แม้เลิกงานแล้วนายจ้างก็ยังไลน์สั่งงาน น่าจะเป็นปัญหาปวดใจของพนักงานหลายบริษัท เมื่อการติดต่อสื่อสารสามารถเชื่อมต่อกันได้ 24 ชั่วโมงไม่เหมือนเก่า อย่างไรก็ตาม ในทางกฎหมายแรงงานนั้น ประเด็นนี้ กำลังถูกทั่วโลกให้ความสำคัญ
ขณะบางประเทศ มีการเปิดช่องให้กับแรงงาน สามารถตัดขาดการสื่อสารนอกเวลาทำงาน หรือ ปิดเครื่องมือสื่อสารหลังเลิกงาน โดยนายจ้างไม่มีสิทธิบอกเลิกจ้างได้
ข้อมูลของ เพจกฎหมายแรงงานของไทย มีการระบุถึงเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจ ว่า ในบ้านเรานั้นมีการเสนอกฎหมายลักษณะนี้แล้วเช่นเดียวกัน แต่กฎหมายจะคลอดเมื่อไหร่นั้นก็ต้องมาลุ้นกันอีกที พร้อมระบุว่า ปัจจุบัน ทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับสิทธิของแรงงาน เกี่ยวกับ สิทธิที่จะตัดขาดการเชื่อมต่อกับที่ทำงาน หรือ "สิทธิที่ปิดเครื่องมือสื่อสาร" ได้
ขณะกฎหมายแรงงานของไทย ระบุชัดเจน หากนายจ้างสั่งงานผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ต้องจ่ายเงินเป็นค่าล่วงเวลา หรือค่าทำงานในวันหยุด หรือค่าล่วงเวลาในวันหยุด
แต่ในแง่ข้อเท็จจริงแล้ว มันควรไปถึงหลักการที่ว่าควรจะมีการเปิดช่อง "สิทธิจะตัดขาดการสื่อสารนอกเวลาทำงาน" หรือที่เรียกว่า “Right to Disconnect” หรือสิทธิที่จะปิดเครื่องมือสื่อสาร ผ่านการเขียนกฎหมายขึ้นมา
ส่วนถ้าปิดเครื่องมือสื่อสาร หรือตัดขาดการเชื่อมต่อ หรือเพิกเฉยต่อข้อความของนายจ้างแล้วผลจะเป็นอย่างไร?
เพจ กฎหมายแรงงาน ชี้ว่า กฎหมายไทยยังไม่คุ้มครองไปถึงว่าห้ามนายจ้างลงโทษ หรือห้ามใช้ประกอบในการให้ความดีความชอบ หรือประเมินขึ้นเงินเดือน ซึ่งเรื่องนี้หากพิจารณากฎหมายแรงงานประเทศฟิลิปปินส์มาตรา 84 ได้กำหนดให้การอ่านอีเมลล์ หรืออ่านข้อความทางโทรศัพท์ หรือการต้องคุยโทรศัพท์ “นอกเวลาทำงานปกติ” เป็นเวลาทำงานด้วย
มาตรา 84A บัญญัติว่า “ลูกจ้างมีสิทธิในการตัดขาดการสื่อสาร และการตัดขาดของลูกจ้างนั้น หรือการเพิกเฉยไม่ตอบสนองในการติดต่อสื่อสารนอกเวลาทำงานปกติจะไม่เป็นเหตุที่นายจ้างจะนำมาลงโทษทางวินัย หรือทางอื่นใดได้
มาตรา 84B ได้กำหนดว่านายจ้างอาจกำหนดนโยบายไว้อย่างชัดแจ้งถึงการติดต่อสื่อสารนอกเวลาทำงานปกติ ด้วยการระบุช่วงเวลาที่ลูกจ้างมีสิทธิเพิกเฉยไม่ตอบสนองต่อการทำงานผ่านสื่ออีเล็กทรอนิกส์หรือวิธีอื่นใด โดยระบุเงื่อนไขและข้อยกเว้น ซึ่งกฎหมายฟิลิปปินส์ได้มีการออกกฎกระทรวงถึงวิธีการประกาศอังกล่าวเอาไว้
