"แอร์เอเชีย"เปิดแผงร้านค้าให้พนักงานร่วม100ชีวิตทำอาชีพเสริมฝ่าโควิด

03 ก.ย. 2564 | 04:20 น.

แอร์เอเชียเปิดแผงร้านค้าให้พนักงานขายสินค้าและบริการต่างๆมากกว่า 100 ร้านค้าและบริการ อาทิ ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ร้านด้านการให้บริการ และร้านค้าอื่นๆอีกมากมาย ทำเป็นอาชีพเสริม มีหลายร้านน่าสนใจเช็คได้ที่นี่ ทั้งเผยวัฒนธรรมองค์กรปรับตัวสู้โควิด

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กินระยะเวลายาวนานมาจนถึงปีนี้  ส่งผลให้พนักงานสายการบินในกลุ่มแอร์เอเชีย จำเป็นต้องปรับตัวให้อยู่รอดในช่วงเวลาที่รายได้จากการทำงานประจำลดลง ซึ่งเหล่า Allstars มากความสามารถของแอร์เอเชียนั้นไม่เคยหยุดนิ่ง ทุกคนต่างใช้ความสามารถในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้าหรือการให้บริการมาปรับใช้ จนปัจจุบัน Allstars จำนวนมากได้มีอาชีพเสริม หรือเป็นเจ้าของธุรกิจที่น่าสนใจมากมาย มาดูกันสิว่า  Allstars ของเราได้ริเริ่มทำธุรกิจอะไรกันบ้าง จากแผงร้านค้าของแอร์เอเชีย

 

"แอร์เอเชีย"เปิดแผงร้านค้าให้พนักงานร่วม100ชีวิตทำอาชีพเสริมฝ่าโควิด

 

นายธันวา จำปาภา นักบินผู้ช่วย สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ และพ่วงตำแหน่งเจ้าของร้านครัวซองต์ชื่อดัง “Maesalong Croissant” กล่าวว่า ในช่วงที่หยุดให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศตั้งแต่ปีที่แล้ว จึงได้เริ่มมองหาช่องทางในการหารายได้ โดยเริ่มคิดจากสิ่งที่ตนเองชอบ ส่วนตัวเป็นคนชอบกินครัวซองต์ และได้ไปพบกับร้านที่ชื่นชอบที่จังหวัดเชียงราย เลยตัดสินใจไปเรียนการทำครัวซองต์ และพัฒนาจนมาเป็นร้าน Maesalong Croissant ในทุกวันนี้

 

"แอร์เอเชีย"เปิดแผงร้านค้าให้พนักงานร่วม100ชีวิตทำอาชีพเสริมฝ่าโควิด

 

ร้าน Maesalong Croissan เป็นร้านครัวซองต์เล็กๆในกรุงเทพฯ ย่านสามเสน ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 โดยกลุ่มเพื่อนนักบิน 4 คน นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงวันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จมาก ลูกค้าแนะนำกันปากต่อปาก และแชร์กันในสังคมออนไลน์ จนมียอดขายเกินคาด  โดยหลังจากนี้เราวางแผนจะพัฒนาเมนูใหม่ๆ ขยายไลน์ธุรกิจและเพิ่มสาขา เพื่อให้ความอร่อยของเราเข้าถึงลูกค้าได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

 

“ร้านนี้ได้กลายมาเป็นอีกอาชีพของเราที่มาช่วยเลี้ยงตัวเองได้ในช่วงวิกฤต หากสถานการณ์ดีขึ้นได้กลับมาบินเหมือนเดิม ร้านครัวซองต์นี้จะยังคงเดินหน้าต่อไป เพราะเราพัฒนาและวางระบบระเบียบให้ร้านสามารถเดินหน้าต่อไปได้ด้วยตัวมันเอง” ธันวา กล่าว

วิภาษณีย์ วงศ์พิพิธ หัวหน้าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ หรือ แม่หมอจิ๊ก100รีวิว กล่าวว่า สาเหตุที่ผันตัวจากลูกเรือมาเป็นแม่หมอดูดวงนั้น เกิดจากชอบดูดวงให้เพื่อนซึ่งเพื่อนบอกว่าเราดูแม่นมาก แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้เริ่มมาดูดวงจริงจัง คือช่วงที่มีการประกวดมิสยูนิเวิร์สปีล่าสุด ซึ่งเราทำนายการเข้ารอบของนางงานได้ถูกต้อง จึงเริ่มบอกกันปากต่อปาก แนะนำต่อกันไปเรื่อยๆ จนมีลูกค้าที่เป็นคนนอกติดต่อนัดดูดวงเข้ามาต่อเนื่อง จากที่ใช้เวลาว่างจากการบินมาดูดวง ตอนนี้เราดูดวงเต็มเวลา โดยมีคิวนัดเข้ามายาวถึงเดือนต.ค.แล้ว  

 

"แอร์เอเชีย"เปิดแผงร้านค้าให้พนักงานร่วม100ชีวิตทำอาชีพเสริมฝ่าโควิด

 

“การดูดวงของเราจะเป็นการดูรวม 3 แบบ คือ ใช้วันเดือนปีเกิด ไพ่ยิปซี และไพ่ออราเคิล ดูให้ลูกค้าคนละ  30 นาที สามารถถามได้ทุกคำถาม และเมื่อดูเสร็จลูกค้าสามารถกลับมาปรึกษาหรือขอคำแนะนำจากเราได้อีก นี่จึงถือเป็นจุดแข็งของเราที่ลูกค้าติดใจและกลับมาใช้บริการซ้ำ เพราะพวกเขารู้สึกว่าการดูดวงกับเรานั้นคุ้มค่า เราเชื่อว่าพนักงานทุกคนล้วนมีทักษะส่วนตัวกันอยู่แล้วเมื่อถึงเวลาที่จำเป็น ต่างก็ดึงความสามารถที่ตัวเองมีมาใช้กันได้เป็นอย่างดี” วิภาษณีย์ กล่าว

 

 

ปารวี วาสิกะสิน นักบินตำแหน่งกัปตัน และผู้จัดการฝ่ายความปลอดภัยเที่ยวบิน แผนกนิรภัย สายการบินไทยแอร์เอเชียเจ้าของธุรกิจพวงหรีด “หรีดบุญ” กล่าวว่า ธุรกิจพวงหรีดในปัจจุบันได้พัฒนาไปอย่างมาก ทั้งรูปแบบ และการบริการโดยมีเป้าหมายที่จะลดขยะ ไม่สิ้นเปลือง ซึ่งส่วนตัวสนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว จึงได้พัฒนาธุรกิจ “หรีดบุญ” ขึ้นมา ภายใต้แนวคิดการ Reuse หรือนำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งลูกค้าสามารถสั่งพวงหรีดดอกไม้ประดิษฐ์ของเราได้ในราคาย่อมเยา โดยทางร้านจะเป็นผู้จัดการนำส่งและไปเก็บกลับมาอย่างเรียบร้อย มีพื้นที่การให้บริการ 40 กิโลเมตร จากเขตหลักสี่ และจะนำรายได้จากการขายไปบริจาคเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ล่วงลับ ซึ่งเป็นการบริการที่ตอบสนองลูกค้าทั้งเรื่องการเคารพผู้ล่วงลับ รวมถึงการดูแลสิ่งแวดล้อมในเวลาเดียวกัน 

 

"แอร์เอเชีย"เปิดแผงร้านค้าให้พนักงานร่วม100ชีวิตทำอาชีพเสริมฝ่าโควิด

 

ในช่วงโควิด เรามีเวลามากขึ้นเพราะไม่มีบิน จึงได้เริ่มทำธุรกิจนี้อย่างจริงจังตั้งแต่เดือนก.ค. 2563 และทำต่อเนื่องมาถึงตอนนี้ ปัจจุบันมีพวงหรีดดอกไม้ประดิษฐ์พร้อมให้บริการมากถึง 80 พวง โดย 1 พวง สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 10-20 ครั้ง ซึ่งจะซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา

 

นายเกริก สวัสดิ์ศรี และ นายเอกชัย บัวยัง  เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการลานจอดและอุปกรณ์ สายการบินไทยแอร์เอเชีย ผู้ก่อตั้งบริษัท 78 BUG Service กล่าวว่า บริษัท78 BUG Service เป็นบริษัทที่รับกำจัดปลวกและแมลงตามอาคารบ้านเรือน มีทั้งการให้บริการแบบรายปีและรายครั้ง มีทั้งลูกค้าที่เป็นลักษณะโครงการและที่พักอาศัยส่วนบุคคล บริษัทเริ่มให้บริการมาได้ร่วม 3 ปีแล้ว ในตอนแรกอาชีพนี้เป็นเพียงอาชีพเสริมใช้วันหยุดจากการทำงานไปให้บริการลูกค้า แต่ในปัจจุบันที่มีการหยุดบิน อาชีพนี้ได้กลายมาเป็นรายได้หลักที่ใช้เลี้ยงดูครอบครัว นอกจากนี้ ในช่วงที่มีงานเข้ามาจำนวนมากจะชักชวนเพื่อนพนักงานคนอื่นๆในแผนกมาร่วมงานด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งถือเป็นการช่วยสร้างรายได้เสริมให้แก่พวกเขา และเพื่อให้ทุกคนสามารถผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปด้วยกันได้

 

"แอร์เอเชีย"เปิดแผงร้านค้าให้พนักงานร่วม100ชีวิตทำอาชีพเสริมฝ่าโควิด

 

สำหรับธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง จุดเด่นของเราคือทีมงานผ่านการฝึกอบรมวิธีและขั้นตอนการกำจัดปลวกและแมลงอย่างถูกต้องและได้รับใบรับรองจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งสามารถให้บริการด้วยคุณภาพมาตรฐานและเชื่อถือได้ และอีกหนึ่งสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างมากคือ เรื่องความซื่อสัตย์ และตรงต่อเวลา เพราะงานของเราจำเป็นต้องได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ซึ่งเป็นจุดที่เราได้เรียนรู้มาจากการทำงานประจำของเราในเรื่องการให้บริการลูกค้าอย่างมีมาตรฐาน 

 

“เรามีความสุขที่สามารถหารายได้จากสิ่งใกล้ตัวและสนุกไปกับมัน หากใครอยากทำอาชีพเสริมให้ลองทำและค่อยๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ อย่าเพิ่งท้อ ขอให้ยังมีหวัง และรอวันที่เราจะกลับไปทำงานได้อย่างปกติ” เกริก กล่าว 

 

นอกจากอาชีพเสริมต่างๆของพนักงานเอง บริษัทยังจัดหาอาชีพเสริมอื่นๆ มาแนะนำให้กับพนักงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อหวังให้ทุกคนได้มีรายได้เข้ามาเสริมให้ช่วงที่งานประจำลดลง โดยเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพนักงานของเรานั้นจะมีกำลังใจที่ดี เมื่อถึงเวลาจะสามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่และกลับมาให้บริการผู้โดยสารได้อีกครั้ง

 

ทำความรู้จักและอุดหนุนร้านค้าและบริการที่หลากหลายของเพื่อนพี่น้องพนักงานแอร์เอเชีย มากกว่า 100 ร้านเเละบริการ อาทิ ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ร้านด้านการให้บริการ และร้านค้าอื่นๆอีกมากมาย ได้ ที่นี่ คลิกเลย!

 

ในสถานการณ์โควิด-19 ที่เป็นวิกฤติระดับโลกของมนุษยชาติ ทุกภาคส่วนต่างได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะมาตรการที่ทุกประเทศนำมาใช้คือการจำกัดการเดินทางรูปแบบต่างๆ ซึ่งเเน่นอน “ธุรกิจสายการบิน” คือด่านเเรกที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายดังกล่าว

 

แอร์เอเชียมีกลยุทธ์และเเนวทาง ในการปรับตัวให้เข้ากับทุกสถานการณ์มาตลอด เราต้องเก็บคองอเข่า และทำทุกวิถีทางให้ผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้ ไม่เฉพาะเพียงบริษัท แต่รวมถึง “พนักงาน” ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนองค์กรด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าวันที่โอกาสมาถึง เราจะพร้อม plug and play ได้ทันที ซึ่งแน่นอนจึงเป็นงานที่ท้าทายที่สุดของ “ฝ่ายทรัพยากรบุคคล” ในสถานการณ์ครั้งนี้

 

ทักษะปรับตัวในการทำงานสู่การปรับตัวในชีวิต ผ่านวิกฤติโควิด-19

 

ธีลฎี พันธุมจินดา

 

นางธีลฎี พันธุมจินดา ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ข้อได้เปรียบของแอร์เอเชีย คือเรามีธุรกิจหลักในการให้บริการเดินทางทางอากาศ ซึ่งเป็น mode of transportation ที่ “ความปลอดภัยและมาตรฐานบริการ” ต้องมาเป็นอันดับแรก สิ่งเหล่านี้จะอยู่ในใจของผู้ปฏิบัติงานทุกคนอยู่เเล้ว เมื่อการระบาดของโควิด-19 มาถึง พนักงานทุกคนจึงมีสัญชาตญาณตื่นตัวและตระหนักรู้ทัน และพร้อมตั้งรับต่อทุกการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น

 

“ด้วยวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมให้พนักงานต้องเป๊ะ ทั้งระเบียบวินัยและรับผิดชอบต่อตัวเองอย่างดีอยู่ตลอด เมื่อเกิดวิกฤติที่เราไม่คาดคิด ทุกคนจึงสามารถปรับพฤติกรรมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว นำมาใช้ได้ทั้งกับการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน”

 

นางธีลฎีกล่าวว่า การทำงานในสถานการณ์เเพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยความที่ทุกคน โดยเฉพาะพนักงานที่อยู่ฝ่ายปฏิบัติการต่างๆ เช่น ลูกเรือ พนักงานภาคพื้น ติดนิสัยความละเอียดรอบคอบ จากการรับหน้าที่สำคัญในการดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกกระบวนการอยู่เเล้ว เมื่อจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการสุขอนามัยต่างๆให้เข้มข้นขึ้น จึงไม่ใช่ปัญหา ทุกคนพร้อมช่วยกันคิดเเละปฏิบัติตามข้อระเบียบบังคับอย่างเต็มที่ ซึ่งก็ดีกับทั้งผู้โดยสารเเละพนักงานทุกคนเอง

 

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่อมีมาตรการจำกัดการเดินทางป้องกันการเเพร่ระบาดของโควิด-19 ต่างๆ เกิดขึ้น ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อการปรับลดเที่ยวบินเพื่อให้บริการ แม้บริษัทจะพยายามบริหารจัดการอย่างเต็มที่ เราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่บางนโยบายจำเป็นต้องส่งผลกระทบต่อพนักงานทุกคน โดยเฉพาะเรื่องรายได้

 

งานเสริมจัดหนัก งานหลักจัดเต็ม

 

ตั้งเเต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบเเรก เมื่อต้นปี 2563 โจทย์แรกๆ ของบริษัท คือต้องวางแผนปรับตัวอย่างไรให้ธุรกิจอยู่รอด ควบคู่ทำให้เกิดผลกระทบกับพนักงานน้อยที่สุด จึงเป็นที่มาของโครงการ Second Job Opportunity ภายใต้เเนวคิด “งานเสริมจัดหนัก งานหลักจัดเต็ม”

 

“เมื่อเราจำเป็นต้องเริ่มนโยบายขอความร่วมมือพนักงานในการลางานโดยไม่รับค่าจ้าง เราต้องมีแผนรองรับในการหารายได้ในช่องทางอื่นๆ ของพนักงานมาพร้อมกันด้วย ซึ่งพนักงานเรามีความรู้ความสามารถที่หลากหลาย จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการหาพาร์ทเนอร์จากบริษัทต่างๆ มาสร้างโอกาสการทำงานให้พนักงานที่สนใจ” นางธีลฎีกล่าว

 

"แอร์เอเชีย"เปิดแผงร้านค้าให้พนักงานร่วม100ชีวิตทำอาชีพเสริมฝ่าโควิด

 

กว่า 1 ปีครึ่งจากผลกระทบโควิด-19 แอร์เอเชียสนับสนุนเต็มที่เพื่อหาโอกาสใหม่ๆ ให้พนักงานได้ทำอาชีพเสริม ในความถนัดที่หลากหลาย เช่น หน้าที่รับผิดชอบใหม่ที่ท้าทาย ในหน่วยธุรกิจอื่นๆ ภายใต้กลุ่มแอร์เอเชีย อาทิ ผู้ดูแลจัดการระบบการกระจายสินค้าของ Teleport ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการขนส่งแบบครบวงจรในเครือแอร์เอเชีย และโอกาสที่เกิดจากความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจภายนอก อาทิ การฝึกอบรมพัฒนาเพื่อเป็นนักขายอสังหาริมทรัพย์ โดยอนันดา ดีเวล ลอปเม้นท์, ที่ปรึกษาด้านประกันชีวิต โดย AIA, ที่ปรึกษาด้านผลิตภัณฑ์และบริการ Tune Protect, เจ้าหน้าที่แนะนำผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ, เชฟ ผู้จัดการร้าน บาริสต้า โดย กลุ่มธุรกิจโลตัส ประเทศไทย, พนักงานต้อนรับ โรงพยาบาลปิยะเวท และอีกมากมาย  ซึ่งก็ได้รับความสนใจที่ดี เเละสามารถต่อยอดสร้างรายได้เสริมให้กับพนักงานอีกทางหนึ่ง

 

"แอร์เอเชีย"เปิดแผงร้านค้าให้พนักงานร่วม100ชีวิตทำอาชีพเสริมฝ่าโควิด

 

“สิ่งสำคัญในภาวะวิกฤติคือ การสื่อสารอย่างเปิดเผยเเละจริงใจ เราสื่อสารกันตลอดตั้งเเต่วันเเรกเมื่อเราเจอวิกฤติด้วยกัน ทั้งรูปแบบ Townhall จากพี่ๆ ผู้บริหาร หรือการรับฟีดเเบคจากพนักงานทุกคน ตลอดจนการสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ เช่น แพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ WorkPlace ที่เอื้ออำนวยต่อการสื่อสารแบบสองทาง ทำให้เรารู้ว่าพนักงานมีความรู้สึกนึกคิดอย่างไรในเเต่ละช่วงสถานการณ์ และนำมาปรับพัฒนาวางแนวทางการทำงานให้เห็นภาพเเละเป้าหมายเดียวกันได้ ซึ่งต้องขอบคุณพนักงานทุกๆคน ที่พร้อมเสียสละ และสู้ไปด้วยกันอย่างดี”

 

สุขภาพกายต้องปลอดภัย“สุขภาพใจ” ต้องช่วยกันดูแล

 

People First คือหลักสำคัญในการทำงานของพวกเราชาวแอร์เอเชีย ซึ่งในสถานการณ์การเเพร่ระบาดของโควิด-19 นี้ เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และไม่ใช่แค่สุขภาพกายเท่านั้นที่เราต้องใส่ใจ “สุขภาพใจ” ก็เป็นสิ่งที่เราเองก็มองข้ามไม่ได้

 

บุญราศรี ฉายะวรรณ

 

นางสาวบุญราศรี ฉายะวรรณ เจ้าหน้าที่วัฒนธรรมองค์กร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ฝ่าย People And Culture (PAC)  ห่วงใยและเห็นความสำคัญของสุขภาวะทางกายและใจของพนักงาน ที่เราเรียกทุกคนว่า Allstars มาตลอด จึงจัดโครงการเสริมสร้าง ดูแลความต้องการในด้านต่างๆของ Allstars ในช่วงการทำงาน work from home ที่ความเครียดเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

 

“นอกจากการทำงานเชิงรุกร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อแสวงหาโอกาสและงานเสริมต่างๆ ให้พนักงาน เราต้องดูเเลพนักงานอย่างรอบด้าน ทั้งการบริหารและจัดการสุขภาพทางการเงินจากผู้เชี่ยวชาญ การหากิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพกายและใจ เช่น การออกกำลังกายออนไลน์  หัตถะโยคะ HIIT การให้ความรู้ทางด้านโภชนาการและควบคุมน้ำหนักจากแอปพลิเคชัน Naluri เป็นต้น”

 

นอกจากนี้บริษัทยังสนับสนุนการทำงานของแคมเปญ Peer Support ภายใต้ชื่อโครงการหลัก Allstars Health Coach ที่มีบริการปรึกษานักจิตวิทยา ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจิต เป็นพื้นที่ให้พนักงานได้ระบายความเครียด ความกังวลที่ได้รับในด้านต่างๆของชีวิต พร้อมขอคำปรึกษาจาก พนักงานอาสาสมัครที่ได้รับการฝึกอบรมเพื่อเป็นเพื่อนผู้ฟังที่ดี

 

"แอร์เอเชีย"เปิดแผงร้านค้าให้พนักงานร่วม100ชีวิตทำอาชีพเสริมฝ่าโควิด

 

DNA หนึ่งของชาวแอร์เอเชียคือ เราสามารถสนุกไปได้พร้อมๆกับการเรียนรู้เสมอ แม้สถานการณ์ที่จำเป็นต้องทำงานที่บ้าน บริษัทจึงมีแพลตฟอร์ม “AllstarsWFHmenu” ซึ่ง พนักงานสามารถเลือกเข้าร่วมกิจกรรมตามความสนใจและนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้  ในรูปแบบสัมมนาออนไลน์ต่างๆ อาทิ กิจกรรมสอนภาษา Funthai, สัมมนา Neurodiversity ตลอดจนกิจกรรมเพื่อความบันเทิงและผ่อนคลายความเครียด เช่น pantry talk (pet lovers, ghost stories, karaoke nights) และอีกมากมาย

 

"แอร์เอเชีย"เปิดแผงร้านค้าให้พนักงานร่วม100ชีวิตทำอาชีพเสริมฝ่าโควิด

 

การที่บริษัทเเละพนักงาน จะร่วมเเรงร่วมใจผ่านวิกฤติโควิด-19 ไปด้วยกัน ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในธุรกิจที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างธุรกิจสายการบิน หัวใจสำคัญคือต้องมีวัฒนธรรมองค์กรที่ดี ใส่ใจ วางใจ สื่อสารเเละทำให้เห็นเป้าหมายเดียวกันให้ได้ ซึ่งถือเป็นจุดเเข็งของเเอร์เอเชีย ที่จะทำให้ทั้งบริษัทและพนักงานร่วมฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน