จับสัญญาณ บิ๊กตู่ ลงพื้นที่ ส.ส. ‘ต้องการไปต่อ’

22 ก.ย. 2564 | 03:32 น.

จับสัญญาณบิ๊กตู่ ลงพื้นที่ ส.ส. ‘ต้องการไปต่อ’ : รายงาน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,716 หน้า 12 วันที่ 23 - 25 กันยายน 2564

การลงพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ของ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในวันที่ 22 ก.ย.2564 และการลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ของบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
 

ในวันเดียวกัน ก่อให้เกิดภาพความขัดแย้งที่ชัดเจนขึ้น เพราะเมื่อ “นายกฯ” เคาะกำหนดการเปลี่ยนจากจังหวัดสุโขทัย  เป็นจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ พล.อ. ประวิตร ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ก็มีกระแสข่าวว่า ทางแกนนำทั้ง 2 ฝั่งวัดกำลังขนส.ส.ไปรอรับแข่งกัน เพื่อ “วัดบารมี” หรือไม่
 

ฝั่งของ “พล.อ.ประยุทธ์” มีรายงานว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พยายามระดม ส.ส.ให้ไปร่วมต้อนรับนายกฯ ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ โดยได้ชักชวน ส.ส.กาญจนบุรี ซึ่งมี ส.ส.ของพรรค จำนวน 4 คนด้วย 
 

ส่วนฝั่ง พล.อ.ประวิตร มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยาและเลขาธิการพรรค นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อและประธานวิปรัฐบาล ร่วมคณะด้วยรวมถึงมีรายงานว่า ร.อ.ธรรมนัส ได้กำชับ ส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐ ให้ร่วมคณะไปด้วยจำนวนมาก จนสร้างความลำบากใจให้กับส.ส.บางคน เกิดความลังเลว่าจะไปร่วมกับคณะของ พล.อ.ประยุทธ์ หรือ พล.อ.ประวิตร เพราะกลัวจะถูกมองว่าเลือกฝั่ง

 

ปัดวัดพลังการเมือง 

 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานกล่าวถึงข้อสังเกตของนักวิเคราะห์การเมืองว่าการลงพื้นที่วันเดียวกันของพล.อ.ประยุทธ์ ที่จังหวัดเพชรบุรี ในการดูการเตรียมความพร้อมรับมือฤดูฝนที่นํ้าจะท่วม กับการลงพื้นที่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ของ พล.อ.ประวิตรเป็นการวัดพลังทางการเมืองว่า ทั้ง พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ คุยกันตลอด และเป็นการแบ่งงานกันทำ ประสานงาน 

 

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ดูเรื่องต้นนํ้าที่จังหวังเพชรบุรี ขณะที่พล.อ. ประวิตร ดูนํ้าทางพื้นที่ลุ่ม และได้นัดกับนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรนํ้าแห่งชาติ ไว้แล้ว และเป็นวันว่างที่พร้อมลงพื้นที่หลังการประชุม ครม.วันที่ 21 ก.ย. จึงลงพื้นที่วันที่ 22 ก.ย. เพราะหลังจากนั้นจะเป็นวันหยุดราชการอีก จึงยืนยันได้ว่าไม่มีการวัดพลังกันของกลุ่มการเมือง
 

“ไม่มีการวัดพลังกันของกลุ่มการเมือง และ ส.ส.ในพรรคพลัง ประชารัฐ  ทุกคนอยู่พรรคนี้ด้วยเพราะลุงตู่-ลุงป้อม อยู่แล้ว ซึ่งเมื่อเช้า (21 ก.ย.) ก็ได้ร่วมรับประทานอาหารเช้ากับ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ซึ่งก็คุยกันปกติ เป็นพี่น้องกันคบกันมานาน 50 ปี” นายสุชาติ ระบุ

 

ไม่ได้ยินข่าวยุบสภา  

 

ด้าน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่บรรดาแกนนำพรรคการเมืองทยอยลงพื้นที่จะเป็นสัญญาณการยุบสภาหรือไม่ ว่า ตนเองยังไม่ได้ยินข่าวการยุบสภาดังกล่าว มีเพียงแต่การนำเสนอของสื่อมวลชน และนักการเมืองก็ยังไม่ได้มีการพูดถึงการยุบสภา 
 

“การลงพื้นที่ดังกล่าวเนื่องจากเป็นช่วงปิดสมัยประชุมสภา ซึ่งในอดีตส.ส.ก็จะใช้ช่วงเวลาดังกล่าวลงพื้นที่ เช่นเดียวกับตนเองที่เตรียงลงพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อนำหน้ากากอนามัยไปมอบให้กับส่วนราชการในพื้นที่ เพื่อนำไปดูแลประชาชน เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ลงพื้นที่เกือบครบทั้งประเทศแล้วขาดเพียงภาคเหนือเท่านั้น” 

 

จับสัญญาณ บิ๊กตู่ ลงพื้นที่ ส.ส. ‘ต้องการไปต่อ’

 

 

“บิ๊กตู่” ต้องการไปต่อ 

 

อย่างไรก็ตาม ดร.สติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า มองความเคลื่อนไหวของ“บิ๊กตู่- บิ๊กป้อม” ที่ลงพื้นที่ในช่วงนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า เป็นสัญญาณว่าต้องการจะเป็นนายกฯ ต่อทั้งสมัยนี้และสมัยหน้า 

 

“สัญญาณจะเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากนายกฯ ต้องการไปต่อ และยังต้องการเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคการเมือง ซึ่งค่อนข้างแน่นอนว่าน่าจะยังเป็นพรรคพลังประชารัฐ”

 

ยุบสภาช่วงนี้เร็วไป 

 

“ถ้าพูดในแง่ของการเตรียมยุบสภา เพื่อเลือกตั้งใหม่ ดูเหมือนจะเร็วเกินไป และเป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลจะรีบยุบสภา เพราะดูจากเงื่อนเวลาในการแก้ไขพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญและการเตรียมงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะจบที่อย่างน้อยเดือน ก.พ. ปีหน้า หรือ 6 เดือนหลังจากนี้ก็ถือว่าเร็วที่สุดแล้ว” ดร.สติธรระบุ

 

นักวิชาการจากสถาบันพระปกเกล้า ชี้ด้วยว่า การยุบสภา มี 2 เงื่อนไขให้คำนวณ คือ ดูเรื่องระบบเลือกตั้ง ถ้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเปลี่ยนระบบเลือกตั้งใหม่ พอเปิดสมัยประชุมในเดือน พ.ย. จะมีเวลา 4 เดือน ในการแก้ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญน่าจะประมาณเดือน พ.ย.-ธ.ค.ปีนี้ จนถึงเดือน ก.พ.ปีหน้า ถ้าจะให้เสร็จภายในเดือน พ.ย. จะเป็นการเร่งรัดเกินไป อาจจะเผื่อเวลาเป็นเดือนครึ่งถึงสองเดือนก็ได้ ในการแก้ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 
 

จากนั้นต้องให้ กกต.ทำงานตาม พ.ร.บ. ตั้งแต่แบ่งเขตเลือกตั้ง จนถึงออกระเบียบเลือกตั้ง ต้องใช้ เวลาประมาณ 2 เดือนอยู่แล้ว ต้องมีเวลา 1 เดือนในการประกาศให้คนมาคัดค้าน เท่ากับว่าแก้กฎหมาย 2 เดือนขณะที่ กกต.ต้องออกกฎหมายอีก 2 เดือน ถ้าทำงานแบบขยันมาก ก.พ.ก็น่าจะเสร็จ  

 

ปชป.พร้อมสุด “เลือกตั้ง”

 

ถ้าจะตัดสินใจยุบสภาต้องหลังจากเดือน ก.พ. เป็นอย่างเร็ว ถ้านับจากเดือนนี้ก็จะเป็น 6 เดือนถือว่าเร็วที่สุดแล้ว เป็นการรอแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อใช้บัตร 2 ใบในการเลือกตั้ง แต่ก็จะมีคนบอกว่า นายกฯ ไม่ได้โอเคกับบัตร 2 ใบ เท่าใดนัก บัตรเดียวก็ดีกว่าก็แปลว่ายุบเมื่อไรก็ได้ถ้าไม่สนเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ
 

แต่ความจริงคือ ยุบสภาเมื่อไรก็ได้จริงหรือ สมมุติไม่แก้ระบบเลือกตั้ง แล้วยุบสภา มันมีเงื่อนไขที่ต้องเจอคือ “ไพรมารีโหวต” ต้องไปดูข้อมูลพรรคว่าพรรคการเมืองพร้อมแค่ไหนภายใต้การแข่งขันระบบเก่า แปลว่าตอนนี้พลังประชารัฐยังไม่พร้อม ถ้ายุบสภาตอนนี้ส่งส.ส.ได้แค่กว่า 100 เขต สมมุตินายกฯ บอกไม่สนพลังประชารัฐ เพราะมีพรรคตั้งอยู่แล้ว ยิ่งไม่พร้อมหนักเข้าไปอีก 
 

“ยกเว้น ผมคิดแบบเล่นๆ ถ้า“ลุงตู่” ยุบสภาวันนี้แล้วอยากเป็นนายกฯต่อ ต้องไปเป็นแคนดิเดตนายกฯให้พรรคประชาธิปัตย์ เพราะ พร้อมสุดในการส่งผู้สมัคร 330 เขต ถ้าเป็นตามสูตรนี้รับรองพลิกล็อกถล่มทลาย หักดิบพรรคพลังประชารัฐที่ทะเลาะกัน ถ้าสูตรนี้ก็ทำได้ แต่อาจจะขัดแบบแผนที่เคยปฏิบัติหน่อย เพราะอยู่ๆ มาเสนอคนนอกพรรคอาจจะคิดหนักแต่ในทางการเมือง ถ้ามองว่า นายกฯขยันมากช่วงนี้ ถ้า พ.ย.เลือกตั้ง มีทางเดียวคือ ไปกับระบบเก่า ซึ่งพรรคที่พร้อมที่สุดคือ ประชาธิปัตย์ แต่คนอาจจะมองว่าแปลกประหลาดเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์เลยทีเดียว” ดร.สติธร ระบุ 

 

                              จับสัญญาณ บิ๊กตู่ ลงพื้นที่ ส.ส. ‘ต้องการไปต่อ’

 

การเดินสายลงพื้นที่ของ‘บิ๊กตู่’

 

• 12 ก.ย. 64 สมุทรปราการ มี ส.ส.พลังประชารัฐ 6 คน จากทั้งหมด 7 เขต

 

• 15 ก.ย. 64 ชัยนาท มี ส.ส.พลังประชารัฐ 2 คน จากทั้งหมด 2 เขต

 

• 17 ก.ย. 64 ชลบุรี มี ส.ส.พลังประชารัฐ 5 คน จากทั้งหมด 8 เขต

 

• 22 ก.ย. 64 เพชรบุรี มี ส.ส.พลังประชารัฐ 3 คน จากทั้งหมด 3 เขต 

 

• ยังไม่กำหนดวัน สุโขทัย พื้นที่ของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร ซึ่งมีส.ส.ในสังกัด 20-30 คน  

 

• ยังไม่กำหนดวัน เพชรบูรณ์ มี ส.ส.พลังประชารัฐ 5 คน จากทั้งหมด 5 เขต พื้นที่ของนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลังและผอ.พลังประชารัฐ และยังมีส.ส.ในกลุ่มที่ดูแลอยู่อีกราว 10 คน