ปัญหาว่าลูกจ้างของประเทศไทยหากตัดขาดการเชื่อมต่อ หรือปิดเครื่องมือสื่อสาร หรือเพิกเฉยต่อข้อความสั่งงานนอกเวลาทำงานปกติของนายจ้างแล้วจะเกิดอะไรขึ้น อันนี้ก็น่าคิดพอสมควรตราบใดที่ยังไม่มีกฎหมายเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรแบบประเทศฟิลิปปินส์
ฝรั่งเศสออกกฎหมายออกมาบังคับใช้
ในประเทศฝรั่งเศสมีการบัญญัติกฎหมายออกมาบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มค 2017 ได้สร้างหลัก "สิทธิที่จะตัดขาดการสื่อสารนอกเวลาทำงาน" ขึ้น อันเป็นการสอดคล้องกับหลักการเคารพชั่วโมงการทำงานในเวลาทำงานปกติอย่างเคร่งครัด ซึ่งไม่เกิน 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (ในขณะที่ประเทศไทยไม่เกิน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์)
ในสายตากฎหมายแรงงานฝรั่งเศสถือว่าการทำงานผ่านสื่ออีเล็กทรอนิกส์เป็นการไม่เป็นธรรมต่อลูกจ้างในทางการที่จ้างเนื่องจากไม่มีการจ่ายเงินค่าล่วงเวลาให้แก่ลูกจ้าง
เพื่อแก้ปัญหากรณีนายจ้างสั่งงานผ่าน Social Media นอกเวลาทำงานปกติ โดยมาตรา L 2242-8 ของกฎหมายแรงงานฝรั่งเศสกำหนดว่า
"...หากเป็นเวลานอกเหนือจากช่วงเวลาทำงานปกติลูกจ้างมีสิทธิที่จะตัดขาดการติดต่อสื่อสารทางสื่ออีเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น ไม่อ่าน ไม่ตอบไลน์ อีเมลล์ หรือข้อความที่ถูกส่งมานอกเวลาทำงานปกติโดยไม่มีความผิด และนายจ้างจะนำเอาเหตุแห่งการตัดขาดการติดต่อสื่อสารทางสื่ออีเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการประเมินผลการปฎิบัติงานย่อมไม่ได้" (นันทวัฒน์ บรมานันท์.)
อย่างไรก็ตามนายจ้าง และลูกจ้างอาจทำข้อตกลงยกเว้นเรื่องดังกล่าวได้ หากบริษัทหรือองค์การใดมีการทำงานที่จาเป็นต้องติดต่อ กับลูกจ้างนอกเวลางาน หรือเป็นงานที่ต้องติดต่อกับต่างประเทศที่มีความแตกต่างกันในเรื่องของเขตเวลา ก็อาจกำหนดเงื่อนไขเงื่อนเวลาดังกล่าวเอาไว้ให้ชัดเจน
จากหลักกฎหมายข้างต้นสามารถแยกพิจารณาได้ว่า
ปัจจุบันหลัก "private employees disconnecting from electronic communications during non - work hours" กำลังแพร่หลายไปยังประเทศต่างๆ หรือแม้แต่สหภาพยุโรปได้พูดถึง “สิทธิ์ในการปิด” สิทธิ์ในการปิด หรือที่เรียกว่า "สิทธิ์ในการตัดการเชื่อมต่อ" หมายถึงสิทธิ์ของลูกจ้างที่จะสามารถตัดการเชื่อมต่อจากการทำงานและการไม่สื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน เช่น อีเมล หรือข้อความอื่น ๆ มากขึ้นไปทั่วโลก
ที่มา : เพจกฎหมายแรงงาน