินาที ตามลำดับ ตั้งแต่วันที่ 13 - 15 ตุลาคม 2565 ช่วยลดผลกระทบพื้นที่ด้านท้าย

ทั้งนี้ กรมชลประทาน จะปรับลดการระบายน้ำให้เหมาะสมและสอดคล้องกับปริมาณฝนและปริมาณน้ำที่มาจากพื้นที่ตอนบน เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้มากสุด จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด