ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,312.53 จุด ลดลง 48.20 จุด หรือ -0.14% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,524.09 จุด เพิ่มขึ้น 1.41 จุด หรือ +0.03% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,309.38 จุด เพิ่มขึ้น 50.15 จุด หรือ +0.33%
ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 1.51% ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันวันที่ 3 หลังจากราคาน้ำมันดิบทรงตัวเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากกลุ่มโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วัน
ดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์พุ่งขึ้น 1.69% ซึ่งเป็นหุ้นที่ปรับตัวแข็งแกร่งสุดในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่าการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 9% เมื่อเทียบรายปี
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีประบตัวขึ้นและเป็นปัจจัยหนุนดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าบริษัทเทคโนโลยีจะได้ประโยชน์จากสภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองบวกว่า เฟดจะเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 374,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 613,000 ตำแหน่ง โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณไทม์ไลน์ในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของเฟด
ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 750,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.2%
นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลการค้าเดือนก.ค., ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนส.ค.จากมาร์กิต และดัชนีภาคบริการเดือนส.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)