ท่ามกลางกระแสดราม่า "ป้าปูนา" หรือ นางรชต คำรอด อายุ 45 ปี เจ้าของสินค้าเกี่ยวกับปูนา ภายใต้ชื่อ "ปูนาฟ้าใส พระรามสอง" ที่ได้ชูป้ายขอคืนค่าสินค้ามูลค่า 284,400 บาท จากนักแสดงตลก จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม และต่อมาป้าปูนา ก็ยังมีกระแสดราม่าเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจปูนากับคู่ค้าต่างๆ ด้วยมูลค่าหลายหมื่นบาท
ธุรกิจเกี่ยวกับ "ปูนา" ตั้งแต่การทำฟาร์มเลี้ยงปูนา ไปจนถึงการแปรรูป "ปูนา"ได้สินค้าได้หลากหลายประเภท เช่น ปูดอง น้ำปู ปูร้า น้ำพริกปู ไปจนถึงข้าวเกรียบปู เป็นต้น ทำให้ภาครัฐมีโครงการส่งเสริมการเลี้ยงปูนา ไปจนถึงการวางมาตรฐาน ตั้งแต่การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเพื่อการบริโภค ทั้งการเลี้ยงในบ่อและการเลี้ยงในแหล่งน้ำสาธารณะ ตั้งแต่การเลี้ยง การจับ จนถึงหลังการจับก่อนการขนส่งออกจากฟาร์ม
เรื่องเล่าจาก นันท์ธนธร มนต์ธนารัตน์ เจ้าของฟาร์มปูนา จังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ตนเองได้พลิกผันมาทำฟาร์มปูนา เนื่องจากผลของโควิด 19 ที่ทำให้ต้องเดินทางกลับประเทศไทย จากเดิมเคยทำงานอยู่ที่ประเทศจีน ผลตอบรับของธุรกิจปูนาของเธอดีเกินคาด สามารถสร้างรายได้ 50,000 - 100,000 บาท ต่อเดือน
จากเงินลงทุนซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ปูนา 600 คู่ ด้วยเงินเก็บก้อนสุดท้าย 80,000 บาท วางแผนใช้พื้นที่หลังบ้านขนาดประมาณ 1 งาน ทำเป็นฟาร์มเลี้ยงปูนา ต่อมาได้เปิดร้านฟาร์มปูนา ขายอาหารพื้นบ้านอีสาน ที่แปรรูปจากฟาร์มปูนาของตนเอง หลังจากนั้นมีลูกค้ามากินอาหารที่ร้านฯ แล้วเกิดการบอกต่อทำให้มีคนรู้จักมากขึ้น
ต่อมาได้พัฒนาสู่การขายพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ปูนา ใช้สื่อออนไลน์จึงทำการตลาดด้วยจัดอบรมการเลี้ยงเพาะพันธุ์ปูนาฟรีให้สำหรับผู้ที่สนใจอยากเลี้ยงปูนา และจำหน่ายพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ปูนาสำหรับผู้ที่ผ่านการอบรม จนทำให้อบต. ในหลายพื้นที่พาคนเข้ามาร่วมอบรม ซึ่งส่วนใหญ่ผู้มาอบรมจะซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กลับไปเลี้ยง จากการบอกกันปากต่อปากทำให้ฟาร์มปูนาแห่งนี้สามารถสร้างรายได้หลักแสนทุกเดือน
"ปูนา" อาจกลายเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจชนิดใหม่ในอนาคต ด้านกรมประมง ได้สร้างมาตรฐานอาหารปลอดภัย (Food Safety) ของผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ เพื่อยกระดับคุณภาพสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยด้านอาหารให้กับผู้บริโภค ด้วยการสร้างมาตรฐาน มาตรฐานการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี (GAP) มกษ. 7436 – 2563 สำหรับฟาร์มที่สมัครใจ
มาตรฐาน มกษ.7436-2563 เป็นมาตรฐานสมัครใจที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ประกาศกำหนดขึ้นในปีพ.ศ. 2563 มีขอบข่ายครอบคลุมกิจกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเพื่อการบริโภค ทั้งการเลี้ยงในบ่อและการเลี้ยงในแหล่งน้ำสาธารณะ ตั้งแต่การเลี้ยง การจับ จนถึงหลังการจับก่อนการขนส่งออกจากฟาร์ม ประกอบด้วยข้อกำหนดที่สำคัญ ได้แก่
ด้านเจ้าของฟาร์มแคร๊บเฮ้าส์ ศรีเพ็ญ พงศ์ทรัพย์เจริญ เปิดเผยถึงการทำฟาร์มปูนาในกระชังพลาสติก ว่าสามารถช่วยลดปัญหาปูนาปนเปื้อนดินโคลน และลดปัญหาปรสิตปูนา มีจุดเด่นคือการเพาะเลี้ยงปูนาในกระชังน้ำใส ซึ่งผลผลิตที่ได้เป็นที่ต้องการของตลาด จากข้อมูลการเพาะเลี้ยงปูนาในกระชังพลาสติกพื้นที่ 2 ไร่ ในปี 2565 ทางฟาร์มสามารถสร้างผลผลิตปูนาได้ 1.5 ตัน ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อการนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ จึงต้องขยายลูกฟาร์ม ซึ่งมีผลผลิตในปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 40 ตัน คิดเป็นมูลค่า 10-20 ล้านบาท
ที่มา มูลนิธิเอสซีจี ,สถานีวิทยุกระจายเสียงเพื่อการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร